逐節對照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - แต่เมื่อสันบาลลัท โทบียาห์ ชาวอาหรับ ชาวอัมโมน และชาวอัชโดดได้ยินว่างานซ่อมแซมกำแพงเมืองเยรูซาเล็มคืบหน้าไป และช่องโหว่ในกำแพงก็ถูกอุดหมดแล้ว พวกเขาก็โกรธจัด
- 新标点和合本 - 参巴拉、多比雅、阿拉伯人、亚扪人、亚实突人听见修造耶路撒冷城墙,着手进行堵塞破裂的地方,就甚发怒。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 参巴拉、多比雅、阿拉伯人、亚扪人和亚实突人听见耶路撒冷城墙正在修造,破裂的地方开始进行修补,就非常愤怒。
- 和合本2010(神版-简体) - 参巴拉、多比雅、阿拉伯人、亚扪人和亚实突人听见耶路撒冷城墙正在修造,破裂的地方开始进行修补,就非常愤怒。
- 当代译本 - 参巴拉、多比雅、阿拉伯人、亚扪人和亚实突人听说耶路撒冷的城墙正在重建、缺口正在填补,非常愤怒,
- 圣经新译本 - 当参巴拉、多比雅、阿拉伯人、亚扪人、亚实突人听见耶路撒冷城墙重修工程仍然进行,已经堵塞城墙的缺口,就非常忿怒。(本节在《马索拉文本》为4:1)
- 中文标准译本 - 那时叁巴拉和托比亚,以及阿拉伯人、亚扪人和阿实突人听说耶路撒冷城墙的修复工作还在进行,破口开始被堵上了,他们就非常恼火。
- 现代标点和合本 - 参巴拉、多比雅,阿拉伯人、亚扪人、亚实突人,听见修造耶路撒冷城墙,着手进行堵塞破裂的地方,就甚发怒。
- 和合本(拼音版) - 参巴拉、多比雅、阿拉伯人、亚扪人、亚实突人听见修造耶路撒冷城墙,着手进行,堵塞破裂的地方,就甚发怒。
- New International Version - But when Sanballat, Tobiah, the Arabs, the Ammonites and the people of Ashdod heard that the repairs to Jerusalem’s walls had gone ahead and that the gaps were being closed, they were very angry.
- New International Reader's Version - But Sanballat and Tobiah heard that Jerusalem’s walls continued to be repaired. The Arabs, the Ammonites and the people of Ashdod heard about it too. They heard that the gaps in the wall were being filled in. So they were very angry.
- English Standard Version - But when Sanballat and Tobiah and the Arabs and the Ammonites and the Ashdodites heard that the repairing of the walls of Jerusalem was going forward and that the breaches were beginning to be closed, they were very angry.
- New Living Translation - But when Sanballat and Tobiah and the Arabs, Ammonites, and Ashdodites heard that the work was going ahead and that the gaps in the wall of Jerusalem were being repaired, they were furious.
- The Message - When Sanballat, Tobiah, the Arabs, the Ammonites, and the Ashdodites heard that the repairs of the walls of Jerusalem were going so well—that the breaks in the wall were being fixed—they were absolutely furious. They put their heads together and decided to fight against Jerusalem and create as much trouble as they could. We countered with prayer to our God and set a round-the-clock guard against them.
- Christian Standard Bible - When Sanballat, Tobiah, and the Arabs, Ammonites, and Ashdodites heard that the repair to the walls of Jerusalem was progressing and that the gaps were being closed, they became furious.
- New American Standard Bible - Now when Sanballat, Tobiah, the Arabs, the Ammonites, and the Ashdodites heard that the repair of the walls of Jerusalem went on, and that the breaches began to be closed, they were very angry.
- New King James Version - Now it happened, when Sanballat, Tobiah, the Arabs, the Ammonites, and the Ashdodites heard that the walls of Jerusalem were being restored and the gaps were beginning to be closed, that they became very angry,
- Amplified Bible - But when Sanballat, Tobiah, the Arabs, the Ammonites, and the Ashdodites heard that the repair of the walls of Jerusalem went on, and that the breaches were being closed, they were very angry.
- American Standard Version - But it came to pass that, when Sanballat, and Tobiah, and the Arabians, and the Ammonites, and the Ashdodites, heard that the repairing of the walls of Jerusalem went forward, and that the breaches began to be stopped, then they were very wroth;
- King James Version - But it came to pass, that when Sanballat, and Tobiah, and the Arabians, and the Ammonites, and the Ashdodites, heard that the walls of Jerusalem were made up, and that the breaches began to be stopped, then they were very wroth,
- New English Translation - (4:1) When Sanballat, Tobiah, the Arabs, the Ammonites, and the people of Ashdod heard that the restoration of the walls of Jerusalem had moved ahead and that the breaches had begun to be closed, they were very angry.
