逐节对照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แต่พวกเขาตอบว่า “ท่านขอรับ เรามีด้วยกันสิบสองคนพี่น้องพ่อเดียวกัน พ่อของเราอยู่ในดินแดนคานาอัน น้องคนสุดท้องก็อยู่กับท่าน ส่วนน้องอีกคนหนึ่งจากไปแล้ว”
- 新标点和合本 - 他们说:“仆人们本是弟兄十二人,是迦南地一个人的儿子,顶小的现今在我们的父亲那里,有一个没有了。”
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他们说:“仆人们本是兄弟十二人,我们都是迦南地同一个人的儿子。看哪,最小的今日在我们父亲那里,有一个不在了。”
- 和合本2010(神版-简体) - 他们说:“仆人们本是兄弟十二人,我们都是迦南地同一个人的儿子。看哪,最小的今日在我们父亲那里,有一个不在了。”
- 当代译本 - 他们说:“仆人们共有弟兄十二人,父亲住在迦南,最小的弟弟在父亲身边,还有一个已经去世。”
- 圣经新译本 - 他们说:“仆人们本是兄弟十二人,我们都是迦南地一个人的儿子。最小的现在与我们的父亲在一起,还有一个不在了。”
- 中文标准译本 - 他们说:“你的仆人们本是兄弟十二人,都是迦南地同一个人的儿子。看哪,最小的那个现在与我们的父亲在一起,还有一个已经不在了。”
- 现代标点和合本 - 他们说:“仆人们本是弟兄十二人,是迦南地一个人的儿子,顶小的现今在我们的父亲那里,有一个没有了。”
- 和合本(拼音版) - 他们说:“仆人们本是弟兄十二人,是迦南地一个人的儿子,顶小的现今在我们的父亲那里,有一个没有了。”
- New International Version - But they replied, “Your servants were twelve brothers, the sons of one man, who lives in the land of Canaan. The youngest is now with our father, and one is no more.”
- New International Reader's Version - But they replied, “We were 12 brothers. All of us were the sons of one man. He lives in the land of Canaan. Our youngest brother is now with our father. And one brother is gone.”
- English Standard Version - And they said, “We, your servants, are twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan, and behold, the youngest is this day with our father, and one is no more.”
- New Living Translation - “Sir,” they said, “there are actually twelve of us. We, your servants, are all brothers, sons of a man living in the land of Canaan. Our youngest brother is back there with our father right now, and one of our brothers is no longer with us.”
- The Message - They said, “There were twelve of us brothers—sons of the same father in the country of Canaan. The youngest is with our father, and one is no more.”
- Christian Standard Bible - But they replied, “We, your servants, were twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan. The youngest is now with our father, and one is no longer living.”
- New American Standard Bible - But they said, “Your servants are twelve brothers in all, the sons of one man in the land of Canaan; and behold, the youngest is with our father today, and one is no longer alive.”
- New King James Version - And they said, “Your servants are twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan; and in fact, the youngest is with our father today, and one is no more.”
- Amplified Bible - But they said, “Your servants are twelve brothers [in all], the sons of one man in the land of Canaan; please listen: the youngest is with our father today, and one is no longer alive.”
- American Standard Version - And they said, We thy servants are twelve brethren, the sons of one man in the land of Canaan; and, behold, the youngest is this day with our father, and one is not.
- King James Version - And they said, Thy servants are twelve brethren, the sons of one man in the land of Canaan; and, behold, the youngest is this day with our father, and one is not.
- New English Translation - They replied, “Your servants are from a family of twelve brothers. We are the sons of one man in the land of Canaan. The youngest is with our father at this time, and one is no longer alive.”
- World English Bible - They said, “We, your servants, are twelve brothers, the sons of one man in the land of Canaan; and behold, the youngest is today with our father, and one is no more.”
- 新標點和合本 - 他們說:「僕人們本是弟兄十二人,是迦南地一個人的兒子,頂小的現今在我們的父親那裏,有一個沒有了。」
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他們說:「僕人們本是兄弟十二人,我們都是迦南地同一個人的兒子。看哪,最小的今日在我們父親那裏,有一個不在了。」
- 和合本2010(神版-繁體) - 他們說:「僕人們本是兄弟十二人,我們都是迦南地同一個人的兒子。看哪,最小的今日在我們父親那裏,有一個不在了。」
- 當代譯本 - 他們說:「僕人們共有弟兄十二人,父親住在迦南,最小的弟弟在父親身邊,還有一個已經去世。」
- 聖經新譯本 - 他們說:“僕人們本是兄弟十二人,我們都是迦南地一個人的兒子。最小的現在與我們的父親在一起,還有一個不在了。”
- 呂振中譯本 - 他們說:『僕人們弟兄十二個;是 迦南 地一個人的兒子; 頂 小的現今 和我們的父親在一起,還有一個不在了。』
- 中文標準譯本 - 他們說:「你的僕人們本是兄弟十二人,都是迦南地同一個人的兒子。看哪,最小的那個現在與我們的父親在一起,還有一個已經不在了。」
- 現代標點和合本 - 他們說:「僕人們本是弟兄十二人,是迦南地一個人的兒子,頂小的現今在我們的父親那裡,有一個沒有了。」
- 文理和合譯本 - 曰、僕昆弟十二、迦南一人之子、一弟已亡、季者偕父、
- 文理委辦譯本 - 曰、僕昆弟十有二人迦南地一父所生、一弟已亡、季者偕父。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 曰、僕本兄弟十二人、 迦南 地一人之子、今日季者偕父、一弟已亡、
- Nueva Versión Internacional - Pero ellos volvieron a responder: —Nosotros, sus siervos, éramos doce hermanos, todos hijos de un mismo padre que vive en Canaán. El menor se ha quedado con nuestro padre, y el otro ya no vive.
- 현대인의 성경 - “우리는 모두 열두 형제로서 가나안 땅에 사는 한 사람의 아들들입니다. 막내 아들은 지금 아버지와 함께 있고 하나는 없어졌습니다.”
- Новый Русский Перевод - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живет в земле Ханаана. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- Восточный перевод - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живёт в земле Ханаана. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живёт в земле Ханаана. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но они ответили: – Рабов твоих было двенадцать братьев, сыновей одного отца, который живёт в земле Ханона. Младший и сейчас с отцом, а одного больше нет.
- La Bible du Semeur 2015 - – Mais, dirent-ils, nous, tes serviteurs, nous sommes douze frères, fils d’un même père, habitants du pays de Canaan. Le plus jeune est resté avec notre père, et il y en a un qui n’est plus.
- リビングバイブル - 「恐れながら申し上げます。私どもは十二人兄弟で、父親はカナンの地におります。末の弟は父の家に残りました。もう一人は死んでしまいましたが……。」
- Nova Versão Internacional - E eles disseram: “Teus servos eram doze irmãos, todos filhos do mesmo pai, na terra de Canaã. O caçula está agora em casa com o pai, e o outro já morreu”.
- Hoffnung für alle - »Herr«, antworteten sie, »unser Vater lebt in Kanaan. Wir waren zwölf Brüder. Der jüngste ist bei ihm geblieben, und einer von uns lebt nicht mehr.«
- Kinh Thánh Hiện Đại - Họ lại thưa: “Các đầy tớ ngài đây gồm mười hai người, anh em cùng cha, quê tại Ca-na-an. Hiện người út ở nhà với cha, còn một người mất tích.”
