逐節對照
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่พระเจ้าคือพระบุตรองค์เดียว ผู้ทรงอยู่เคียงข้างพระบิดาได้ทรงทำให้พระองค์เป็นที่ประจักษ์แล้ว
- 新标点和合本 - 从来没有人看见 神,只有在父怀里的独生子将他表明出来。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 从来没有人见过上帝,只有在父怀里独一的儿子将他表明出来。
- 和合本2010(神版-简体) - 从来没有人见过 神,只有在父怀里独一的儿子将他表明出来。
- 当代译本 - 从来没有人见过上帝,只有父怀中的独一上帝 把祂显明出来。
- 圣经新译本 - 从来没有人见过 神,只有在父怀里的独生子把他彰显出来。
- 中文标准译本 - 从来没有人看见神, 只有在父怀里的那位独生子——神, 他将神表明了出来。
- 现代标点和合本 - 从来没有人看见神,只有在父怀里的独生子将他表明出来。
- 和合本(拼音版) - 从来没有人看见上帝,只有在父怀里的独生子将他表明出来。
- New International Version - No one has ever seen God, but the one and only Son, who is himself God and is in closest relationship with the Father, has made him known.
- New International Reader's Version - No one has ever seen God. But the One and Only is God and is at the Father’s side. The one at the Father’s side has shown us what God is like.
- English Standard Version - No one has ever seen God; the only God, who is at the Father’s side, he has made him known.
- New Living Translation - No one has ever seen God. But the unique One, who is himself God, is near to the Father’s heart. He has revealed God to us.
- Christian Standard Bible - No one has ever seen God. The one and only Son, who is himself God and is at the Father’s side — he has revealed him.
- New American Standard Bible - No one has seen God at any time; God the only Son, who is in the arms of the Father, He has explained Him.
- New King James Version - No one has seen God at any time. The only begotten Son, who is in the bosom of the Father, He has declared Him.
- Amplified Bible - No one has seen God [His essence, His divine nature] at any time; the [One and] only begotten God [that is, the unique Son] who is in the intimate presence of the Father, He has explained Him [and interpreted and revealed the awesome wonder of the Father].
- American Standard Version - No man hath seen God at any time; the only begotten Son, who is in the bosom of the Father, he hath declared him.
- King James Version - No man hath seen God at any time; the only begotten Son, which is in the bosom of the Father, he hath declared him.
- New English Translation - No one has ever seen God. The only one, himself God, who is in closest fellowship with the Father, has made God known.
- World English Bible - No one has seen God at any time. The one and only Son, who is in the bosom of the Father, has declared him.
- 新標點和合本 - 從來沒有人看見神,只有在父懷裏的獨生子將他表明出來。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 從來沒有人見過上帝,只有在父懷裏獨一的兒子將他表明出來。
- 和合本2010(神版-繁體) - 從來沒有人見過 神,只有在父懷裏獨一的兒子將他表明出來。
- 當代譯本 - 從來沒有人見過上帝,只有父懷中的獨一上帝 把祂顯明出來。
- 聖經新譯本 - 從來沒有人見過 神,只有在父懷裡的獨生子把他彰顯出來。
- 呂振中譯本 - 從來沒有人見過上帝; 惟有 在父懷裏的獨生子 將他表彰出來。
- 中文標準譯本 - 從來沒有人看見神, 只有在父懷裡的那位獨生子——神, 他將神表明了出來。
- 現代標點和合本 - 從來沒有人看見神,只有在父懷裡的獨生子將他表明出來。
- 文理和合譯本 - 從未有見上帝者、惟在父懷之獨生子表彰之、○
- 文理委辦譯本 - 未有人見上帝、惟獨生子、在父懷者、彰明之、○
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 從未有人見天主、惟獨生子在父懷者、彰明之、○
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 人未有見天主者、惟聖父懷中之惟一聖子、實已表而出之矣。
- Nueva Versión Internacional - A Dios nadie lo ha visto nunca; el Hijo unigénito, que es Dios y que vive en unión íntima con el Padre, nos lo ha dado a conocer.