- World English Bible - But when Sanballat, Tobiah, the Arabians, the Ammonites, and the Ashdodites heard that the repairing of the walls of Jerusalem went forward, and that the breaches began to be filled, they were very angry;
- 新標點和合本 - 參巴拉、多比雅、阿拉伯人、亞捫人、亞實突人聽見修造耶路撒冷城牆,着手進行堵塞破裂的地方,就甚發怒。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 參巴拉、多比雅、阿拉伯人、亞捫人和亞實突人聽見耶路撒冷城牆正在修造,破裂的地方開始進行修補,就非常憤怒。
- 和合本2010(神版-繁體) - 參巴拉、多比雅、阿拉伯人、亞捫人和亞實突人聽見耶路撒冷城牆正在修造,破裂的地方開始進行修補,就非常憤怒。
- 當代譯本 - 參巴拉、多比雅、阿拉伯人、亞捫人和亞實突人聽說耶路撒冷的城牆正在重建、缺口正在填補,非常憤怒,
- 聖經新譯本 - 當參巴拉、多比雅、阿拉伯人、亞捫人、亞實突人聽見耶路撒冷城牆重修工程仍然進行,已經堵塞城牆的缺口,就非常忿怒。(本節在《馬索拉文本》為4:1)
- 呂振中譯本 - 參巴拉 、 多比雅 、 亞拉伯 人、 亞捫 人、 亞實突 人、聽說修復 耶路撒冷 城牆的事節節進行着,而破口的地方都開始堵塞住了,他們就非常惱怒。
- 中文標準譯本 - 那時叁巴拉和托比亞,以及阿拉伯人、亞捫人和阿實突人聽說耶路撒冷城牆的修復工作還在進行,破口開始被堵上了,他們就非常惱火。
- 現代標點和合本 - 參巴拉、多比雅,阿拉伯人、亞捫人、亞實突人,聽見修造耶路撒冷城牆,著手進行堵塞破裂的地方,就甚發怒。
- 文理和合譯本 - 參巴拉、多比雅、及亞拉伯人、亞捫人、亞實突人、聞建耶路撒冷城垣、厥工進行、破壞之處修補、則怒甚、
- 文理委辦譯本 - 撒八拉、多比、及亞喇伯人、亞捫人、亞實突人、聞耶路撒冷民建邑垣、修損缺、則怒甚、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 參巴拉 、 多比雅 、 亞拉伯 人、 亞捫 人、 亞實突 人、聞 耶路撒冷 城垣被建、損缺之處修補、則怒甚、
- Nueva Versión Internacional - Pero, cuando Sambalat y Tobías, y los árabes, los amonitas y los asdodeos se enteraron de que avanzaba la reconstrucción de la muralla y de que ya estábamos cerrando las brechas, se enojaron muchísimo
- 현대인의 성경 - 그러자 산발랏과 도비야와 아라비아 사람들과 암몬 사람들과 아스돗 사람들은 예루살렘 성벽이 재건되어 간다는 말을 듣고 대단히 화가 났다.
- Новый Русский Перевод - Но когда Санбаллат, Товия, арабы с аммонитянами и жители Ашдода услышали о том, что восстановление иерусалимских стен продвигается и проломы заделываются, они очень разозлились.
- Восточный перевод - Но когда Санбаллат, Товия, арабы с аммонитянами и жители города Ашдода услышали о том, что восстановление иерусалимских стен продвигается и проломы заделываются, они очень разозлились.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но когда Санбаллат, Товия, арабы с аммонитянами и жители города Ашдода услышали о том, что восстановление иерусалимских стен продвигается и проломы заделываются, они очень разозлились.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но когда Санбаллат, Товия, арабы с аммонитянами и жители города Ашдода услышали о том, что восстановление иерусалимских стен продвигается и проломы заделываются, они очень разозлились.
- La Bible du Semeur 2015 - C’est pourquoi je mis des gens en place en contrebas derrière la muraille, aux endroits découverts ; je les postai groupés par familles et armés d’épées, de lances et d’arcs.
- リビングバイブル - サヌバラテ、トビヤ、アラブ人、アモン人、アシュドデ人たちは、工事が順調に進み、城壁の破損箇所の修理も終わったと聞くと、腹わたが煮えくり返る思いでした。
- Nova Versão Internacional - Quando, porém, Sambalate, Tobias, os árabes, os amonitas e os homens de Asdode souberam que os reparos nos muros de Jerusalém tinham avançado e que as brechas estavam sendo fechadas, ficaram furiosos.