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - พวกเขาตอบว่า “พวกเราคือผู้รับใช้ของท่าน เป็นพี่น้อง 12 คน ลูกร่วมบิดาเดียวกันในดินแดนคานาอัน เวลานี้น้องคนสุดท้องอยู่กับบิดาของเรา ส่วนอีกคนไม่อยู่กับเราแล้ว”
交叉引用
- ปฐมกาล 42:36 - ยาโคบบิดาของพวกเขาพูดว่า “พวกเจ้าช่างพรากพ่อพรากลูกเสียจริงๆ โยเซฟก็จากไปแล้ว สิเมโอนก็จากไปแล้ว ตอนนี้พวกเจ้ายังจะเอาตัวเบนยามินไปอีก ข้าก็รับกรรมแต่เพียงคนเดียว!”
- 1พงศาวดาร 2:1 - บุตรของอิสราเอล ได้แก่ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน
- 1พงศาวดาร 2:2 - ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์ ( นรธ.4:18-22 ; มธ.1:3-6 )
- 1พงศาวดาร 2:3 - บุตรของยูดาห์ ได้แก่ เอร์ โอนัน และเชลาห์ ทั้งสามคนเกิดจากธิดาของชูอาชาวคานาอัน เอร์บุตรหัวปีนั้นเป็นคนชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จึงทรงประหารเขา
- 1พงศาวดาร 2:4 - ทามาร์ลูกสะใภ้ของยูดาห์ให้กำเนิดลูกแฝด คือเปเรศกับเศราห์แก่ยูดาห์ ยูดาห์จึงมีบุตรชายทั้งหมดห้าคน
- 1พงศาวดาร 2:5 - บุตรของเปเรศ ได้แก่ เฮสโรนกับฮามูล
- 1พงศาวดาร 2:6 - บุตรของเศราห์ ได้แก่ ศิมรี เอธาน เฮมาน คาลโคล์ และดารดา รวมห้าคน
- 1พงศาวดาร 2:7 - บุตรของคารมี ได้แก่ อาคาร์ ผู้นำความทุกข์ร้อนมาสู่อิสราเอลโดยเก็บสิ่งที่พระเจ้าตรัสสั่งให้ทำลาย
- 1พงศาวดาร 2:8 - บุตรของเอธาน ได้แก่ อาซาริยาห์
- ปฐมกาล 30:6 - แล้วราเชลกล่าวว่า “พระเจ้าทรงตัดสินให้ฉันชนะ พระองค์ทรงสดับฟังคำวิงวอนของฉันและประทานลูกชายแก่ฉัน” เพราะเหตุนี้นางจึงตั้งชื่อเขาว่าดาน
- ปฐมกาล 30:7 - แล้วบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลก็ตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่งและคลอดบุตรชายคนที่สองให้แก่ยาโคบ
- ปฐมกาล 30:8 - แล้วราเชลกล่าวว่า “ฉันได้ต่อสู้กับพี่สาวอย่างหนักมาตลอดและฉันก็ชนะแล้ว” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่านัฟทาลี
- ปฐมกาล 30:9 - เมื่อเลอาห์เห็นว่าตนไม่มีลูกอีก จึงยกศิลปาห์สาวใช้ของตนให้เป็นภรรยาของยาโคบ
- ปฐมกาล 30:10 - ศิลปาห์ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งแก่ยาโคบ
- ปฐมกาล 30:11 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “โชคดีอะไรอย่างนี้!” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ากาด
- ปฐมกาล 30:12 - แล้วศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ก็ให้กำเนิดบุตรชายคนที่สองแก่ยาโคบ
- ปฐมกาล 30:13 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “ฉันสุขใจจริงๆ! พวกผู้หญิงจะเรียกฉันว่าเป็นสุข” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอาเชอร์
- ปฐมกาล 30:14 - วันหนึ่งในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวสาลี รูเบนออกไปที่ทุ่งนาและพบต้นดูดาอิม จึงนำมาให้เลอาห์ผู้เป็นมารดา ราเชลพูดกับเลอาห์ว่า “ขอดูดาอิมของลูกชายพี่ให้ฉันบ้างเถิด”
- ปฐมกาล 30:15 - แต่เลอาห์ตอบนางว่า “เจ้าเอาสามีของฉันไปยังไม่พออีกหรือ? แล้วยังจะมาเอาดูดาอิมของลูกฉันอีกหรือ?” ราเชลกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ให้ยาโคบไปนอนกับพี่คืนนี้ได้ แลกกับดูดาอิมของลูกชายพี่”
- ปฐมกาล 30:16 - เย็นวันนั้นเมื่อยาโคบกลับมาจากทุ่งนา เลอาห์ก็ออกไปพบและพูดว่า “ท่านต้องมานอนกับฉัน เพราะฉันเอาดูดาอิมของลูกเป็นสินจ้างแล้ว” คืนวันนั้นยาโคบก็นอนกับนาง
- ปฐมกาล 30:17 - พระเจ้าทรงฟังเลอาห์ นางก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนที่ห้า
- ปฐมกาล 30:18 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานรางวัลให้ฉันเพราะฉันได้ยกสาวใช้ให้สามี” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าอิสสาคาร์
- ปฐมกาล 30:19 - เลอาห์ได้ตั้งครรภ์อีกและคลอดบุตรชายคนที่หกให้แก่ยาโคบ
- ปฐมกาล 30:20 - แล้วเลอาห์กล่าวว่า “พระเจ้าประทานของขวัญล้ำค่าแก่ฉัน คราวนี้สามีจะยกย่องฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้แก่เขาถึงหกคน” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าเศบูลุน
- ปฐมกาล 30:21 - ต่อมาภายหลัง นางได้คลอดบุตรสาวคนหนึ่งและตั้งชื่อว่าดีนาห์
- ปฐมกาล 30:22 - แล้วพระเจ้าทรงระลึกถึงราเชล พระองค์ทรงฟังนางและให้นางมีบุตร
- ปฐมกาล 30:23 - นางตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “พระเจ้าทรงลบล้างความอับอายของฉันแล้ว”
- ปฐมกาล 30:24 - นางตั้งชื่อเขาว่าโยเซฟ และกล่าวว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเพิ่มลูกชายให้ฉันอีกคนหนึ่ง”
- ปฐมกาล 45:26 - พวกเขาบอกยาโคบว่า “โยเซฟยังมีชีวิตอยู่! จริงๆ แล้วเขาได้เป็นถึงผู้ปกครองอียิปต์ทั้งประเทศ” ยาโคบตะลึงงันและไม่เชื่อพวกเขา
- กันดารวิถี 34:1 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 34:2 - “จงสั่งประชากรอิสราเอลว่า ‘เมื่อเจ้าทั้งหลายเข้าสู่คานาอันดินแดนซึ่งจะแบ่งสรรยกให้เป็นมรดกของเจ้านั้นจะมีพรมแดนดังนี้
- กันดารวิถี 34:3 - “ ‘ดินแดนทางใต้คือถิ่นกันดารศิน เลียบไปตามพรมแดนเอโดม เขตแดนทางใต้ด้านฝั่งตะวันออกเริ่มจากทะเลตาย