- 현대인의 성경 - 지금까지 하나님을 본 사람은 없었다. 그러나 아버지의 품안에 계시는 외아들이 그분을 알리셨다.
- Новый Русский Перевод - Бога никто никогда не видел, Его явил нам единственный Сын Его, пребывающий у самого сердца Отца, и Который Сам – Бог. ( Мат. 3:1-12 ; Мк. 1:2-8 ; Лк. 3:1 )
- Восточный перевод - Всевышнего никто никогда не видел , Его явил нам единственный Сын Его, Который всегда пребывает с Отцом и Который Сам – Всевышний.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Всевышнего никто никогда не видел , Его явил нам единственный Сын Его, Который всегда пребывает с Отцом и Который Сам – Всевышний.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Всевышнего никто никогда не видел , Его явил нам единственный Сын Его, Который всегда пребывает с Отцом и Который Сам – Всевышний.
- La Bible du Semeur 2015 - Personne n’a jamais vu Dieu : Dieu, le Fils unique qui vit dans l’intimité du Père, nous l’a révélé.
- リビングバイブル - いまだかつて、実際に神を見た人はいません。しかし、神のひとり子だけは別です。御子は父なる神といつもいっしょですから、神について知っていることを教えてくださいました。
- Nestle Aland 28 - Θεὸν οὐδεὶς ἑώρακεν πώποτε· μονογενὴς θεὸς ὁ ὢν εἰς τὸν κόλπον τοῦ πατρὸς ἐκεῖνος ἐξηγήσατο.
- unfoldingWord® Greek New Testament - Θεὸν οὐδεὶς ἑώρακεν πώποτε; μονογενὴς Θεὸς, ὁ ὢν εἰς τὸν κόλπον τοῦ Πατρὸς, ἐκεῖνος ἐξηγήσατο.
- Nova Versão Internacional - Ninguém jamais viu a Deus, mas o Deus Unigênito, que está junto do Pai, o tornou conhecido.
- Hoffnung für alle - Kein Mensch hat jemals Gott gesehen. Doch sein einziger Sohn, der selbst Gott ist und in enger Gemeinschaft mit dem Vater lebt, hat ihn uns gezeigt. ( Matthäus 3,1‒12 ; Markus 1,1‒8 ; Lukas 3,1‒18 )
- Kinh Thánh Hiện Đại - Không ai nhìn thấy Đức Chúa Trời, ngoại trừ Chúa Cứu Thế là Con Một của Đức Chúa Trời. Chúa sống trong lòng Đức Chúa Trời và xuống đời dạy cho loài người biết về Đức Chúa Trời.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่พระบุตรองค์เดียวผู้ดำรงความเป็นพระเจ้า ผู้อยู่ในอ้อมอกของพระบิดา ได้ทำให้พระบิดาเป็นที่รู้จัก
交叉引用
- ยอห์น 3:16 - “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์
- ยอห์น 3:17 - เพราะพระเจ้าไม่ได้ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาในโลกเพื่อพิพากษาลงโทษโลก แต่เพื่อช่วยโลกให้รอดโดยทางพระบุตรนั้น
- ยอห์น 3:18 - ผู้ใดที่เชื่อในพระองค์ก็ไม่ถูกพิพากษา แต่ผู้ใดที่ไม่เชื่อก็ถูกพิพากษาอยู่แล้ว เพราะเขาไม่เชื่อในพระนามของพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า
- ยอห์น 13:23 - สาวกที่พระเยซูทรงรักกำลังนั่งเอนกายรับประทานอาหารถัดจากพระองค์
- เพลงคร่ำครวญ 2:12 - “แม่จ๋า ไหนล่ะอาหาร?” เด็กๆ เอ่ยกับแม่ ขณะหมดแรง เหมือนคนบาดเจ็บกลางถนน ขณะชีวิตหลุดลอยไป จากอ้อมอกแม่
- ผู้วินิจฉัย 13:20 - ขณะที่เปลวไฟพวยพุ่งจากแท่นบูชาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าลอยขึ้นเหนือเปลวไฟ เมื่อเห็นดังนั้นมาโนอาห์กับภรรยาจึงซบหน้าลงกับพื้นดิน
- ผู้วินิจฉัย 13:21 - ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ปรากฏแก่มาโนอาห์กับภรรยาอีก มาโนอาห์จึงตระหนักว่าผู้นี้คือทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- ผู้วินิจฉัย 13:22 - มาโนอาห์กล่าวกับภรรยาว่า “เราต้องตายแน่ๆ! เพราะเราได้เห็นพระเจ้า!”
