逐節對照
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - “ฉะนั้น ดูเถิด เราจะชวนนาง และนำนางเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และพูดกับนางอย่างนุ่มนวล
- 新标点和合本 - “后来我必劝导她,领她到旷野, 对她说安慰的话。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 因此,看哪,我要诱导她,领她到旷野, 我要说动她的心。
- 和合本2010(神版-简体) - 因此,看哪,我要诱导她,领她到旷野, 我要说动她的心。
- 当代译本 - “然而,我要引导她, 领她到旷野, 柔声安慰她。
- 圣经新译本 - “因此,我要诱导她, 领她到旷野, 对她说安慰的话。
- 现代标点和合本 - “后来我必劝导她,领她到旷野, 对她说安慰的话。
- 和合本(拼音版) - “后来我必劝导她,领她到旷野, 对她说安慰的话。
- New International Version - “Therefore I am now going to allure her; I will lead her into the wilderness and speak tenderly to her.
- New International Reader's Version - “So now I am going to draw her back to me. I will lead her into the desert. There I will speak tenderly to her.
- English Standard Version - “Therefore, behold, I will allure her, and bring her into the wilderness, and speak tenderly to her.
- New Living Translation - “But then I will win her back once again. I will lead her into the desert and speak tenderly to her there.
- The Message - “And now, here’s what I’m going to do: I’m going to start all over again. I’m taking her back out into the wilderness where we had our first date, and I’ll court her. I’ll give her bouquets of roses. I’ll turn Heartbreak Valley into Acres of Hope. She’ll respond like she did as a young girl, those days when she was fresh out of Egypt. * * *
- Christian Standard Bible - Therefore, I am going to persuade her, lead her to the wilderness, and speak tenderly to her.
- New American Standard Bible - “Therefore, behold, I am going to persuade her, Bring her into the wilderness, And speak kindly to her.
- New King James Version - “Therefore, behold, I will allure her, Will bring her into the wilderness, And speak comfort to her.
- Amplified Bible - “Therefore, behold, I will allure Israel And bring her into the wilderness, And I will speak tenderly to her [to reconcile her to Me].
- American Standard Version - Therefore, behold, I will allure her, and bring her into the wilderness, and speak comfortably unto her.
- King James Version - Therefore, behold, I will allure her, and bring her into the wilderness, and speak comfortably unto her.
- New English Translation - However, in the future I will allure her; I will lead her back into the wilderness, and speak tenderly to her.
- World English Bible - “Therefore behold, I will allure her, and bring her into the wilderness, and speak tenderly to her.
- 新標點和合本 - 後來我必勸導她,領她到曠野, 對她說安慰的話。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 因此,看哪,我要誘導她,領她到曠野, 我要說動她的心。
- 和合本2010(神版-繁體) - 因此,看哪,我要誘導她,領她到曠野, 我要說動她的心。
- 當代譯本 - 「然而,我要引導她, 領她到曠野, 柔聲安慰她。
- 聖經新譯本 - “因此,我要誘導她, 領她到曠野, 對她說安慰的話。
- 呂振中譯本 - 『因此你看吧、是我要誘導她, 領她到野地, 和她談心。
- 現代標點和合本 - 「後來我必勸導她,領她到曠野, 對她說安慰的話。
- 文理和合譯本 - 我將誘掖之、導之於野、以善言慰之、
- 文理委辦譯本 - 厥後我勸迪斯民、導之於野、以善言慰藉、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 雖然、厥後我仍勸誘之、導之於野、以善言慰藉其心、
- Nueva Versión Internacional - »Por eso, ahora voy a seducirla: me la llevaré al desierto y le hablaré con ternura.
- 현대인의 성경 - “그러므로 내가 그녀를 꾀어내어 광야로 데리고 가서 부드러운 말로 잘 타이르고
- Новый Русский Перевод - Поэтому теперь Я увлеку ее; Я приведу ее в пустыню и буду говорить с ней ласково.
- Восточный перевод - Но теперь Я увлеку её; Я приведу её в пустыню и буду говорить с ней ласково.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Но теперь Я увлеку её; Я приведу её в пустыню и буду говорить с ней ласково.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - Но теперь Я увлеку её; Я приведу её в пустыню и буду говорить с ней ласково.
- La Bible du Semeur 2015 - Et je dévasterai ╵sa vigne et son figuier dont elle a dit : « Voyez, c’est le salaire ╵donné par mes amants. » Je les réduirai en broussailles et les bêtes sauvages ╵en feront leur pâture.
- リビングバイブル - 「だが、わたしは再び彼女をくどいて 荒野に連れて行き、やさしく語りかけよう。
- Nova Versão Internacional - “Portanto, agora vou atraí-la; vou levá-la para o deserto e falar-lhe com carinho.