- กันดารวิถี 34:4 - ไล่ลงมาผ่านช่องแคบแมงป่องไปยังศิน ลงใต้ไปที่คาเดชบารเนีย เรื่อยมาถึงฮาซารัดดาร์และอัสโมน
- กันดารวิถี 34:5 - จากอัสโมนวกไปตามลำน้ำแห่งอียิปต์และสิ้นสุดลงที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
- กันดารวิถี 34:6 - “ ‘พรมแดนตะวันตกของเจ้าคือชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
- กันดารวิถี 34:7 - “ ‘พรมแดนด้านเหนือของเจ้าเริ่มจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเรื่อยไปถึงภูเขาโฮร์
- กันดารวิถี 34:8 - ไปยังเลโบฮามัท ไปเศดัด
- กันดารวิถี 34:9 - เรื่อยไปถึงศิโฟรนจนจดฮาซาเรนัน
- กันดารวิถี 34:10 - “ ‘พรมแดนตะวันออกเริ่มจากฮาซาเรนันจนถึงที่เชฟาม
- กันดารวิถี 34:11 - เรื่อยลงมาถึงริบลาห์ ด้านตะวันออกของเมืองอายิน ไล่มาตามลาดเขาด้านตะวันออกของทะเลคินเนเรท
- กันดารวิถี 34:12 - แล้วเรื่อยมาตามแม่น้ำจอร์แดนและสิ้นสุดที่ทะเลเกลือ “ ‘นี่จะเป็นดินแดนของพวกเจ้าตามพรมแดนโดยรอบ’ ”
- กันดารวิถี 34:13 - โมเสสสั่งชนอิสราเอลว่า “จงจับฉลากแบ่งสรรดินแดนนี้เป็นมรดก องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาไว้ให้แบ่งกันในหมู่เก้าเผ่าและอีกครึ่งเผ่า
- กันดารวิถี 34:14 - เพราะเผ่ารูเบน กาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้รับมรดกของตนแล้ว
- กันดารวิถี 34:15 - สองเผ่าและครึ่งเผ่านี้ได้รับดินแดนทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนแห่งเยรีโคเป็นมรดก”
- กันดารวิถี 34:16 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 34:17 - “ต่อไปนี้เป็นรายชื่อผู้ที่จะทำหน้าที่จัดสรรมรดกในดินแดนคือ ปุโรหิตเอเลอาซาร์ โยชูวาบุตรนูน
- กันดารวิถี 34:18 - และผู้นำซึ่งได้รับแต่งตั้งจากแต่ละเผ่า เพื่อช่วยแบ่งสรรดินแดนนั้น
- กันดารวิถี 34:19 - รายชื่อของพวกเขา ได้แก่ คาเลบบุตรเยฟุนเนห์ จากเผ่ายูดาห์
- กันดารวิถี 34:20 - เชมูเอลบุตรอัมมีฮูด จากเผ่าสิเมโอน
- กันดารวิถี 34:21 - เอลีดาดบุตรคิสโลน จากเผ่าเบนยามิน
- กันดารวิถี 34:22 - บุคคีบุตรโยกลี ผู้นำจากเผ่าดาน
- กันดารวิถี 34:23 - ฮันนีเอลบุตรเอโฟด ผู้นำจากเผ่ามนัสเสห์บุตรโยเซฟ
- กันดารวิถี 34:24 - เคมูเอลบุตรชิฟทาน ผู้นำจากเผ่าเอฟราอิมบุตรโยเซฟ
- กันดารวิถี 34:25 - เอลีซาฟานบุตรปารนาค ผู้นำจากเผ่าเศบูลุน
- กันดารวิถี 34:26 - ปัลทีเอลบุตรอัสซาน ผู้นำจากเผ่าอิสสาคาร์
- กันดารวิถี 34:27 - อาหิฮูดบุตรเชโลมี ผู้นำจากเผ่าอาเชอร์
- กันดารวิถี 34:28 - เปดาเฮลบุตรอัมมีฮูด ผู้นำจากเผ่านัฟทาลี”
- กันดารวิถี 34:29 - คนเหล่านี้คือผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้จัดสรรมรดกแก่ชนอิสราเอลในดินแดนคานาอัน
- ปฐมกาล 44:28 - คนหนึ่งก็จากเราไปแล้ว เราเข้าใจว่า “เขาถูกสัตว์ร้ายฉีกเป็นชิ้นๆ แน่นอน” และเราก็ไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกเลย
- ปฐมกาล 46:8 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อบุตรชายของอิสราเอล (ยาโคบและพงศ์พันธุ์ของเขา) ผู้ไปอียิปต์ ได้แก่ รูเบน บุตรชายหัวปีของยาโคบ
- ปฐมกาล 46:9 - บุตรของรูเบนได้แก่ ฮาโนค ปัลลู เฮสโรน และคารมี
- ปฐมกาล 46:10 - บุตรของสิเมโอนได้แก่ เยมูเอล ยามีน โอหาด ยาคีน โศหาร์ และชาอูลบุตรชายที่เกิดจากหญิงชาวคานาอัน
- ปฐมกาล 46:11 - บุตรของเลวีได้แก่ เกอร์โชน โคฮาท และ เมรารี
- ปฐมกาล 46:12 - บุตรของยูดาห์ได้แก่ เอร์ โอนัน เชลาห์ เปเรศ และเศราห์ (แต่เอร์และโอนันได้สิ้นชีวิตแล้วในคานาอัน) บุตรของเปเรศได้แก่ เฮสโรน และฮามูล
- ปฐมกาล 46:13 - บุตรของอิสสาคาร์ได้แก่ โทลา ปูอาห์ ยาชูบ และชิมโรน
- ปฐมกาล 46:14 - บุตรของเศบูลุนได้แก่ เสเรด เอโลน และยาเลเอล
- ปฐมกาล 46:15 - คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางเลอาห์ซึ่งให้กำเนิดแก่ยาโคบในปัดดานอารัมนอกเหนือจากดีนาห์บุตรี รวมบุตรชายหญิงทั้งสิ้น 33 คน
- ปฐมกาล 46:16 - บุตรของกาดได้แก่ เซโฟน ฮักกี ชูนี เอสโบน เอรี อาโรดี และอาเรลี
- ปฐมกาล 46:17 - บุตรของอาเชอร์ได้แก่ อิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี และเบรีอาห์ กับเสราห์น้องสาวของพวกเขา บุตรของเบรีอาห์คือ เฮเบอร์และมัลคีเอล
- ปฐมกาล 46:18 - คนเหล่านี้คือลูกหลานของยาโคบทางสายนางศิลปาห์สาวใช้ของเลอาห์ซึ่งลาบันผู้เป็นบิดายกให้นาง รวมทั้งสิ้น 16 คน
- ปฐมกาล 46:19 - บุตรของราเชลภรรยาของยาโคบได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
- ปฐมกาล 46:20 - โยเซฟมีบุตรชายในอียิปต์สองคนคือ มนัสเสห์และเอฟราอิม ทั้งคู่เกิดจากนางอาเสนัทบุตรสาวของโปทิเฟราปุโรหิตแห่งเมืองโอน
- ปฐมกาล 46:21 - บุตรชายของเบนยามิน ได้แก่ เบลา เบเคอร์ อัชเบล เกรา นาอามาน เอไฮ โรช มัปปิม หุปปิม และอาร์ด
- ปฐมกาล 46:22 - คนเหล่านี้เป็นบุตรชายของนางราเชลซึ่งให้กำเนิดแก่ยาโคบ รวมทั้งสิ้น 14 คน
- ปฐมกาล 46:23 - บุตรของดาน ได้แก่ หุชิม
- ปฐมกาล 46:24 - บุตรของนัฟทาลี ได้แก่ ยาซีเอล กูนี เยเซอร์ และชิลเลม