- ผู้วินิจฉัย 13:23 - แต่ภรรยาตอบว่า “หากองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำริจะประหารเรา พระองค์ก็คงจะไม่รับเครื่องเผาบูชาและธัญบูชาจากมือของเรา และจะไม่มาแจ้งหรือแสดงสิ่งทั้งปวงนี้แก่เรา”
- ปฐมกาล 18:33 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอับราฮัมจบแล้วก็เสด็จจากไป ส่วนอับราฮัมก็กลับบ้าน
- ลูกา 16:22 - “อยู่มาขอทานนั้นก็ตาย และเหล่าทูตสวรรค์นำเขาไปอยู่ข้างอับราฮัม ฝ่ายเศรษฐีก็ตายเช่นกัน และถูกฝังไว้
- ลูกา 16:23 - เมื่ออยู่ในนรก ซึ่งทุกข์ทรมานมาก เศรษฐีแหงนมองเห็นอับราฮัมอยู่ไกลๆ มีลาซารัสเคียงข้าง
- สุภาษิต 8:30 - ในตอนนั้นเราอยู่เคียงข้างพระองค์ตลอดเวลา เปี่ยมด้วยความปีติยินดีวันแล้ววันเล่า ชื่นชมยินดีอยู่ต่อหน้าพระองค์เสมอ
- โฮเชยา 12:3 - เขาฉวยส้นเท้าของพี่ชายไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ครั้นหนุ่มใหญ่เขาก็ต่อสู้กับพระเจ้า
- โฮเชยา 12:4 - เขาสู้กับทูตสวรรค์และเอาชนะได้ เขาร่ำไห้อ้อนวอนขอความเมตตา พระองค์ทรงพบเขาที่เบธเอล และตรัสกับเขาที่นั่น
- โฮเชยา 12:5 - พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระยาห์เวห์เป็นพระนามอันเกรียงไกรของพระองค์!
- อิสยาห์ 40:11 - พระองค์ทรงเลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ดั่งคนเลี้ยงแกะ พระองค์ทรงรวบรวมบรรดาลูกแกะไว้ในอ้อมพระกร โอบอุ้มไว้แนบพระทรวง พระองค์ทรงนำแม่แกะที่มีลูกอย่างอ่อนสุภาพ
- เอเสเคียล 1:26 - เหนือผืนฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะของสิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตนนี้คือสิ่งที่คล้ายบัลลังก์ไพฑูรย์ และเหนือบัลลังก์นั้นมีร่างหนึ่งดูคล้ายมนุษย์
- เอเสเคียล 1:27 - ข้าพเจ้าเห็นส่วนที่คล้ายบั้นเอวของผู้นั้นขึ้นไป ดูเหมือนโลหะสุกปลั่ง ราวกับเต็มไปด้วยไฟ และจากส่วนนั้นลงมาดูเหมือนไฟและมีแสงสว่างเจิดจ้าอยู่รอบผู้นั้น
- เอเสเคียล 1:28 - รัศมีเจิดจ้ารอบตัวผู้นั้นเหมือนรุ้งบนเมฆในวันฝนตก ภาพที่ปรากฏนี้เป็นเหมือนพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อข้าพเจ้าเห็นแล้วก็หมอบกราบซบหน้าลงถึงดิน และข้าพเจ้าได้ยินเสียงผู้หนึ่งกำลังตรัส
- อพยพ 3:4 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรเห็นโมเสสเดินเข้ามาดู พระเจ้าจึงทรงเรียกเขาจากพุ่มไม้นั้นว่า “โมเสส! โมเสส!” โมเสสทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่ที่นี่”
- อพยพ 3:5 - พระเจ้าตรัสว่า “อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้ จงถอดรองเท้าออกเพราะเจ้ากำลังยืนอยู่บนที่บริสุทธิ์”
- อพยพ 3:6 - จากนั้นพระองค์ตรัสว่า “เราเป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษของเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ” เมื่อได้ฟังดังนั้นโมเสสจึงปิดหน้าตนเอง เพราะเขากลัวที่จะมองดูพระเจ้า