- Hoffnung für alle - Darum stellte ich dort wehrfähige Männer auf, wo die Mauer noch besonders niedrig war und Lücken aufwies. Sie waren nach Sippen eingeteilt und mit Schwertern, Lanzen und Bogen bewaffnet.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Khi San-ba-lát, Tô-bia, người A-rập, người Am-môn, và người Ách-đốt biết được công việc sửa thành tại Giê-ru-sa-lem tiến triển khả quan, phần tường thành Giê-ru-sa-lem bị thủng được vá lành, liền nổi giận,
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - แต่เมื่อสันบาลลัทและโทบียาห์กับชาวอาหรับ ชาวอัมโมน และชาวอัชโดด ทราบว่าการซ่อมแซมกำแพงเยรูซาเล็มดำเนินต่อไป และส่วนที่พังทลายลงก็ได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่ พวกเขาจึงโกรธมาก
交叉引用
- 1ซามูเอล 5:1 - หลังจากชาวฟีลิสเตียยึดหีบพันธสัญญาของพระเจ้าแล้ว พวกเขาก็นำหีบจากเอเบนเอเซอร์ไปที่เมืองอัชโดด
- 1ซามูเอล 5:2 - จากนั้นพวกเขานำไปไว้ที่วิหารของพระดาโกน ตั้งไว้ใกล้เทวรูปดาโกน
- เอเสเคียล 25:3 - จงกล่าวกับพวกเขาว่า ‘จงฟังพระดำรัสของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าสมน้ำหน้าสถานนมัสการของเราที่ถูกย่ำยี และสมน้ำหน้าดินแดนอิสราเอลที่ถูกทำให้เริศร้าง และสมน้ำหน้าชาวยูดาห์เมื่อเขาตกเป็นเชลย
- เอเสเคียล 25:4 - ฉะนั้นเราจะมอบเจ้าให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวตะวันออก พวกเขาจะตั้งค่ายและตั้งเต็นท์ในหมู่พวกเจ้า พวกเขาจะกินพืชผลและดื่มนมของเจ้า
- เอเสเคียล 25:5 - เราจะทำให้รับบาห์กลายเป็นทุ่งหญ้าสำหรับอูฐ และอัมโมนเป็นที่พักสำหรับฝูงแกะ แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
- เอเสเคียล 25:6 - เพราะพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เนื่องจากเจ้าปรบมือกระทืบเท้า และกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยใจคิดร้ายต่อดินแดนอิสราเอล
- เอเสเคียล 25:7 - ฉะนั้นเราจะลงมือทำโทษเจ้า และมอบเจ้าให้ชนชาติต่างๆ ปล้นชิง เราจะทำให้เจ้าสิ้นชาติและไม่มีประเทศของเจ้าอีก เราจะทำลายล้างเจ้า แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’ ”
- ปฐมกาล 3:15 - เราจะให้เจ้ากับหญิงนั้น เป็นศัตรูกัน ทั้งเผ่าพันธุ์ ของเจ้ากับของนางด้วย เขาจะฟาดศีรษะของเจ้า และเจ้าจะฉก ส้นเท้าของเขา”
- 2พงศาวดาร 26:6 - อุสซียาห์ทรงรบกับชาวฟีลิสเตีย ทรงทลายกำแพงเมืองกัท ยับเนห์ และอัชโดด จากนั้นทรงสร้างเมืองต่างๆ ในย่านอัชโดด และในภูมิภาคอื่นๆ ของฟีลิสเตีย
- 2พงศาวดาร 26:7 - พระเจ้าทรงช่วยอุสซียาห์ในการรบกับชาวฟีลิสเตีย ชาวอาหรับซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองกูร์บาอัล และชาวเมอูนี
- 2พงศาวดาร 26:8 - ชาวอัมโมนมาถวายเครื่องบรรณาการแด่อุสซียาห์ และกิตติศัพท์ของพระองค์เลื่องลือไปถึงอียิปต์ เพราะทรงมีอำนาจมาก
- วิวรณ์ 12:12 - เพราะฉะนั้นสวรรค์และชาวสวรรค์เอ๋ย จงชื่นชมยินดีเถิด! แต่วิบัติแก่แผ่นดินและทะเล เพราะมารได้ลงไปหาเจ้า! ด้วยความโกรธยิ่งนัก เนื่องจากรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย”
- วิวรณ์ 12:13 - เมื่อพญานาคเห็นว่าตนถูกทิ้งลงบนโลกก็ไล่ล่าหญิงซึ่งคลอดบุตรชายนั้น
- 2ซามูเอล 10:1 - ต่อมากษัตริย์นาหาชแห่งอัมโมนสิ้นพระชนม์ และฮานูนราชโอรสขึ้นครองราชย์แทน
- 2ซามูเอล 10:2 - ดาวิดทรงรำพึงว่า “เราจะแสดงความกรุณาต่อฮานูนบุตรนาหาชเหมือนที่บิดาของเขาเคยแสดงความกรุณาต่อเรา” ดาวิดจึงทรงส่งทูตไปแสดงความเสียใจต่อฮานูนที่สูญเสียราชบิดา แต่เมื่อคนของดาวิดมายังดินแดนอัมโมน
- 2ซามูเอล 10:3 - พวกขุนนางของฮานูนทูลกษัตริย์ของตนว่า “ฝ่าพระบาททรงคิดว่าดาวิดให้เกียรติแก่ราชบิดาของฝ่าพระบาทโดยส่งคนเหล่านี้มาแสดงความเห็นใจต่อฝ่าพระบาทหรือ? ดาวิดส่งพวกเขามาสอดแนมดูลาดเลาก่อนเข้าโจมตีไม่ใช่หรือ?”