- ปฐมกาล 46:25 - คนเหล่านี้คือลูกหลานของยาโคบทางสายนางบิลฮาห์ซึ่งลาบันยกให้แก่ราเชลบุตรีรวมทั้งสิ้น 7 คน
- ปฐมกาล 46:26 - รวมจำนวนคนที่ไปอียิปต์พร้อมกับยาโคบเฉพาะเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของเขา ไม่รวมบุตรสะใภ้นับได้ 66 คน
- ปฐมกาล 46:27 - นับบุตรชายของโยเซฟอีก 2 คน ที่อียิปต์ รวมคนในครอบครัวยาโคบที่ไปอียิปต์มี 70 คน
- กันดารวิถี 1:1 - วันที่หนึ่งเดือนที่สองของปีที่สอง หลังจากชาวอิสราเอลออกจากประเทศอียิปต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสในเต็นท์นัดพบที่ถิ่นกันดารซีนายว่า
- กันดารวิถี 1:2 - “จงสำรวจสำมะโนประชากรชุมชนอิสราเอลทั้งหมด แยกเป็นรายตระกูลและครอบครัว ให้ทำบัญชีรายชื่อผู้ชายทุกคน
- กันดารวิถี 1:3 - เจ้ากับอาโรนจะต้องนับจำนวนผู้ชายในอิสราเอลที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปซึ่งสามารถทำหน้าที่ในกองทัพได้ โดยแยกพวกเขาออกเป็นหมู่เหล่า
- กันดารวิถี 1:4 - ผู้นำจากแต่ละเผ่า เผ่าละหนึ่งคนจะเป็นผู้ช่วยของเจ้า
- กันดารวิถี 1:5 - ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้นำที่จะมาช่วยเจ้าได้แก่ จากเผ่ารูเบนคือ เอลีซูร์บุตรเชเดเออร์
- กันดารวิถี 1:6 - จากเผ่าสิเมโอนคือ เชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
- กันดารวิถี 1:7 - จากเผ่ายูดาห์คือ นาห์โชนบุตรอัมมีนาดับ
- กันดารวิถี 1:8 - จากเผ่าอิสสาคาร์คือ เนธันเอลบุตรศุอาร์
- กันดารวิถี 1:9 - จากเผ่าเศบูลุนคือ เอลีอับบุตรเฮโลน
- กันดารวิถี 1:10 - จากบุตรของโยเซฟคือ จากเผ่าเอฟราอิมคือ เอลีชามาบุตรอัมมีฮูด จากเผ่ามนัสเสห์คือ กามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
- กันดารวิถี 1:11 - จากเผ่าเบนยามินคือ อาบีดันบุตรกิเดโอนี
- กันดารวิถี 1:12 - จากเผ่าดานคือ อาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัย
- กันดารวิถี 1:13 - จากเผ่าอาเชอร์คือ ปากีเอลบุตรโอคราน
- กันดารวิถี 1:14 - จากเผ่ากาดคือ เอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
- กันดารวิถี 1:15 - จากเผ่านัฟทาลีคือ อาหิราบุตรเอนัน”
- กันดารวิถี 1:16 - คนเหล่านี้ได้รับการแต่งตั้งจากชุมชนให้เป็นผู้นำเผ่าต่างๆ ตามบรรพบุรุษ พวกเขาเป็นหัวหน้าตระกูลต่างๆ ของอิสราเอล
- กันดารวิถี 1:17 - โมเสสและอาโรนได้นำชายเหล่านี้ตามบัญชีรายชื่อที่ให้ไว้มา
- กันดารวิถี 1:18 - และได้เรียกประชุมประชากรทั้งหมดในวันที่หนึ่งเดือนที่สอง ประชาชนได้ระบุบรรพบุรุษของตนตามตระกูลและครอบครัว และได้ขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ชายที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปทีละคน
- กันดารวิถี 1:19 - ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสส ดังนั้นเขาจึงนับจำนวนคนเหล่านี้ในถิ่นกันดารซีนาย
- กันดารวิถี 1:20 - จากวงศ์วานของรูเบนบุตรชายหัวปีของอิสราเอล ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อทีละคนตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:21 - จำนวนพลจากเผ่ารูเบน 46,500 คน
- กันดารวิถี 1:22 - จากวงศ์วานของสิเมโอน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อทีละคนตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:23 - จำนวนพลจากเผ่าสิเมโอน 59,300 คน
- กันดารวิถี 1:24 - จากวงศ์วานของกาด ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:25 - จำนวนพลจากเผ่ากาด 45,650 คน
- กันดารวิถี 1:26 - จากวงศ์วานของยูดาห์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:27 - จำนวนพลจากเผ่ายูดาห์ 74,600 คน
- กันดารวิถี 1:28 - จากวงศ์วานของอิสสาคาร์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:29 - จำนวนพลจากเผ่าอิสสาคาร์ 54,400 คน
- กันดารวิถี 1:30 - จากวงศ์วานของเศบูลุน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:31 - จำนวนพลจากเผ่าเศบูลุน 57,400 คน
- กันดารวิถี 1:32 - จากวงศ์วานของเอฟราอิมบุตรโยเซฟ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:33 - จำนวนพลจากเผ่าเอฟราอิม 40,500 คน
- กันดารวิถี 1:34 - จากวงศ์วานของมนัสเสห์บุตรโยเซฟ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:35 - จำนวนพลจากเผ่ามนัสเสห์ 32,200 คน
- กันดารวิถี 1:36 - จากวงศ์วานของเบนยามิน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:37 - จำนวนพลจากเผ่าเบนยามิน 35,400 คน
- กันดารวิถี 1:38 - จากวงศ์วานของดาน ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:39 - จำนวนพลจากเผ่าดาน 62,700 คน
- กันดารวิถี 1:40 - จากวงศ์วานของอาเชอร์ ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:41 - จำนวนพลจากเผ่าอาเชอร์ 41,500 คน
- กันดารวิถี 1:42 - จากวงศ์วานของนัฟทาลี ผู้ชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ออกรบได้ ขึ้นบัญชีรายชื่อตามตระกูลและตามครอบครัว
- กันดารวิถี 1:43 - จำนวนพลจากเผ่านัฟทาลี 53,400 คน
- กันดารวิถี 1:44 - ทั้งหมดนี้คือจำนวนผู้ชายที่โมเสส อาโรนและผู้นำทั้งสิบสองเผ่าของอิสราเอลได้นับไว้ แต่ละคนเป็นตัวแทนครอบครัวของเขา