- ปฐมกาล 32:28 - แล้วบุรุษนั้นจึงกล่าวว่า “เจ้าจะไม่ชื่อว่ายาโคบอีก แต่จะชื่อว่าอิสราเอล เพราะเจ้าสู้กับพระเจ้าและสู้กับมนุษย์แล้วเจ้าก็ชนะ”
- ปฐมกาล 32:29 - ยาโคบพูดว่า “โปรดบอกชื่อของท่านให้ข้าพเจ้าทราบ” แต่บุรุษนั้นตอบว่า “เจ้าถามชื่อเราทำไม? เจ้าไม่รู้หรือว่าเราคือใคร?” แล้วอวยพรเขาที่นั่น
- ปฐมกาล 32:30 - ดังนั้นยาโคบจึงเรียกที่แห่งนั้นว่าเปนีเอล โดยกล่าวว่า “เราได้เห็นพระเจ้าต่อหน้าต่อตา กระนั้นพระองค์ยังทรงไว้ชีวิตเรา”
- ปฐมกาล 16:13 - นางเรียกพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ตรัสกับนางว่า “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทอดพระเนตรเห็นข้าพระองค์” และนางพูดว่า “บัดนี้ฉันได้เห็น พระองค์ผู้ทรงเห็นฉัน”
- ปฐมกาล 48:15 - แล้วเขาจึงอวยพรโยเซฟว่า “ขอพระเจ้าของบรรพบุรุษของเรา ผู้ที่อับราฮัมและอิสอัคได้ดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์อยู่ต่อหน้า พระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงของเรา มาตลอดชีวิตจนถึงทุกวันนี้
- ปฐมกาล 48:16 - พระองค์ผู้เป็นทูตสวรรค์ผู้ทรงช่วยให้เราพ้นจากอันตรายทั้งสิ้น ขอพระองค์ทรงอวยพรเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้ ขอให้เขาทั้งสองเป็นผู้สืบสกุลของเรา และสืบสกุลของบรรพบุรุษของเราคืออับราฮัมและอิสอัค ขอให้เขาเพิ่มทวีขึ้นมากมาย บนแผ่นดินเถิด”
- ยอห์น 12:41 - อิสยาห์กล่าวเช่นนี้เพราะเขาเห็นพระเกียรติสิริของพระเยซูและกล่าวถึงพระองค์
- ยอห์น 17:6 - “ข้าพระองค์ได้สำแดงพระองค์ แก่บรรดาคนที่พระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์จากโลกนี้ พวกเขาเป็นของพระองค์ พระองค์ได้ประทานพวกเขาแก่ข้าพระองค์และพวกเขาได้เชื่อฟังพระดำรัสของพระองค์
- ผู้วินิจฉัย 6:12 - ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่กิเดโอนและกล่าวว่า “นักรบผู้เกรียงไกรเอ๋ย องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน”
- ผู้วินิจฉัย 6:13 - กิเดโอนตอบว่า “ท่านขอรับ หากองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับพวกข้าพเจ้า ทำไมเหตุการณ์ทั้งปวงนี้จึงเกิดขึ้นกับพวกข้าพเจ้าเล่า? ไหนล่ะการอัศจรรย์ทั้งปวงซึ่งบรรพบุรุษเคยเล่าให้ฟัง พวกเขาพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำพวกเราออกมาจากอียิปต์ไม่ใช่หรือ?’ แต่บัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทอดทิ้งพวกเรา และมอบเราไว้ในเงื้อมมือของชาวมีเดียน”
- ผู้วินิจฉัย 6:14 - องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหันมาหาเขาและตรัสว่า “จงไปช่วยอิสราเอลให้พ้นจากเงื้อมมือของชาวมีเดียนด้วยกำลังที่เจ้ามีอยู่ เราใช้เจ้าไปไม่ใช่หรือ?”
