逐節對照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - พระองค์ทรงนำพวกเขาออกมาจากความมืดมิดหม่นหมอง และทรงทำลายโซ่ตรวนของพวกเขา
- 新标点和合本 - 他从黑暗中和死荫里领他们出来, 折断他们的绑索。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 他从黑暗中、从死荫里领他们出来, 扯断他们的捆绑。
- 和合本2010(神版-简体) - 他从黑暗中、从死荫里领他们出来, 扯断他们的捆绑。
- 当代译本 - 祂带领他们脱离黑暗和死亡的阴影, 断开他们的锁链。
- 圣经新译本 - 他从黑暗里和死荫中把他们领出来, 弄断他们的锁链。
- 中文标准译本 - 他把他们从黑暗和死荫里领出来, 拉断他们的绳索。
- 现代标点和合本 - 他从黑暗中和死荫里领他们出来, 折断他们的绑索。
- 和合本(拼音版) - 他从黑暗中和死荫里领他们出来, 折断他们的绑索。
- New International Version - He brought them out of darkness, the utter darkness, and broke away their chains.
- New International Reader's Version - He brought them out of the deepest darkness. He broke their chains off.
- English Standard Version - He brought them out of darkness and the shadow of death, and burst their bonds apart.
- New Living Translation - He led them from the darkness and deepest gloom; he snapped their chains.
- Christian Standard Bible - He brought them out of darkness and gloom and broke their chains apart.
- New American Standard Bible - He brought them out of darkness and the shadow of death And broke their bands apart.
- New King James Version - He brought them out of darkness and the shadow of death, And broke their chains in pieces.
- Amplified Bible - He brought them out of darkness and the deep (deathly) darkness And broke their bonds apart.
- American Standard Version - He brought them out of darkness and the shadow of death, And brake their bonds in sunder.
- King James Version - He brought them out of darkness and the shadow of death, and brake their bands in sunder.
- New English Translation - He brought them out of the utter darkness, and tore off their shackles.
- World English Bible - He brought them out of darkness and the shadow of death, and broke away their chains.
- 新標點和合本 - 他從黑暗中和死蔭裏領他們出來, 折斷他們的綁索。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 他從黑暗中、從死蔭裏領他們出來, 扯斷他們的捆綁。
- 和合本2010(神版-繁體) - 他從黑暗中、從死蔭裏領他們出來, 扯斷他們的捆綁。
- 當代譯本 - 祂帶領他們脫離黑暗和死亡的陰影, 斷開他們的鎖鏈。
- 聖經新譯本 - 他從黑暗裡和死蔭中把他們領出來, 弄斷他們的鎖鍊。
- 呂振中譯本 - 永恆主 就領了他們從幽暗漆黑中出來, 掙開他們的捆綁。
- 中文標準譯本 - 他把他們從黑暗和死蔭裡領出來, 拉斷他們的繩索。
- 現代標點和合本 - 他從黑暗中和死蔭裡領他們出來, 折斷他們的綁索。
- 文理和合譯本 - 導出幽暗死蔭、斷其縶維兮、
- 文理委辦譯本 - 脫之於患難陰翳之地、斷其縶維兮、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 從幽暗死陰中救之使出、折斷拘之之縲絏、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 忽然開朗。天地一新。主實垂憐。桎梏脫身。
- Nueva Versión Internacional - Los sacó de las sombras tenebrosas y rompió en pedazos sus cadenas.
- 현대인의 성경 - 흑암과 죽음의 그늘에서 그들을 끌어내며 그 쇠사슬을 끊어 버렸다.
- Новый Русский Перевод - С Богом мы одержим победу; Он низвергнет наших врагов.
- Восточный перевод - Со Всевышним мы одержим победу; Он низвергнет наших врагов.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - С Аллахом мы одержим победу; Он низвергнет наших врагов.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Со Всевышним мы одержим победу; Он низвергнет наших врагов.
- La Bible du Semeur 2015 - Il les fit sortir des lieux sombres ╵et ténébreux, il rompit les liens qui les retenaient.
- リビングバイブル - 暗闇から引き上げられ、 奴隷の鎖を断ち切っていただきました。
- Nova Versão Internacional - Ele os tirou das trevas e da sombra mortal e quebrou as correntes que os prendiam.