- กันดารวิถี 1:45 - คือผู้ชายอิสราเอลอายุยี่สิบปีขึ้นไปทุกคนที่ร่วมทัพได้ ได้ถูกนับไว้ตามครอบครัวของเขา
- กันดารวิถี 1:46 - รวมทั้งสิ้น 603,550 คน
- กันดารวิถี 1:47 - แต่จำนวนนี้ไม่รวมคนเผ่าเลวี
- กันดารวิถี 1:48 - องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับโมเสสไว้ว่า
- กันดารวิถี 1:49 - “ยกเว้นเผ่าเลวี ไม่ต้องลงจำนวนในสำมะโนประชากรของอิสราเอล
- กันดารวิถี 1:50 - แต่จงตั้งคนเลวีให้รับผิดชอบงานเกี่ยวกับพลับพลาแห่งพันธสัญญา พวกเขาต้องเคลื่อนย้ายพลับพลา ดูแลเครื่องใช้และทุกสิ่งที่อยู่ในพลับพลา พวกเขาต้องตั้งเต็นท์อาศัยอยู่รอบพลับพลา
- กันดารวิถี 1:51 - เมื่อใดก็ตามที่มีการเคลื่อนย้ายพลับพลา คนเลวีจะเป็นผู้ปลดพลับพลาลงหรือตั้งขึ้นใหม่ ผู้อื่นที่เข้าใกล้พลับพลาจะต้องถูกประหารชีวิต
- กันดารวิถี 1:52 - ชาวอิสราเอลจะต้องตั้งเต็นท์ของตนเป็นหมู่เหล่า แต่ละคนอยู่ในค่ายของตนภายใต้ธงประจำกอง
- กันดารวิถี 1:53 - ส่วนคนเลวีจะต้องตั้งเต็นท์รอบพลับพลาแห่งพันธสัญญาเพื่อพระพิโรธของพระเจ้าจะไม่ตกแก่ชุมชนอิสราเอล ให้คนเลวีรับผิดชอบดูแลพลับพลาแห่งพันธสัญญา”
- กันดารวิถี 1:54 - ประชากรอิสราเอลก็ปฏิบัติตามทุกสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสส
- ปฐมกาล 35:16 - จากนั้นพวกเขาเดินทางออกจากเบธเอล ขณะที่พวกเขาใกล้จะถึงเอฟราธาห์ ราเชลเริ่มเจ็บท้องคลอดและทรมานมาก
- ปฐมกาล 35:17 - ขณะที่กำลังทุรนทุรายอยู่นั้น นางผดุงครรภ์ก็ปลอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเธอกำลังจะได้ลูกชายอีกคน”
- ปฐมกาล 35:18 - ขณะที่ราเชลกำลังจะสิ้นลมหายใจ นางตั้งชื่อลูกว่าเบนโอนี แต่ยาโคบเรียกเขาว่าเบนยามิน
- ปฐมกาล 35:19 - ราเชลก็สิ้นชีวิตและถูกฝังไว้บนเส้นทางที่จะไปเอฟราธาห์ (คือเบธเลเฮม)
- ปฐมกาล 35:20 - ยาโคบปักเสาหินเหนือหลุมฝังศพของนางเป็นอนุสรณ์ซึ่งยังคงอยู่จนทุกวันนี้
- ปฐมกาล 35:21 - แล้วอิสราเอลก็เดินทางต่อไปอีกครั้ง และได้ตั้งเต็นท์ถัดจากมิกดัลเอเดอร์
- ปฐมกาล 35:22 - ขณะอิสราเอลพักอยู่ในละแวกนั้น รูเบนก็ไปหลับนอนกับบิลฮาห์ภรรยาน้อยของบิดา และอิสราเอลก็ได้ทราบเรื่องนี้ ยาโคบมีบุตรชายสิบสองคน
- ปฐมกาล 35:23 - บุตรชายที่เกิดจากเลอาห์ ได้แก่ รูเบนบุตรชายหัวปีของยาโคบ สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุน
- ปฐมกาล 35:24 - บุตรชายที่เกิดจากราเชล ได้แก่ โยเซฟและเบนยามิน
- ปฐมกาล 35:25 - บุตรชายที่เกิดจากบิลฮาห์สาวใช้ของราเชลได้แก่ ดานและนัฟทาลี
- ปฐมกาล 35:26 - บุตรชายที่เกิดจากศิลปาห์ สาวใช้ของเลอาห์ ได้แก่ กาดและอาเชอร์ ทั้งหมดนี้คือบุตรชายของยาโคบที่เกิดในปัดดานอารัม
- มัทธิว 2:16 - เมื่อเฮโรดตระหนักว่าพวกโหราจารย์หลอกพระองค์ พระองค์ก็กริ้วนัก จึงบัญชาให้ประหารเด็กผู้ชายทั้งปวงในเบธเลเฮมและละแวกใกล้เคียงที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมา คะเนตามระยะเวลาที่ทราบจากพวกโหราจารย์
- เยเรมีย์ 31:15 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ได้ยินเสียงหนึ่งในรามาห์ เป็นเสียงคร่ำครวญสะอึกสะอื้น ราเชลร่ำไห้ถึงลูกๆ ของนาง และไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ เพราะลูกๆ ของนางจากไปเสียแล้ว”
- เพลงคร่ำครวญ 5:7 - บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายทำบาปและตายไปแล้ว ส่วนข้าพระองค์ทั้งหลายต้องมารับโทษแทน
- อพยพ 1:2 - ได้แก่ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์
- อพยพ 1:3 - อิสสาคาร์ เศบูลุน เบนยามิน
- อพยพ 1:4 - ดาน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์
- อพยพ 1:5 - วงศ์วานของยาโคบที่เข้าไปในอียิปต์กับเขานับได้ทั้งหมดเจ็ดสิบคน ส่วนโยเซฟอยู่ที่นั่นแล้ว
- ปฐมกาล 42:38 - แต่ยาโคบตอบว่า “ลูกของเราจะไม่เดินทางลงไปกับพวกเจ้าเด็ดขาด พี่ชายของเขาก็ตายไปแล้ว เหลือเขาอยู่คนเดียว ถ้าเกิดอันตรายขึ้นกับเขาระหว่างทาง พวกเจ้าจะพาให้หัวหงอกของพ่อลงไปสู่แดนคนตายด้วยความโศกเศร้า”
- กันดารวิถี 26:1 - หลังจากภัยพิบัติยุติลงแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและเอเลอาซาร์บุตรปุโรหิตอาโรนว่า
- กันดารวิถี 26:2 - “จงทำสำมะโนประชากรชายทุกคนในอิสราเอลที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไป เพื่อสำรวจว่าในแต่ละครอบครัวมีใครบ้างที่สามารถออกรบได้”
- กันดารวิถี 26:3 - ดังนั้นโมเสสและปุโรหิตเอเลอาซาร์จึงแจ้งพวกเขาขณะตั้งค่ายอยู่ในที่ราบโมอับริมแม่น้ำจอร์แดนตรงข้ามเมืองเยรีโค ว่า
- กันดารวิถี 26:4 - “จงทำสำมะโนประชากรชายอายุยี่สิบปีขึ้นไปตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสส” ชนอิสราเอลที่ออกมาจากอียิปต์ ได้แก่
- กันดารวิถี 26:5 - วงศ์วานของรูเบนบุตรหัวปีของอิสราเอลได้แก่ ตระกูลฮาโนคจากฮาโนค ตระกูลปัลลูจากปัลลู
- กันดารวิถี 26:6 - ตระกูลเฮสโรนจากเฮสโรน ตระกูลคารมีจากคารมี
- กันดารวิถี 26:7 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของรูเบน นับได้ 43,730 คน
- กันดารวิถี 26:8 - บุตรชายของปัลลูคือเอลีอับ