- 2ซามูเอล 10:4 - ดังนั้นฮานูนจึงจับคนของดาวิดโกนเคราออกครึ่งหนึ่ง และตัดเสื้อผ้าตรงสะโพกออกแล้วปล่อยไป
- 2ซามูเอล 10:5 - เมื่อดาวิดทรงทราบก็ส่งผู้สื่อสารไปพบคนเหล่านั้นเพราะพวกเขารู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก กษัตริย์ตรัสว่า “จงพักอยู่ที่เยรีโคจนกว่าเคราจะขึ้นดังเดิมแล้วค่อยกลับมา”
- เนหะมีย์ 2:19 - แต่เมื่อสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิมกับโทบียาห์ข้าราชการชาวอัมโมนและเกเชมชาวอาหรับได้ยินเรื่องนี้ก็เยาะเย้ยและสบประมาทว่า “พวกเจ้ากำลังทำอะไร? จะกบฏต่อกษัตริย์หรือ?”
- อาโมส 1:8 - เราจะทำลายกษัตริย์แห่ง อัชโดด และทำลายผู้ถือคทาในอัชเคโลน เราจะตวัดมือฟาดเอโครน จวบจนชาวฟีลิสเตียคนสุดท้ายตายไป” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนั้น
- ผู้วินิจฉัย 11:12 - แล้วเยฟธาห์ส่งผู้สื่อสารไปพบกษัตริย์อัมโมนและถามว่า “ท่านขัดแย้งอะไรกับเราหรือ จึงมาโจมตีประเทศของเรา?”
- ผู้วินิจฉัย 11:13 - กษัตริย์อัมโมนตอบกลับมาว่า “เมื่ออิสราเอลออกมาจากอียิปต์ พวกเขาได้ยึดดินแดนของเราไปตั้งแต่แม่น้ำอารโนนถึงแม่น้ำยับบอก ตลอดจนถึงแม่น้ำจอร์แดน บัดนี้จงคืนดินแดนมาแต่โดยดี”
- ผู้วินิจฉัย 11:14 - เยฟธาห์ส่งผู้สื่อสารกลับไปยังกษัตริย์อัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 11:15 - พร้อมคำตอบว่า “เยฟธาร์กล่าวดังนี้ว่า อิสราเอลไม่ได้ยึดดินแดนของโมอับหรือของอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 11:16 - แต่เมื่ออิสราเอลออกมาจากอียิปต์ ผ่านถิ่นกันดารไปจนถึงทะเลแดง และมาถึงคาเดชแล้ว
- ผู้วินิจฉัย 11:17 - จากนั้นอิสราเอลได้ส่งผู้สื่อสารไปพบกษัตริย์เอโดมและกล่าวว่า ‘ขอให้เราผ่านดินแดนของท่าน’ แต่กษัตริย์เอโดมไม่ยอม อิสราเอลส่งคนไปพบกษัตริย์โมอับด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธ ดังนั้นอิสราเอลจึงยังคงอยู่ที่คาเดช
- ผู้วินิจฉัย 11:18 - “จากนั้นพวกเขาเดินทางผ่านถิ่นกันดาร และอ้อมดินแดนเอโดมและโมอับ ผ่านถิ่นกันดารไปตามแนวชายแดนฝั่งทิศตะวันออกของโมอับ และตั้งค่ายอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำอารโนน แต่ไม่เคยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนโมอับเลย เพราะแม่น้ำอารโนนเป็นพรมแดนของดินแดนนั้น
- ผู้วินิจฉัย 11:19 - “แล้วอิสราเอลก็ส่งผู้สื่อสารไปพบกษัตริย์สิโหนของชาวอาโมไรต์ผู้ครอบครองอยู่ที่เฮชโบน และกล่าวกับเขาว่า ‘ขอให้เราผ่านแดนของท่านไปยังดินแดนของเรา’
- ผู้วินิจฉัย 11:20 - แต่กษัตริย์สิโหนก็ไม่เชื่อใจ ที่จะให้อิสราเอลผ่านดินแดนของตน กลับยกทัพใหญ่มาที่ยาฮาสและสู้รบกับอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 11:21 - “แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลจึงทรงมอบกษัตริย์สิโหนกับไพร่พลทั้งปวงของเขาไว้ในมืออิสราเอล อิสราเอลจึงมีชัยเหนือพวกเขา และยึดครองดินแดนทั้งหมดของชาวอาโมไรต์