- Hoffnung für alle - Er holte sie aus den finsteren Kerkern heraus und riss ihre Fesseln entzwei.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đem họ thoát vùng bóng tối tử vong; và đập tan xiềng xích cùm gông.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ปลดปล่อยให้พ้นจากความมืดมิด และทำให้โซ่ที่ล่ามไว้ขาดออก
交叉引用
- โยบ 15:30 - เขาจะหนีไม่พ้นความมืดมน เปลวไฟทำให้หน่อของเขาเหี่ยวแห้งไป ลมพระโอษฐ์ของพระเจ้าจะพัดเขาปลิวไป
- โยบ 15:22 - เขาหมดหวังที่จะหนีให้พ้นความมืดมน เขาถูกหมายหัวให้เป็นเหยื่อคมดาบ
- สดุดี 68:6 - พระเจ้าทรงให้ผู้ว้าเหว่เดียวดายเข้าอยู่ในครอบครัว พระองค์ทรงนำผู้ถูกจองจำออกมาด้วยการร้องเพลง แต่คนที่ชอบกบฏต้องใช้ชีวิตในดินแดนที่แห้งแล้งแตกระแหง
- กิจการของอัครทูต 12:7 - ทันใดนั้นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาปรากฏและมีแสงสว่างส่องเข้ามาในห้องขัง ทูตนั้นตบที่สีข้างของเปโตรและปลุกเขาตื่นแล้วกล่าวว่า “เร็วๆ เข้า ลุกขึ้น!” โซ่ก็หลุดจากข้อมือของเปโตร
- กิจการของอัครทูต 12:8 - แล้วทูตนั้นกล่าวกับเขาว่า “จงสวมเสื้อผ้าและรองเท้า” เปโตรก็ทำตาม ทูตบอกว่า “สวมเสื้อคลุมแล้วตามเรามาเถิด”
- กิจการของอัครทูต 12:9 - เปโตรก็ตามออกไปจากคุก เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทูตนั้นทำอยู่เป็นเรื่องจริง เขาคิดว่าตนเองกำลังเห็นนิมิต
- กิจการของอัครทูต 12:10 - เมื่อพวกเขาออกไปพ้นทหารยามชุดที่หนึ่งและชุดที่สองแล้วก็มาถึงประตูเหล็กที่จะเข้าเมือง ประตูนั้นเปิดออกเองให้พวกเขาผ่านไป เมื่อเดินมาตามถนนได้ระยะหนึ่งทันใดนั้นทูตสวรรค์องค์นั้นก็จากเขาไป
- กิจการของอัครทูต 16:26 - ทันใดนั้นเกิดแผ่นดินไหวใหญ่จนฐานรากของคุกสั่นคลอน ประตูคุกทุกบานเปิดออกทันทีและโซ่ตรวนหลุดจากทุกคน
- กิจการของอัครทูต 16:27 - พัศดีตื่นขึ้นมาและเห็นประตูคุกเปิดก็ชักดาบออกมาจะฆ่าตัวตายเพราะคิดว่านักโทษหนีไปแล้ว
- กิจการของอัครทูต 16:28 - แต่เปาโลตะโกนว่า “อย่าทำร้ายตัวเอง! เราทุกคนอยู่ที่นี่!”
- กิจการของอัครทูต 16:29 - พัศดีเรียกให้จุดไฟแล้ววิ่งเข้ามาหมอบลงตัวสั่นต่อหน้าเปาโลกับสิลาส
- กิจการของอัครทูต 16:30 - จากนั้นก็พาพวกเขาออกมาแล้วถามว่า “ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไรจึงจะได้รับความรอด?”
- กิจการของอัครทูต 16:31 - พวกเขาตอบว่า “จงเชื่อในองค์พระเยซูเจ้า แล้วท่านกับครัวเรือนของท่านจะได้รับความรอด”
- กิจการของอัครทูต 16:32 - แล้วพวกเขาก็ประกาศพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่พัศดีและแก่คนทั้งปวงที่อยู่ในบ้านของเขา
- กิจการของอัครทูต 16:33 - กลางดึกชั่วโมงเดียวกันนั้นเองพัศดีก็พาพวกเขาไปล้างแผล แล้วพัศดีกับทั้งครอบครัวก็รับบัพติศมาทันที
- กิจการของอัครทูต 16:34 - พัศดีพาพวกเขาเข้าไปในบ้านและจัดอาหารมาเลี้ยงพวกเขา พัศดีชื่นชมยินดียิ่งนักที่ตัวเขาและทุกคนในครอบครัวของเขาได้มาเชื่อพระเจ้า
- กิจการของอัครทูต 16:35 - พอรุ่งเช้าคณะผู้ปกครองเมืองส่งเจ้าหน้าที่มาหาพัศดีสั่งว่า “ปล่อยตัวคนเหล่านั้นไป”
- กิจการของอัครทูต 16:36 - พัศดีบอกเปาโลว่า “คณะผู้ปกครองเมืองได้สั่งให้ปล่อยตัวท่านกับสิลาส บัดนี้เชิญท่านออกไปอย่างมีสันติสุขเถิด”
- กิจการของอัครทูต 16:37 - แต่เปาโลกล่าวกับเจ้าหน้าที่พวกนั้นว่า “พวกเขาโบยเราต่อหน้าประชาชนโดยไม่มีการไต่สวนทั้งๆ ที่เราเป็นพลเมืองโรมันและโยนเราเข้าคุก แล้วบัดนี้พวกเขาจะมาเสือกไสเราออกไปอย่างเงียบๆ หรือ? ไม่ได้! ให้พวกเขาเองนั่นแหละมาพาเราออกไป”