- กันดารวิถี 26:9 - และบุตรชายของเอลีอับคือ เนมูเอล ดาธาน และอาบีรัม ดาธานและอาบีรัมนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของชุมชนซึ่งได้กบฏต่อโมเสสและต่ออาโรน และเป็นพรรคพวกของโคราห์เมื่อเขากบฏต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
- กันดารวิถี 26:10 - พื้นธรณีแยกออกและสูบพวกเขาลงไปพร้อมกับโคราห์ และพรรคพวกของเขา 250 คนถูกไฟคลอกตาย และนั่นเป็นเครื่องเตือนเหล่าประชากร
- กันดารวิถี 26:11 - แต่เชื้อสายโคราห์ไม่ได้สูญสิ้นไป
- กันดารวิถี 26:12 - วงศ์วานของสิเมโอนแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเนมูเอลจากเนมูเอล ตระกูลยามีนจากยามีน ตระกูลยาคีนจากยาคีน
- กันดารวิถี 26:13 - ตระกูลเศราห์จากเศราห์ และตระกูลชาอูลจากชาอูล
- กันดารวิถี 26:14 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของสิเมโอน นับได้ 22,200 คน
- กันดารวิถี 26:15 - วงศ์วานของกาดแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเศโฟนจากเศโฟน ตระกูลฮักกีจากฮักกี ตระกูลชูนีจากชูนี
- กันดารวิถี 26:16 - ตระกูลโอสนีจากโอสนี ตระกูลเอรีจากเอรี
- กันดารวิถี 26:17 - ตระกูลอาโรดี จากอาโรดี และตระกูลอาเรลีจากอาเรลี
- กันดารวิถี 26:18 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของกาด นับได้ 40,500 คน
- กันดารวิถี 26:19 - เอร์และโอนันบุตรชายของยูดาห์เสียชีวิตที่คานาอัน
- กันดารวิถี 26:20 - วงศ์วานของยูดาห์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเชลาห์จากเชลาห์ ตระกูลเปเรศจากเปเรศ ตระกูลเศราห์จากเศราห์
- กันดารวิถี 26:21 - วงศ์วานของเปเรศ ได้แก่ ตระกูลเฮสโรนจากเฮสโรน และตระกูลฮามูลจากฮามูล
- กันดารวิถี 26:22 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของยูดาห์ นับได้ 76,500 คน
- กันดารวิถี 26:23 - วงศ์วานของอิสสาคาร์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลโทลาจากโทลา ตระกูลปูวาห์จากปูวาห์
- กันดารวิถี 26:24 - ตระกูลยาชูบจากยาชูบ และตระกูลชิมโรนจากชิมโรน
- กันดารวิถี 26:25 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของอิสสาคาร์ นับได้ 64,300 คน
- กันดารวิถี 26:26 - วงศ์วานของเศบูลุน แยกตามตระกูลได้แก่ ตระกูลเสเรดจากเสเรด ตระกูลเอโลนจากเอโลน และตระกูลยาเลเอลจากยาเลเอล
- กันดารวิถี 26:27 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเศบูลุน นับได้ 60,500 คน
- กันดารวิถี 26:28 - วงศ์วานของโยเซฟแยกตามตระกูลนับตามมนัสเสห์และเอฟราอิมคือ
- กันดารวิถี 26:29 - วงศ์วานของมนัสเสห์ ได้แก่ ตระกูลมาคีร์จากมาคีร์ (มาคีร์เป็นบิดาของกิเลอาด) ตระกูลกิเลอาดจากกิเลอาด
- กันดารวิถี 26:30 - วงศ์วานของกิเลอาด ได้แก่ ตระกูลอีเยเซอร์จากอีเยเซอร์ ตระกูลเฮเลคจากเฮเลค
- กันดารวิถี 26:31 - ตระกูลอัสรีเอลจากอัสรีเอล ตระกูลเชเคมจากเชเคม
- กันดารวิถี 26:32 - ตระกูลเชมิดาจากเชมิดา และตระกูลเฮเฟอร์จากเฮเฟอร์
- กันดารวิถี 26:33 - (เศโลเฟหัดบุตรเฮเฟอร์ไม่มีบุตรชาย มีแต่บุตรสาวได้แก่ มาห์ลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์และทีรซาห์)
- กันดารวิถี 26:34 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของมนัสเสห์ นับได้ 52,700 คน
- กันดารวิถี 26:35 - วงศ์วานของเอฟราอิมแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลชูเธลาห์จากชูเธลาห์ ตระกูลเบเคอร์จากเบเคอร์ ตระกูลทาหานจากทาหาน
- กันดารวิถี 26:36 - วงศ์วานของชูเธลาห์คือ ตระกูลเอรานจากเอราน
- กันดารวิถี 26:37 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเอฟราอิมนับได้ 32,500 คน ทั้งหมดนี้คือวงศ์วานของโยเซฟแยกตามตระกูล
- กันดารวิถี 26:38 - วงศ์วานของเบนยามินแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเบลาจากเบลา ตระกูลอัชเบลจากอัชเบล ตระกูลอาหิรัมจากอาหิรัม
- กันดารวิถี 26:39 - ตระกูลชูฟาม จากชูฟาม และตระกูลหุฟามจากหุฟาม
- กันดารวิถี 26:40 - วงศ์วานของเบลาทางอาร์ดและนาอามาน ได้แก่ ตระกูลอาร์ดจากอาร์ด และตระกูลนาอามานจากนาอามาน
- กันดารวิถี 26:41 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของเบนยามิน นับได้ 45,600 คน
- กันดารวิถี 26:42 - วงศ์วานของดานแยกตามตระกูลคือ ตระกูลชูฮัมจากชูฮัม นี่คือตระกูลของดาน
- กันดารวิถี 26:43 - ทั้งหมดล้วนอยู่ในตระกูลชูฮัม รวม 64,400 คน
- กันดารวิถี 26:44 - วงศ์วานของอาเชอร์แยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลอิมนาห์จากอิมนาห์ ตระกูลอิชวีจากอิชวี ตระกูลเบรียาห์จากเบรียาห์
- กันดารวิถี 26:45 - และวงศ์วานของตระกูลเบรียาห์ ได้แก่ ตระกูลเฮเบอร์จากเฮเบอร์ ตระกูลมัลคีเอลจากมัลคีเอล
- กันดารวิถี 26:46 - (อาเชอร์มีบุตรสาวคนหนึ่งชื่อเสราห์)
- กันดารวิถี 26:47 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของอาเชอร์นับได้ 53,400 คน
- กันดารวิถี 26:48 - วงศ์วานของนัฟทาลีแยกตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลยาเซเอลจากยาเซเอล ตระกูลกูนีจากกูนี