- ผู้วินิจฉัย 11:22 - จากแม่น้ำอารโนนจดแม่น้ำยับบอก และจากถิ่นกันดารจดแม่น้ำจอร์แดน
- ผู้วินิจฉัย 11:23 - “ในเมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลทรงขับไล่ชาวอาโมไรต์ออกไปต่อหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ บัดนี้ท่านมีสิทธิ์อะไรจะยึดคืน?
- ผู้วินิจฉัย 11:24 - ท่านจะไม่รับสิ่งที่พระเคโมชของท่านยกให้ท่านหรือ? ถ้าท่านเองยังรับ เราก็จะครอบครองทุกสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงประทานแก่เราเช่นกัน
- ผู้วินิจฉัย 11:25 - ท่านเหนือกว่ากษัตริย์บาลาคแห่งโมอับบุตรของศิปโปร์หรือ? เขาเคยทะเลาะหรือสู้รบกับอิสราเอลหรือ?
- ผู้วินิจฉัย 11:26 - ตลอดสามร้อยปีอิสราเอลครอบครองเฮชโบน อาโรเออร์ และดินแดนโดยรอบ และเมืองต่างๆ เลียบแม่น้ำอารโนน ทำไมท่านจึงไม่มาเอาคืนตั้งแต่ตอนนั้น?
- ผู้วินิจฉัย 11:27 - ข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิดต่อท่าน ท่านต่างหากเป็นฝ่ายผิดที่ยกทัพมารบกับข้าพเจ้า ขอให้พระยาห์เวห์องค์ตุลาการ ทรงตัดสินกรณีพิพาทระหว่างชาวอิสราเอลกับชาวอัมโมนในวันนี้”
- ผู้วินิจฉัย 11:28 - แต่กษัตริย์อัมโมนไม่ใส่ใจกับสาส์นของเยฟธาห์เลย
- ผู้วินิจฉัย 11:29 - แล้วพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือเยฟธาห์ เขาข้ามกิเลอาดและมนัสเสห์ ผ่านมิสปาห์แห่งกิเลอาด และเข้าโจมตีกองทัพอัมโมนจากที่นั่น
- ผู้วินิจฉัย 11:30 - เยฟธาห์ได้ถวายปฏิญาณต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “หากพระองค์ทรงมอบชาวอัมโมนไว้ในมือของข้าพระองค์แล้ว
- ผู้วินิจฉัย 11:31 - อะไรก็ตามที่ออกจากประตูบ้านของข้าพระองค์มาต้อนรับข้าพระองค์ เมื่อข้าพระองค์กลับไปพร้อมกับชัยชนะเหนือชาวอัมโมน สิ่งนั้นจะเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าข้าพระองค์จะถวายเป็นเครื่องเผาบูชา”
- ผู้วินิจฉัย 11:32 - จากนั้นเยฟธาห์จึงไปสู้กับชาวอัมโมน และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของเขา
- ผู้วินิจฉัย 11:33 - เขาบุกทำลายล้างยี่สิบเมือง ตั้งแต่อาโรเออร์จนจดเขตเมืองมินนิท ไปจนถึงเอเบลเครามิม เป็นอันว่าชาวอัมโมนพ่ายแพ้อิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 11:34 - เมื่อเยฟธาห์กลับมาบ้านที่มิสปาห์ บุตรสาวของเขาร่ายรำตามเสียงรำมะนาออกมาต้อนรับเขา! นางเป็นลูกคนเดียว นอกจากนางแล้ว เขาไม่มีลูกชายลูกสาวคนอื่นอีก
- ผู้วินิจฉัย 11:35 - เมื่อเห็นนาง เขาก็ฉีกเสื้อผ้าและร้องว่า “โธ่! ลูกสาวของพ่อเอ๋ย! เจ้าทำให้หัวใจของพ่อแตกสลาย เพราะพ่อได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าจะคืนคำก็ไม่ได้”
- ผู้วินิจฉัย 11:36 - นางตอบว่า “พ่อทำกับลูกตามที่สัญญาไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ในเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานชัยชนะเหนืออัมโมนศัตรูของพ่อแล้ว