- ผู้วินิจฉัย 6:15 - แต่กิเดโอนทูลถามว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์นี่หรือจะไปช่วยกู้อิสราเอล? ตระกูลของข้าพระองค์อ่อนแอที่สุดในเผ่ามนัสเสห์ และข้าพระองค์ก็เป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในครอบครัว”
- ผู้วินิจฉัย 6:16 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้า เจ้าจะฟาดฟันชาวมีเดียนทั้งหมด”
- ผู้วินิจฉัย 6:17 - กิเดโอนทูลตอบว่า “หากพระองค์ทรงโปรด ขอทรงให้หมายสำคัญเพื่อแสดงว่าเป็นพระองค์จริงๆ ที่กำลังตรัสกับข้าพระองค์อยู่
- ผู้วินิจฉัย 6:18 - โปรดอย่าเพิ่งเสด็จไปไหนจนกว่าข้าพระองค์จะกลับมาและนำเครื่องบูชามาถวายพระองค์” และพระองค์ตรัสว่า “เราจะรอจนเจ้ากลับมา”
- ผู้วินิจฉัย 6:19 - กิเดโอนกลับเข้าไปจัดแจงปรุงลูกแพะตัวหนึ่ง และทำขนมปังไม่ใส่เชื้อจากแป้งประมาณ 22 ลิตร จากนั้นนำเนื้อใส่กระจาดและน้ำแกงใส่หม้อมาถวายทูตองค์นั้นที่ใต้ต้นโอ๊ก
- ผู้วินิจฉัย 6:20 - ทูตของพระเจ้ากล่าวกับกิเดโอนว่า “จงวางเนื้อและขนมปังไม่ใส่เชื้อไว้บนหินก้อนนี้ และเอาน้ำแกงราด” กิเดโอนก็ปฏิบัติตามคำสั่ง
- ผู้วินิจฉัย 6:21 - ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ายื่นปลายไม้เท้าแตะเนื้อและขนมปังไม่ใส่เชื้อนั้น ไฟก็ลุกขึ้นจากก้อนหิน เผาเนื้อและขนมปังจนหมด แล้วทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็หายตัวไป
- ผู้วินิจฉัย 6:22 - เมื่อกิเดโอนตระหนักว่าเป็นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ร้องว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต! ข้าพระองค์ได้เห็นทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าต่อหน้าต่อตา!”