- กันดารวิถี 26:49 - ตระกูลเยเซอร์จากเยเซอร์ ตระกูลชิลเลมจากชิลเลม
- กันดารวิถี 26:50 - ทั้งหมดนี้คือตระกูลต่างๆ ของนัฟทาลีนับได้ 45,400 คน
- กันดารวิถี 26:51 - รวมพลอิสราเอลทั้งหมดได้ 601,730 คน
- กันดารวิถี 26:52 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสว่า
- กันดารวิถี 26:53 - “จงแบ่งดินแดนแก่เผ่าต่างๆ ตามสัดส่วนจำนวนคนที่นับได้
- กันดารวิถี 26:54 - เผ่าใหญ่ได้รับที่ดินมาก และเผ่าที่เล็กกว่าได้รับที่ดินน้อยลงตามส่วน และแต่ละกลุ่มจะได้รับมรดกตามจำนวนรายชื่อที่ขึ้นทะเบียนไว้
- กันดารวิถี 26:55 - ให้จับฉลากแบ่งดินแดน แต่ละกลุ่มได้ครองกรรมสิทธิ์ตามจำนวนรายชื่อเผ่าบรรพบุรุษ
- กันดารวิถี 26:56 - แบ่งสรรกรรมสิทธิ์โดยจับฉลากตามส่วนเผ่าใหญ่และเผ่าเล็ก”
- กันดารวิถี 26:57 - ต่อไปนี้คือเผ่าเลวีนับตามตระกูล ได้แก่ ตระกูลเกอร์โชนจากเกอร์โชน ตระกูลโคฮาทจากโคฮาท ตระกูลเมรารีจากเมรารี
- กันดารวิถี 26:58 - ต่อไปนี้ก็คือตระกูลของเลวีด้วย ได้แก่ ตระกูลลิบนี ตระกูลเฮโบรน ตระกูลมาห์ลี ตระกูลมูชี ตระกูลโคราห์ (โคฮาทเป็นบรรพบุรุษของอัมราม
- กันดารวิถี 26:59 - ภรรยาของอัมรามชื่อโยเคเบดผู้เป็นเชื้อสายของเลวี ซึ่งเป็นบุตรสาวของชาวเลวี ที่เกิดในอียิปต์ อัมรามมีบุตรชายคืออาโรนกับโมเสส และบุตรสาวชื่อมิเรียม
- กันดารวิถี 26:60 - อาโรนมีบุตรชื่อ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์
- กันดารวิถี 26:61 - แต่นาดับและอาบีฮูสิ้นชีวิตไปเมื่อครั้งจุดไฟที่ไม่ได้รับอนุญาตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า)
- กันดารวิถี 26:62 - จำนวนผู้ชายทั้งหมดในตระกูลเลวีอายุหนึ่งเดือนขึ้นไปนับได้ 23,000 คน แต่ไม่ได้นับรวมเข้าในสำมะโนประชากรของอิสราเอล เพราะชาวเลวีไม่ได้รับส่วนแบ่งที่ดินเหมือนตระกูลอื่นๆ
- กันดารวิถี 26:63 - ทั้งหมดนี้คือสำมะโนประชากรซึ่งโมเสสและปุโรหิตเอเลอาซาร์จัดทำขึ้นในที่ราบโมอับริมแม่น้ำจอร์แดนตรงข้ามเมืองเยรีโค
- กันดารวิถี 26:64 - ไม่มีสักคนเดียวในสำมะโนประชากรนี้ที่มีชื่ออยู่ในสำมะโนประชากรคราวก่อนซึ่งโมเสสและปุโรหิตอาโรนทำขึ้นในถิ่นกันดารซีนาย
- กันดารวิถี 26:65 - ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสแก่ชาวอิสราเอลเหล่านั้นว่าพวกเขาจะตายในถิ่นกันดารแน่นอน ยกเว้นคาเลบบุตรเยฟุนเนห์และโยชูวาบุตรนูน
- ปฐมกาล 42:11 - เราทุกคนเป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน ผู้รับใช้ของท่านเป็นคนสุจริต ไม่ใช่สายลับ”
- กันดารวิถี 10:1 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
- กันดารวิถี 10:2 - “จงทำแตรเงินคู่หนึ่งสำหรับเป่าเรียกชุมนุมและเป็นสัญญาณให้เคลื่อนย้ายค่าย
- กันดารวิถี 10:3 - เมื่อเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงยาว ประชากรทั้งหมดจะมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้าตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ
- กันดารวิถี 10:4 - หากเป่าคันเดียว ให้เฉพาะผู้นำตระกูลต่างๆ ของอิสราเอลมาชุมนุมกันต่อหน้าเจ้า
- กันดารวิถี 10:5 - เมื่อเป่าสัญญาณเสียงสั้นเพื่อจะออกเดินทาง ตระกูลที่ตั้งค่ายพักแรมด้านทิศตะวันออกของพลับพลาจะออกเดินทางก่อน
- กันดารวิถี 10:6 - เมื่อเป่าสัญญาณเสียงสั้นครั้งที่สอง ตระกูลต่างๆ ด้านทิศใต้จะออกเดินทาง เสียงแตรนี้เป็นสัญญาณออกเดินทาง
- กันดารวิถี 10:7 - เมื่อจะเรียกชุมนุมประชากรจงเป่าแตรทั้งสองด้วยเสียงยาว
- กันดารวิถี 10:8 - “บรรดาปุโรหิตบุตรของอาโรนเป็นผู้เป่าแตร นี่ต้องเป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าสืบไปทุกชั่วอายุ
- กันดารวิถี 10:9 - เมื่อเจ้าสู้รบกับศัตรูที่มาข่มเหงเจ้าในดินแดนของเจ้า จงเป่าแตรทั้งสอง แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าจะทรงระลึกถึงเจ้า และช่วยเจ้าให้พ้นจากเหล่าศัตรู
- กันดารวิถี 10:10 - จงเป่าแตรทั้งสองในเทศกาลรื่นเริงของเจ้าด้วย ในเทศกาลต่างๆ ตามเวลาที่กำหนดและวันต้นเดือน เพื่อฉลองเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชา เป็นอนุสรณ์ให้นึกถึงเจ้าต่อหน้าพระเจ้าของเจ้า เราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”
- กันดารวิถี 10:11 - เมฆซึ่งอยู่เหนือพลับพลาแห่งพันธสัญญาลอยขึ้นในวันที่ยี่สิบเดือนที่สองของปีที่สอง
- กันดารวิถี 10:12 - ชาวอิสราเอลจึงออกจากถิ่นกันดารซีนาย ติดตามเมฆจนเมฆนั้นมาหยุดอยู่ที่ถิ่นกันดารปาราน
- กันดารวิถี 10:13 - พวกเขาออกเดินทางเป็นครั้งแรกตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาผ่านทางโมเสส
- กันดารวิถี 10:14 - หมู่เหล่าของค่ายยูดาห์ออกเดินทางก่อนภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีนาห์โชนบุตรอัมมีนาดับเป็นผู้นำ
- กันดารวิถี 10:15 - ถัดจากนั้นคือเผ่าอิสสาคาร์ นำโดยเนธันเอลบุตรศุอาร์
- กันดารวิถี 10:16 - ถัดไปคือเผ่าเศบูลุน นำโดยเอลีอับบุตรเฮโลน
- กันดารวิถี 10:17 - เมื่อรื้อพลับพลาลงแล้ว คนเกอร์โชนและคนเมรารีก็นำส่วนประกอบของพลับพลาขึ้นเกวียน แล้วติดตามเป็นกลุ่มต่อไป