- ผู้วินิจฉัย 11:37 - แต่ลูกขอร้องอย่างหนึ่งว่า ขอให้ลูกท่องไปตามเนินเขาต่างๆ ร้องไห้อยู่กับเพื่อนๆ สักสองเดือน เพราะลูกจะไม่มีวันได้แต่งงาน”
- ผู้วินิจฉัย 11:38 - เขากล่าวว่า “ไปเถอะลูก” และเขาให้นางไปเป็นเวลาสองเดือน นางก็ไปที่เนินเขากับเพื่อนๆ และร่ำไห้คร่ำครวญเนื่องจากนางจะไม่มีวันได้แต่งงาน
- ผู้วินิจฉัย 11:39 - หลังจากนั้นสองเดือน นางก็กลับมาหาบิดา เยฟธาห์ก็ทำกับนางตามที่ปฏิญาณไว้ทั้งๆ ที่นางยังเป็นหญิงพรหมจารี นับแต่นั้นมากลายเป็นขนบประเพณีในอิสราเอล
- ผู้วินิจฉัย 11:40 - คือทุกปีหญิงสาวอิสราเอลจะออกไปไว้อาลัยให้บุตรสาวของเยฟธาห์ชาวกิเลอาดเป็นเวลาสี่วัน
- 2พงศาวดาร 20:1 - ต่อมาชาวโมอับ ชาวอัมโมน และชาวเมอูนีบางคน ยกทัพจะมารบกับเยโฮชาฟัท
- 2พงศ์กษัตริย์ 24:2 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งชาวบาบิโลน อารัม โมอับ และอัมโมนมาปล้นและทำลายยูดาห์ตามที่พระองค์ได้ทรงเตือนผ่านทางบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- เอสรา 5:8 - ข้าพระบาททั้งหลายขอกราบทูลให้ทรงทราบว่า ข้าพระบาททั้งหลายได้ไปยังยูดาห์ ไปยังพระวิหารของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ประชาชนกำลังก่อสร้างโดยใช้หินก้อนใหญ่และบุผนังด้วยไม้กระดาน พวกเขากำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งและงานกำลังคืบหน้าไปภายใต้การดูแลของพวกเขา
- ผู้วินิจฉัย 10:7 - พระองค์จึงทรงพระพิโรธพวกเขา ทรงขายพวกเขาให้ตกอยู่ในมือของชาวฟีลิสเตียและชาวอัมโมน
- ผู้วินิจฉัย 10:8 - ผู้ซึ่งเข้ามาบดขยี้พวกเขาในปีนั้น ตลอดสิบแปดปีคนเหล่านั้นมากดขี่ข่มเหงอิสราเอลทั้งปวงทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนในกิเลอาดซึ่งเป็นดินแดนของชาวอาโมไรต์
- ผู้วินิจฉัย 10:9 - ชาวอัมโมนยังข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาสู้รบกับยูดาห์ เบนยามิน และเผ่าเอฟราอิมด้วย อิสราเอลทุกข์แสนสาหัส
- ผู้วินิจฉัย 10:10 - แล้วชนชาติอิสราเอลร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์ โดยละทิ้งพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายและไปปรนนิบัติพระบาอัล”
- ผู้วินิจฉัย 10:11 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “เมื่อชาวอียิปต์ อาโมไรต์ อัมโมน ฟีลิสเตีย
- ผู้วินิจฉัย 10:12 - ไซดอน อามาเลข และมาโอน กดขี่ข่มเหงเจ้าและเจ้าขอให้เราช่วย เราไม่ได้ช่วยเจ้าจากเงื้อมมือของพวกเขาหรือ?
- ผู้วินิจฉัย 10:13 - ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังละทิ้งเราไปปรนนิบัติพระอื่นๆ ฉะนั้นเราจะไม่ช่วยเจ้าอีกแล้ว
- ผู้วินิจฉัย 10:14 - ไปเถิด ไปร่ำไห้กับพระทั้งหลายที่เจ้าเลือก ถึงคราวเจ้าลำบากก็ให้พระเหล่านั้นช่วยเจ้าสิ!”