- กิจการของอัครทูต 16:38 - พวกเจ้าหน้าที่กลับไปรายงานเรื่องนี้แก่คณะผู้ปกครองเมือง เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเปาโลกับสิลาสเป็นพลเมืองโรมันก็ตกใจ
- กิจการของอัครทูต 16:39 - พวกเขามาเอาใจเปาโลกับสิลาสและพาออกจากคุกแล้วขอร้องให้ออกไปจากเมืองนั้น
- กิจการของอัครทูต 16:40 - หลังจากเปาโลและสิลาสออกจากคุกแล้วก็มาที่บ้านของนางลิเดีย เขาทั้งสองได้พบกับพวกพี่น้องและให้กำลังใจพวกเขาแล้วลาจากไป
- โยบ 42:10 - หลังจากที่โยบอธิษฐานเผื่อเพื่อนๆ แล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้เขาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งและประทานสิ่งต่างๆ ให้เขามากกว่าเดิมเป็นสองเท่า
- โยบ 42:11 - แล้วพี่น้องชายหญิงและทุกคนที่รู้จักกันมาก่อนพากันมาร่วมเลี้ยงฉลองในบ้านของโยบ ปลอบใจเขาเกี่ยวกับความทุกข์ลำเค็ญต่างๆ ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำมาถึงโยบ แต่ละคนนำเงินหนึ่งแผ่น และแหวนทองคำหนึ่งวงมามอบให้เขา
- โยบ 42:12 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรโยบในบั้นปลายของชีวิตมากยิ่งกว่าตอนต้น บัดนี้เขามีแกะ 14,000 ตัว อูฐ 6,000 ตัว วัวผู้ 1,000 คู่ และลา 1,000 ตัว
- สดุดี 146:7 - พระองค์ทรงให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกข่มเหงรังแก และประทานอาหารแก่ผู้ที่หิวโหย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลดปล่อยผู้ที่ถูกคุมขังให้เป็นอิสระ
- โยบ 3:5 - ขอให้ความมืดและเงาดำ ครอบคลุมมันไว้ ขอให้เมฆปกคลุมเหนือมัน ขอให้ความมืดบดบังแสงสว่างของวันนั้น
- โยบ 33:30 - เพื่อช่วยกู้จิตวิญญาณของเขาจากเหวลึก ให้เขาได้รับแสงสว่างแห่งชีวิต
- โยบ 36:8 - แต่หากมนุษย์ถูกพันธนาการ ถูกมัดด้วยบ่วงทุกข์ทรมาน
- อิสยาห์ 49:9 - เพื่อกล่าวแก่เชลยว่า ‘ออกมาเถิด’ และกล่าวแก่ผู้อยู่ในความมืดมนว่า ‘จงเป็นอิสระ!’ “พวกเขาจะเลี้ยงชีพอยู่ริมทาง และพบทุ่งหญ้าบนเนินเขาแห้งแล้งทุกแห่ง
- โยบ 19:8 - พระเจ้าทรงปิดกั้นหนทางของข้า ข้าจึงผ่านไปไม่ได้ พระองค์ทรงคลุมทางของข้าไว้ในความมืด
- โยบ 10:21 - ก่อนจะไปสู่ที่ที่ไปแล้วไม่ได้กลับมาอีก สู่ดินแดนแห่งความหม่นหมองและเงามืดมิด
- โยบ 10:22 - ดินแดนแห่งค่ำคืนอันมืดสนิท มีแต่เงามืดมิดและความวุ่นวาย ที่ซึ่งแม้แต่ความสว่างก็ยังเหมือนความมืด”
- อิสยาห์ 60:1 - “เยรูซาเล็มเอ๋ย จงลุกขึ้นส่องสว่าง เพราะว่าความสว่างของเจ้ามาแล้ว และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปรากฏขึ้นเหนือเจ้า
- อิสยาห์ 60:2 - ดูเถิด ความมืดปกคลุมโลก ความมืดมิดอยู่เหนือบรรดาประชาชาติ แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรากฏขึ้นเหนือเจ้า พระเกียรติสิริของพระองค์ปรากฏขึ้นเหนือเจ้า
- อิสยาห์ 60:3 - ประชาชาติทั้งหลายจะมายังแสงสว่างของเจ้า บรรดากษัตริย์จะมายังความเจิดจ้าดั่งรุ่งอรุณของเจ้า
- สดุดี 102:20 - เพื่อสดับฟังเสียงครวญครางของเหล่านักโทษ และทรงปลดปล่อยผู้ต้องโทษประหาร”
- สดุดี 105:19 - ตราบจนสิ่งที่เขาบอกไว้เป็นจริงขึ้นมา ตราบจนพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าพิสูจน์ว่าเขาพูดจริง
- สดุดี 105:20 - ฟาโรห์ได้ส่งคนมาปล่อยตัวเขา ประมุขของประชาชนปล่อยเขาเป็นอิสระ
- ลูกา 13:16 - ก็แล้วหญิงคนนี้ผู้เป็นลูกหลานของอับราฮัมถูกซาตานผูกมัดมาตลอดสิบแปดปี ไม่ควรหรือที่จะปลดปล่อยนางให้เป็นอิสระในวันสะบาโต?”