- ผู้วินิจฉัย 6:23 - แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า “จงมีสันติสุขเถิด! อย่ากลัวเลย เจ้าจะไม่ตาย”
- ผู้วินิจฉัย 6:24 - กิเดโอนจึงสร้างแท่นบูชาขึ้นที่นั่นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและขนานนามว่า “พระยาห์เวห์ทรงเป็นสันติสุข” แท่นนี้อยู่ที่โอฟราห์ ในที่ดินของตระกูลอาบีเอเซอร์ตราบจนทุกวันนี้
- ผู้วินิจฉัย 6:25 - ในคืนนั้นเององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งกิเดโอนว่า “จงนำวัวผู้ตัวที่สองอายุเจ็ดปี จากฝูงสัตว์ของบิดาของเจ้ามา และรื้อแท่นบูชาพระบาอัลของบิดาและฟันเสาเจ้าแม่อาเชราห์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ ด้วย
- ผู้วินิจฉัย 6:26 - จากนั้นจงสร้างแท่นบูชาที่เหมาะสม สำหรับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าขึ้นบนยอดเนินเขาแห่งนั้น ใช้ไม้ที่ฟันจากเสาเจ้าแม่อาเชราห์ เป็นฟืนเผาวัวผู้ตัวที่สอง เป็นเครื่องเผาบูชา”
- อพยพ 34:5 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาในเมฆและประทับอยู่ที่นั่นกับโมเสส และประกาศพระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์
- อพยพ 34:6 - พระองค์เสด็จผ่านหน้าโมเสสไปพร้อมทั้งประกาศว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาและพระคุณ ทรงกริ้วช้า บริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์
- อพยพ 34:7 - ผู้แสดงความรักมั่นคงต่อคนนับพันชั่วอายุ โดยให้อภัยความชั่วร้าย การกบฏ และบาป แต่พระองค์จะไม่ทรงละเว้นโทษผู้กระทำผิด พระองค์จะทรงลงโทษลูกหลานของเขาเพราะบาปของบรรพบุรุษถึงสามสี่ชั่วอายุคน”
- ยอห์น 17:26 - ข้าพระองค์ได้ทำให้พวกเขารู้จักพระองค์และจะทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักต่อไปอีก เพื่อความรักซึ่งพระองค์ทรงมีต่อข้าพระองค์จะอยู่ในพวกเขาและเพื่อข้าพระองค์เองจะอยู่ในพวกเขา”
- อพยพ 23:21 - จงใส่ใจฟังถ้อยคำที่เขากล่าว อย่ากบฏเพราะเขาจะไม่ให้อภัยเจ้า เพราะเขาทำในนามของเรา
- อิสยาห์ 6:1 - ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับบนบัลลังก์อันสูงส่งและเป็นที่เทิดทูน ชายฉลองพระองค์ปกคลุมทั่วพระวิหาร
- อิสยาห์ 6:2 - เหนือพระองค์มีเสราฟิม แต่ละตนมีหกปีก สองปีกปกหน้า สองปีกปกเท้าและอีกสองปีกบินไปมา
- อิสยาห์ 6:3 - ต่างร้องขานรับต่อๆ กันว่า “บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ ทั่วโลกเต็มไปด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์”
- 1ทิโมธี 1:17 - บัดนี้ขอพระเกียรติและพระสิริมีแด่จอมราชันองค์นิรันดร์ผู้ทรงอมตะและเราไม่อาจมองเห็นได้ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแต่ผู้เดียวนั้นตลอดกาลสืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน
- 1ยอห์น 5:20 - เรายังรู้ด้วยว่าพระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาและได้ประทานความเข้าใจแก่เรา เพื่อเราจะรู้จักพระเจ้าที่แท้จริงและเราอยู่ในพระเจ้าที่แท้จริง คืออยู่ในพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแท้และเป็นชีวิตนิรันดร์
- ยอห์น 14:9 - พระเยซูตรัสตอบว่า “ฟีลิปเอ๋ย เราอยู่กับพวกท่านนานขนาดนี้แล้วท่านยังไม่รู้จักเราหรือ? ผู้ที่ได้เห็นเราก็ได้เห็นพระบิดา เหตุใดท่านจึงบอกว่า ‘ขอทรงสำแดงพระบิดาแก่เหล่าข้าพระองค์’?
- กันดารวิถี 12:8 - เราพูดกับเขาซึ่งๆ หน้า อย่างชัดเจนและไม่เป็นปริศนา เขาได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ทำไมเจ้าจึงไม่กลัว ที่จะพูดโจมตีโมเสสผู้รับใช้ของเรา?”