- Hoffnung für alle - Ich verwüste ihre Weinstöcke und Feigenbäume, von denen sie sagte: ›Das habe ich von meinen Freunden für meine Liebesdienste bekommen.‹ Alles, was sie gepflanzt hat, lasse ich von Gestrüpp überwuchern und von wilden Tieren abfressen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - “Vậy nên Ta sẽ thu phục nó một lần nữa. Ta sẽ dẫn nó vào hoang mạc và chuyện trò dịu dàng với nó tại đó.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - “ดังนั้นเรากำลังจะเกลี้ยกล่อมนาง เราจะพานางเข้าไปในถิ่นกันดาร และพูดกับนางอย่างอ่อนโยน
交叉引用
- เยเรมีย์ 30:18 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “ดูเถิด เราจะให้กระโจมของยาโคบเจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินอีก และมีความเมตตาต่อครอบครัวของเขา เมืองจะถูกสร้างบนเนินเขา และป้อมปราการจะยืนตั้งอยู่ในที่เหมาะสม
- เยเรมีย์ 30:19 - ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะร้องเพลงสรรเสริญ และจะมีเสียงแห่งความยินดี เราจะทวีจำนวนพวกเขามากขึ้น พวกเขาจะไม่ลดน้อยลง เราจะทำให้พวกเขาได้รับเกียรติ พวกเขาจะไม่ด้อยเลย
- เยเรมีย์ 30:20 - ลูกๆ ของพวกเขาจะเป็นอย่างที่เคยเป็นในสมัยก่อน และสังคมของพวกเขาจะก่อตั้งขึ้น ณ เบื้องหน้าเรา และเราจะลงโทษทุกคนที่กดขี่ข่มเหงพวกเขา
- เยเรมีย์ 30:21 - คนหนึ่งในพวกเขาเองจะมาเป็นผู้นำ คนหนึ่งในท่ามกลางพวกเขาจะเป็นผู้ปกครอง เราจะทำให้เขาเข้ามาใกล้ และเขาจะเข้าใกล้เรา ใครคือผู้นี้ที่ตั้งมั่นในใจว่าจะเข้ามาใกล้เรา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 30:22 - “ฉะนั้น พวกเจ้าจะเป็นชนชาติของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า”
- เศคาริยาห์ 8:19 - พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “การอดอาหารในเดือนที่สี่ เดือนที่ห้า เดือนที่เจ็ด และเดือนที่สิบ จะเป็นโอกาสของความร่าเริงและน่ายินดี และงานฉลองความรื่นเริงใจสำหรับยูดาห์ ฉะนั้นจงรักความจริงและความสงบสุข”
- เศคาริยาห์ 8:20 - พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “บรรดาชนชาติและบรรดาผู้อยู่อาศัยของเมืองทั้งหลายจะมา
- เศคาริยาห์ 8:21 - บรรดาผู้อยู่อาศัยของเมืองหนึ่งจะไปยังอีกเมืองหนึ่งและพูดว่า ‘เราไปถามพระผู้เป็นเจ้าอย่างจริงใจกันเดี๋ยวนี้ และไปแสวงหาพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากันเถิด เราเองก็กำลังไป’
- เศคาริยาห์ 8:22 - บรรดาชนชาติจำนวนมากและบรรดาประชาชาติที่เป็นมหาอำนาจจะมาแสวงหาพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาในเยรูซาเล็ม และเพื่อถามพระผู้เป็นเจ้าอย่างจริงใจ”
- เศคาริยาห์ 8:23 - พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “ในสมัยนั้น ผู้ชาย 10 คนจากทุกภาษาและบรรดาประชาชาติจะคว้าเสื้อคลุมของชาวยิว 1 คน และจะพูดดังนี้ว่า ‘ให้พวกเราไปกับพวกท่านเถิด เพราะพวกเราได้ยินมาว่า พระเจ้าสถิตกับพวกท่าน’”
- อิสยาห์ 51:3 - พระผู้เป็นเจ้าปลอบประโลมศิโยน พระองค์มองดูสถานที่ร้างด้วยความสงสาร และทำให้ถิ่นทุรกันดารเป็นเหมือนสวนเอเดน ให้ที่ราบเป็นเหมือนสวนของพระผู้เป็นเจ้า ความยินดีและเบิกบานใจจะอยู่ในที่นั้น พร้อมด้วยการขอบคุณและเสียงเพลง
- อิสยาห์ 51:4 - “ชนชาติของเราเอ๋ย จงตั้งใจฟังเรา ประชาชาติของเรา จงเงี่ยหูฟังเรา เพราะกฎบัญญัติจะมาจากเรา และเราจะให้ความยุติธรรมเป็นแสงสว่างแก่บรรดาชนชาติ