- อิสยาห์ 61:1 - พระวิญญาณของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่ผู้ยากไร้ พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้ามาปลอบโยนผู้ชอกช้ำระกำใจ ให้ประกาศอิสรภาพแก่บรรดาเชลย และปลดปล่อยนักโทษ จากความมืด
- กิจการของอัครทูต 5:25 - แล้วมีคนหนึ่งมาบอกว่า “ดูเถิด! พวกนั้นที่ท่านขังไว้ในคุกกำลังยืนสอนประชาชนอยู่ในลานพระวิหาร”
- กิจการของอัครทูต 5:19 - แต่ในเวลากลางคืนทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าเปิดประตูต่างๆ ในคุกแล้วพาพวกเขาออกมา
- เอเฟซัส 5:8 - เพราะเมื่อก่อนท่านเป็นความมืด แต่เดี๋ยวนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างลูกของความสว่าง
- เยเรมีย์ 52:31 - ในปีที่สามสิบเจ็ดของการที่กษัตริย์เยโฮยาคีนแห่งยูดาห์ตกเป็นเชลย ซึ่งเป็นปีที่เอวิลเมโรดัก ขึ้นเป็นกษัตริย์บาบิโลน พระองค์ทรงปล่อยกษัตริย์เยโฮยาคีนแห่งยูดาห์ออกจากคุกในวันที่ยี่สิบห้าเดือนที่สิบสอง
- เยเรมีย์ 52:32 - พระองค์ตรัสกับเยโฮยาคีนอย่างอ่อนโยนและให้ประทับนั่งในตำแหน่งที่มีเกียรติกว่ากษัตริย์อื่นๆ ที่ถูกจับมาเป็นเชลยในบาบิโลน
- เยเรมีย์ 52:33 - ฉะนั้นเยโฮยาคีนจึงได้ทรงถอดชุดนักโทษออกและได้ทรงร่วมโต๊ะเสวยกับกษัตริย์เป็นประจำตลอดพระชนม์ชีพ
- เยเรมีย์ 52:34 - กษัตริย์บาบิโลนยังได้ประทานเบี้ยเลี้ยงประจำวันแก่เยโฮยาคีนตลอดพระชนม์ชีพจวบจนวันที่เยโฮยาคีนสิ้นพระชนม์
- 1เปโตร 2:9 - แต่พวกท่านเป็นประชากรที่พระเจ้าได้ทรงเลือกสรร เป็นปุโรหิตหลวง เป็นชนชาติบริสุทธิ์ เป็นพลเมืองของพระเจ้า เพื่อท่านจะได้ประกาศพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านออกจากความมืดเข้าสู่ความสว่างอันล้ำเลิศของพระองค์
- สดุดี 107:10 - บางคนนั่งอยู่ในความมืดมิดหม่นหมอง ถูกจองจำทุกข์ทรมานด้วยโซ่ตรวน
- เศคาริยาห์ 9:11 - ส่วนเจ้า เนื่องด้วยโลหิตแห่งพันธสัญญาของเราซึ่งให้ไว้แก่เจ้า เราจะปลดปล่อยนักโทษของเจ้าจากเหวลึกที่ไร้น้ำ
- เศคาริยาห์ 9:12 - นักโทษผู้มีความหวังเอ๋ย จงกลับมายังป้อมปราการของเจ้า บัดนี้เองเราประกาศว่าเราจะฟื้นฟูเจ้าขึ้นมาเป็นสองเท่า
- อิสยาห์ 42:16 - เราจะนำคนตาบอดไปตามทางที่พวกเขาไม่รู้จัก เราจะพาพวกเขาไปตามเส้นทางที่พวกเขาไม่คุ้นเคย เราจะเปลี่ยนความมืดให้เป็นความสว่างต่อหน้าพวกเขา และทำที่ขรุขระให้ราบเรียบ เราจะทำสิ่งเหล่านี้ เราจะไม่ทอดทิ้งเขาเลย
- สดุดี 116:16 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าแท้จริงข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เป็นบุตรของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ได้ทรงปลดปล่อยข้าพระองค์จากเครื่องพันธนาการ