- กันดารวิถี 10:18 - จากนั้นคือหมู่เหล่าของค่ายรูเบน เคลื่อนขบวนออกไปภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีเอลีซูร์บุตรเชเดเออร์เป็นผู้นำ
- กันดารวิถี 10:19 - ถัดไปคือเผ่าสิเมโอนนำโดยเชลูมิเอลบุตรศูริชัดดัย
- กันดารวิถี 10:20 - แล้วถึงเผ่ากาดนำโดยเอลียาสาฟบุตรเดอูเอล
- กันดารวิถี 10:21 - จากนั้นคือคนโคฮาทซึ่งแบกของบริสุทธิ์ประจำพลับพลาพลับพลาจะถูกตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้วก่อนที่พวกเขาจะไปถึง
- กันดารวิถี 10:22 - ถัดไปคือหมู่เหล่าของค่ายเอฟราอิมเคลื่อนขบวนออกไปภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีเอลีชามาบุตรอัมมีฮูดเป็นผู้นำ
- กันดารวิถี 10:23 - แล้วถึงเผ่ามนัสเสห์นำโดยกามาลิเอลบุตรเปดาซูร์
- กันดารวิถี 10:24 - และเผ่าเบนยามินนำโดยอาบีดันบุตรกิเดโอนี
- กันดารวิถี 10:25 - ท้ายขบวนคือกลุ่มระวังหลัง หมู่เหล่าของค่ายดานเคลื่อนขบวนออกไปภายใต้ธงประจำกองของพวกเขา โดยมีอาหิเยเซอร์บุตรอัมมีชัดดัยเป็นผู้นำ
- กันดารวิถี 10:26 - เผ่าอาเชอร์นำโดยปากีเอลบุตรโอคราน
- กันดารวิถี 10:27 - และเผ่านัฟทาลีนำโดยอาหิราบุตรเอนัน
- กันดารวิถี 10:28 - ลำดับขบวนการเดินทางของชาวอิสราเอลเป็นไปตามนี้
- กันดารวิถี 10:29 - ครั้งนั้นโมเสสพูดกับโฮบับบุตรเรอูเอลชาวมีเดียนพ่อตาของโมเสสว่า “เราทั้งหลายจะออกเดินทางไปยังดินแดนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้ว่า ‘เราจะให้เจ้า’ เชิญมาร่วมเดินทางกับเราเถิด เราจะปฏิบัติต่อท่านอย่างดี เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสัญญาจะประทานสิ่งดีแก่อิสราเอล”
- กันดารวิถี 10:30 - เขาตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไม่ไป ข้าพเจ้าจะกลับภูมิลำเนาไปหาพวกพ้องของข้าพเจ้า”
- กันดารวิถี 10:31 - แต่โมเสสกล่าวว่า “อย่าจากเราไปเลย ท่านชำนาญลู่ทางในการตั้งค่ายพักแรมกลางถิ่นกันดาร ท่านจะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้พวกเรา
- กันดารวิถี 10:32 - ถ้าท่านไปกับเรา เราจะแบ่งปันสิ่งดีทุกอย่างที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เราให้กับท่าน”
- กันดารวิถี 10:33 - ดังนั้นพวกเขาจึงออกเดินทางจากภูเขาแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและเดินทางเป็นเวลาสามวัน ในระหว่างนั้นมีหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้านำหน้าเพื่อหาสถานที่ตั้งค่ายพักสำหรับพวกเขา
- กันดารวิถี 10:34 - เมื่อพวกเขาออกเดินทางจากค่าย เมฆขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือพวกเขาในเวลากลางวัน
- กันดารวิถี 10:35 - ทุกครั้งที่หีบพันธสัญญานำหน้าไป โมเสสกล่าวว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงลุกขึ้น! ให้ศัตรูทั้งหลายของพระองค์กระจัดกระจายไป ให้บรรดาข้าศึกเตลิดหนีไปต่อหน้าพระองค์”
- กันดารวิถี 10:36 - และเมื่อวางหีบพันธสัญญาลง เขากล่าวว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าขอทรงเสด็จกลับมา สู่ประชากรอิสราเอลนับแสนนับล้านนี้เถิด”
- ปฐมกาล 29:32 - เลอาห์ก็ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางตั้งชื่อให้เขาว่ารูเบน เนื่องจากนางกล่าวว่า “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นความทุกข์ยากของฉัน บัดนี้สามีจะรักฉันแน่”
- ปฐมกาล 29:33 - แล้วนางก็ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยินว่าฉันไม่เป็นที่รัก พระองค์จึงประทานลูกชายคนนี้ให้ฉันด้วย” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าสิเมโอน
- ปฐมกาล 29:34 - นางได้ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “ในที่สุดสามีจะมาผูกพันอยู่กับฉัน เพราะฉันได้คลอดลูกชายสามคนให้แก่เขา” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่าเลวี
- ปฐมกาล 29:35 - นางได้ตั้งครรภ์อีก และเมื่อนางคลอดบุตรชายคนหนึ่ง นางกล่าวว่า “คราวนี้ฉันจะสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า” ดังนั้นนางจึงตั้งชื่อเขาว่ายูดาห์ แล้วนางก็หยุดให้กำเนิดบุตร
- มัทธิว 2:18 - “ได้ยินเสียงหนึ่งในรามาห์ เสียงสะอึกสะอื้นคร่ำครวญ ราเชลร่ำไห้ถึงบรรดาบุตรของนาง และไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ เพราะบุตรทั้งหลายจากไปเสียแล้ว”
- ปฐมกาล 43:7 - พวกเขาตอบว่า “ก็เขาเจาะจงถามถึงพวกเราและครอบครัวของเรา เขาถามเราว่า ‘พ่อของเจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือ? เจ้ามีน้องอีกคนหนึ่งไหม?’ เราเพียงแต่ตอบไปตามที่เขาถาม เราจะไปรู้หรือว่าเขาจะสั่งว่า ‘จงพาน้องชายของพวกเจ้าลงมาที่นี่’?”
- ปฐมกาล 42:32 - เรามีกันสิบสองคนพี่น้องพ่อเดียวกัน คนหนึ่งจากไปแล้ว และคนสุดท้องยังอยู่กับพ่อในคานาอัน’
- ปฐมกาล 44:20 - พวกเราก็ตอบว่า ‘เรามีพ่อผู้ชรา และมีน้องสุดท้องคนหนึ่งซึ่งเกิดมาตอนที่พ่ออายุมากแล้ว พี่ชายของเขาตายไปแล้ว เขาเป็นลูกที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของแม่เขา และพ่อก็รักเขา’
- ปฐมกาล 37:30 - เขากลับมาหาน้องๆ และพูดว่า “เด็กนั้นไม่อยู่เสียแล้ว! พี่จะทำอย่างไรดี?”