- ผู้วินิจฉัย 10:15 - แต่ชาวอิสราเอลทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปไปแล้ว โปรดลงโทษพวกข้าพระองค์ตามชอบพระทัย ขอเพียงแต่ช่วยกู้พวกข้าพระองค์ให้พ้นจากศัตรูเดี๋ยวนี้เถิด”
- ผู้วินิจฉัย 10:16 - แล้วเขาก็ทำลายพระต่างชาติเหล่านั้นและปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ไม่อาจทนดูความทุกข์ทรมานของอิสราเอลได้อีกต่อไป
- ผู้วินิจฉัย 10:17 - ครั้งนั้นชาวอัมโมนออกมารบและตั้งค่ายที่กิเลอาด ส่วนชนอิสราเอลรวมตัวกันตั้งค่ายที่มิสปาห์
- ผู้วินิจฉัย 10:18 - บรรดาผู้นำของกิเลอาดหารือกันว่า “ผู้ใดอาสานำทัพไปโจมตีพวกอัมโมน ผู้นั้นจะได้เป็นหัวหน้าของทุกคนในกิเลอาด”
- กิจการของอัครทูต 5:33 - เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ก็โกรธจัดและต้องการจะฆ่าพวกอัครทูต
- อาโมส 3:9 - จงป่าวร้องแก่ป้อมแห่งอัชโดด และแก่ป้อมแห่งอียิปต์ว่า “จงมาชุมนุมกันบนภูเขาของสะมาเรีย มาดูความโกลาหลวุ่นวายในเมืองนั้น และดูการกดขี่ข่มเหงท่ามกลางประชากรของเมืองนั้น”
- เศคาริยาห์ 9:5 - อัชเคโลนจะเห็นแล้วหวาดกลัว กาซาจะทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เอโครนก็เช่นกันเพราะความหวังของมันอับเฉา กาซาจะสูญเสียกษัตริย์ และอัชเคโลนจะถูกทิ้งร้าง
- เศคาริยาห์ 9:6 - ชนต่างชาติจะครอบครองอัชโดด และเราจะกำจัดความหยิ่งผยองของชาวฟีลิสเตีย
- เอสรา 4:4 - บรรดาคนที่อาศัยอยู่ในถิ่นนั้นจึงพยายามทำลายขวัญของชาวยูดาห์ และทำให้เขาไม่กล้าสร้างต่อ
- เอสรา 4:5 - คนเหล่านั้นว่าจ้างที่ปรึกษาไว้คอยก่อกวนขัดขวางงานของพวกเขาตลอดรัชกาลกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียจวบจนรัชกาลกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย
- เอสรา 4:6 - ต้นรัชกาลกษัตริย์เซอร์ซีส พวกเขาตั้งข้อหาฟ้องร้องประชาชนยูดาห์และเยรูซาเล็ม
- เอสรา 4:7 - และในรัชกาลของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซีย บิชลาม มิทเรดาท และทาเบเอลกับพรรคพวกเขียนจดหมายราบทูลพระองค์เป็นภาษาอารเมค และมีผู้แปลถวาย
- เอสรา 4:8 - ผู้บัญชาการเรฮูมและเลขานุการชิมชัยเขียนจดหมายฟ้องร้องเยรูซาเล็ม กราบทูลกษัตริย์อารทาเซอร์ซีสดังนี้ว่า
- เอสรา 4:9 - ผู้บัญชาการเรฮูมและเลขานุการชิมชัยพร้อมคณะ อันได้แก่ เหล่าตุลาการ และเจ้าหน้าที่ปกครองคนจากทริโปลิส เปอร์เซีย เอเรก และบาบิโลน พวกเอลามแห่งสุสา
- เอสรา 4:10 - และชนชาติอื่นซึ่งอาชูร์บานิปาล ผู้ยิ่งใหญ่และสูงศักดิ์นำตัวมาและให้ตั้งถิ่นฐานในเยรูซาเล็ม สะมาเรีย และทั่วดินแดนใกล้เคียงที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติส
- เอสรา 4:11 - (สำเนาจดหมายที่พวกเขานำขึ้นกราบทูลกษัตริย์ ความว่า) กราบทูล กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส จากบรรดาข้าราชบริพารของพระองค์ที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติส
- เอสรา 4:12 - ขอกราบทูลให้ทรงทราบว่าชาวยิวซึ่งถูกส่งตัวจากบาบิโลนไปยังเยรูซาเล็มกำลังสร้างนครจอมกบฏและชั่วร้ายนั้นขึ้นใหม่ พวกเขากำลังซ่อมแซมกำแพงเมืองและฐานราก
- เอสรา 4:13 - ยิ่งกว่านั้นฝ่าพระบาทควรจะได้ทราบว่า หากเมืองนี้สร้างเสร็จและซ่อมแซมกำแพงเมืองเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะไม่ส่งบรรณาการ ค่าธรรมเนียม และค่าภาษี ทำให้เงินรายได้ของหลวงขาดหายไป
- เอสรา 4:14 - เนื่องจากเหล่าข้าพระบาทจงรักภักดีต่อฝ่าพระบาท ไม่ประสงค์จะเห็นฝ่าพระบาทถูกหมิ่นพระเกียรติ จึงนำความขึ้นกราบทูล
- เอสรา 4:15 - เพื่อขอทรงสั่งให้ค้นดูจดหมายเหตุของกษัตริย์องค์ก่อนๆ ในบันทึกเหล่านี้ฝ่าพระบาทจะพบว่านครแห่งนี้ชอบกบฏและสร้างความเดือดร้อนแก่เหล่ากษัตริย์และแว่นแคว้นต่างๆ เป็นนครที่ชอบกบฏแข็งเมืองมาตั้งแต่ครั้งโบราณ ด้วยเหตุนี้จึงถูกทำลายไป
- เอสรา 4:16 - ข้าพระบาททั้งหลาย ขอกราบทูลว่าหากเมืองนี้สร้างสำเร็จและกำแพงเมืองสร้างขึ้นได้ ฝ่าพระบาทอาจจะสูญเสียจักรวรรดิที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำยูเฟรติสนี้ไป
- 1ซามูเอล 11:2 - แต่นาหาชชาวอัมโมนตอบว่า “ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าเราจะทะลวงตาข้างขวาของพวกเจ้าทุกคน เป็นการสร้างความอัปยศแก่อิสราเอลทั้งหมด”
- เนหะมีย์ 13:23 - ยิ่งกว่านั้น ข้าพเจ้ายังเห็นชาวยูดาห์ที่แต่งงานกับผู้หญิงจากอัชโดด อัมโมน และโมอับ
- เนหะมีย์ 13:24 - และลูกๆ ของพวกเขาครึ่งหนึ่งพูดภาษาอัชโดดหรือภาษาของชาติใดชาติหนึ่งเหล่านั้น แต่พูดภาษายูดาห์ไม่ได้เลย
- อาโมส 1:13 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เนื่องจากอัมโมนทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่าสามสี่ครั้ง เราจึงไม่หายโกรธ เพราะเขาผ่าท้องหญิงมีครรภ์ในกิเลอาด เพื่อขยายเขตแดน
- เยเรมีย์ 25:20 - ตลอดจนคนต่างด้าวทั้งปวงซึ่งอยู่ที่นั่น รวมทั้งกษัตริย์ทั้งปวงแห่งดินแดนอูสและแห่งฟีลิสเตีย (ผู้ครองอัชเคโลน กาซา เอโครน และประชาชนซึ่งเหลืออยู่ที่อัชโดด)
- เนหะมีย์ 2:10 - เมื่อสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิมและโทบียาห์ข้าราชการชาวอัมโมนได้ยินเรื่องนี้ก็ไม่พอใจที่มีคนมาส่งเสริมสวัสดิภาพของชนอิสราเอล
- เนหะมีย์ 4:1 - สันบาลลัทโกรธจัดเมื่อได้ยินว่าพวกเรากำลังสร้างกำแพงขึ้นใหม่ เขาสบประมาทชาวยิว
- วิวรณ์ 12:17 - แล้วพญานาคก็โกรธแค้นหญิงนั้นและไปทำสงครามกับลูกหลานของนางที่เหลือคือ คนเหล่านั้นที่เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าและยึดมั่นในคำพยานเรื่องพระเยซู
- กิจการของอัครทูต 4:17 - แต่เพื่อยุติเรื่องนี้ไม่ให้เลื่องลือไปอีกในหมู่ประชาชนเราต้องสั่งห้ามพวกนี้ไม่ให้เอ่ยนามนั้นกับใครอีก”
- กิจการของอัครทูต 4:18 - จากนั้นพวกเขาจึงเรียกตัวคนทั้งสองมาอีกและสั่งห้ามไม่ให้พูดหรือสอนในพระนามพระเยซูอีกเลย