- ยอห์น 1:14 - พระวาทะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และประทับอยู่ท่ามกลางเรา พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความจริง เราได้เห็นพระเกียรติสิริของพระองค์ คือพระเกียรติสิริของพระบุตรองค์เดียวผู้ทรงมาจากพระบิดา
- เฉลยธรรมบัญญัติ 4:12 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านจากเปลวไฟ ท่านได้ยินพระดำรัสแต่ไม่ได้เห็นรูปพรรณสัณฐานของพระองค์ มีแต่พระสุรเสียงเท่านั้น
- อพยพ 33:18 - โมเสสจึงกราบทูลว่า “บัดนี้ขอทรงสำแดงพระเกียรติสิริของพระองค์แก่ข้าพระองค์”
- อพยพ 33:19 - และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะให้ความดีทั้งหมดของเราประจักษ์แจ้งต่อหน้าเจ้า และเราจะประกาศนามของเรา คือพระยาห์เวห์ต่อหน้าเจ้า เราจะเมตตาใครก็จะเมตตาคนนั้น เราจะกรุณาใครก็จะกรุณาคนนั้น
- อพยพ 33:20 - แต่เจ้าไม่อาจเห็นหน้าเราเพราะมนุษย์เห็นเราแล้วไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้”
- อพยพ 33:21 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “มีที่แห่งหนึ่งอยู่ใกล้เราซึ่งเจ้าจะยืนบนก้อนหินได้
- อพยพ 33:22 - และเมื่อเกียรติสิริของเราผ่านไป เราจะซ่อนเจ้าไว้ในซอกหินและเอามือบังเจ้าไว้จนกว่าเราจะผ่านไป
- อพยพ 33:23 - แล้วเราจึงจะเอามือออก เจ้าจะเห็นหลังของเรา แต่เจ้าจะเห็นหน้าของเราไม่ได้”
- ลูกา 10:22 - “พระบิดาของเราทรงมอบสิ่งทั้งปวงแก่เรา ไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นใครนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นใครนอกจากพระบุตรกับบรรดาผู้ที่พระบุตรทรงเลือกที่จะเปิดเผยพระบิดาแก่เขา”
- 1ยอห์น 4:20 - ถ้าผู้ใดพูดว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า” แต่ยังเกลียดพี่น้องของตน ผู้นั้นก็โกหก เพราะผู้ที่ไม่รักพี่น้องซึ่งตนมองเห็นย่อมไม่สามารถรักพระเจ้าซึ่งตนมองไม่เห็น
- 1ทิโมธี 6:16 - พระองค์แต่ผู้เดียวทรงเป็นอมตะและประทับอยู่ในความสว่างอันไม่อาจเข้าถึง เป็นผู้ที่ไม่มีใครเคยเห็นหรือสามารถเห็นพระองค์ได้ ขอพระเกียรติและเดชานุภาพมีแด่พระองค์ตลอดนิรันดร์ อาเมน
- มัทธิว 11:27 - “พระบิดาของเราทรงมอบสิ่งทั้งปวงแก่เรา ไม่มีใครรู้จักพระบุตรนอกจากพระบิดาและไม่มีใครรู้จักพระบิดานอกจากพระบุตรกับบรรดาผู้ที่พระบุตรทรงเลือกที่จะเปิดเผยพระบิดาแก่เขา
- 1ยอห์น 4:12 - ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเรารักซึ่งกันและกัน พระเจ้าก็ทรงอยู่ในเราและความรักของพระองค์ก็เต็มบริบูรณ์ในเรา
- ยอห์น 6:46 - ไม่มีใครได้เห็นพระบิดา เว้นแต่ผู้ซึ่งมาจากพระเจ้าเท่านั้นที่ได้เห็นพระบิดา
- โคโลสี 1:15 - พระบุตรทรงเป็นพระฉายของพระเจ้าผู้ที่เราไม่อาจมองเห็นได้ เป็นบุตรหัวปีเหนือสรรพสิ่งที่ทรงสร้าง