- อิสยาห์ 51:5 - ความชอบธรรมของเราใกล้เข้ามาแล้ว ความรอดพ้นของเรากำลังมา และพลานุภาพของเราจะตัดสินบรรดาชนชาติ หมู่เกาะต่างๆ มีความหวังในเรา และพวกเขารอพลานุภาพของเรา
- อิสยาห์ 51:6 - จงเงยหน้าขึ้นสู่ฟ้าสวรรค์ และมองลงที่แผ่นดินโลกเบื้องล่าง ด้วยว่า ฟ้าสวรรค์จะเลือนหายไปอย่างควัน แผ่นดินโลกจะสึกหรอไปเหมือนกับเครื่องนุ่งห่ม และพวกที่อาศัยอยู่ในนั้นจะตายไปเหมือนตัวริ้น แต่ความรอดพ้นที่มาจากเราจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ และความชอบธรรมของเราจะมั่นคง
- อิสยาห์ 51:7 - จงฟังเรา บรรดาผู้ที่รู้จักความชอบธรรม บรรดาผู้ที่มีกฎบัญญัติอยู่ในจิตใจ อย่ากลัวการติเตียนของมนุษย์ หรือตกใจกับการเย้ยหยันของพวกเขา
- อิสยาห์ 51:8 - ด้วยว่า แมลงจะกัดกินพวกเขาเหมือนกินเครื่องนุ่งห่ม และหนอนจะกินพวกเขาเหมือนกินขนแกะ แต่ความชอบธรรมที่มาจากเราจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ และความรอดพ้นที่มาจากเรามีให้ทุกชั่วอายุคน”
- อิสยาห์ 51:9 - ตื่นเถิด ตื่นเถิด อานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า ขอเปี่ยมด้วยพละกำลัง ตื่นเถิด เหมือนสมัยดึกดำบรรพ์ สมัยที่ล่วงผ่านพ้นมานานแล้ว ไม่ใช่พระองค์หรอกหรือที่หั่นราหับเป็นชิ้นๆ และแทงมังกรตัวนั้นทะลุ
- อิสยาห์ 51:10 - ไม่ใช่พระองค์หรอกหรือที่ทำให้ทะเล คือน้ำในทะเลลึกแห้งเหือด ผู้ทำทางในความลึกของทะเลให้แก่ บรรดาผู้ได้รับการไถ่ได้ข้ามไป
- อิสยาห์ 51:11 - และบรรดาผู้รับการไถ่คืนของพระผู้เป็นเจ้าจะกลับมา และมายังศิโยนพร้อมกับการร้องเพลง ความยินดีจะเป็นของพวกเขาตลอดไป เขาทั้งหลายจะได้รับความยินดีและเบิกบานใจ ความเศร้าและการถอนใจจะหนีไปจากพวกเขา
- อิสยาห์ 51:12 - “เรานั่นแหละ เราคือผู้ที่ปลอบประโลมพวกเจ้า เจ้าเป็นใครที่กลัวเพียงมนุษย์ที่ตายได้ กลัวบุตรมนุษย์ซึ่งเป็นดั่งใบหญ้า
- อิสยาห์ 51:13 - เจ้าจึงได้ลืมพระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้สร้างของเจ้า ผู้แผ่ฟ้าสวรรค์ออกไป และวางฐานรากของแผ่นดินโลก และเจ้าจึงหวาดกลัวตลอดวันเวลา เพราะความฉุนเฉียวของผู้บีบบังคับ เมื่อเขามุ่งหมายจะทำลาย แล้วความฉุนเฉียวของผู้บีบบังคับอยู่ที่ไหน
- อิสยาห์ 51:14 - ผู้ที่ถูกปราบให้หมอบลงจะได้รับการปลดปล่อยอย่างโดยเร็ว เขาจะไม่ตายหรือตายในหลุมแห่งแดนคนตาย เขาจะไม่ขาดแคลนอาหาร
- อิสยาห์ 51:15 - เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า เราทำให้ทะเลปั่นป่วน และคลื่นส่งเสียงครืนครั่น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาคือพระนามของพระองค์
- อิสยาห์ 51:16 - และเราได้ใส่คำกล่าวของเราในปากของเจ้าแล้ว และคุ้มตัวเจ้าอยู่ในร่มเงาของมือเรา เราก่อตั้งฟ้าสวรรค์ และวางฐานรากของแผ่นดินโลก และกล่าวกับศิโยนว่า ‘เจ้าเป็นชนชาติของเรา’”
- อิสยาห์ 51:17 - ตื่นเถิด ตื่นเถิด โอ เยรูซาเล็มเอ๋ย จงยืนขึ้น เจ้าเป็นผู้ที่ดื่มจากมือของพระผู้เป็นเจ้า ถ้วยแห่งความกริ้วของพระองค์ เจ้าดื่มจนไม่เหลือแม้ก้นตะกอน จากถ้วยที่ทำให้เดินโซซัดโซเซ
- อิสยาห์ 51:18 - ไม่มีสักคนในบรรดาบุตรชายที่นางให้กำเนิด จะนำทางให้นาง ไม่มีสักคนในบรรดาบุตรชายที่นางได้เลี้ยงดูมา จะจูงมือนางไป
- อิสยาห์ 51:19 - ความวิบัติสองสิ่งนี้ได้เกิดกับเจ้า ใครจะแสดงความเสียใจต่อเจ้า ความทุกข์ทรมานและความพินาศ ทุพภิกขภัยและการฆ่าฟัน ใครจะปลอบประโลมเจ้า
- อิสยาห์ 51:20 - บรรดาบุตรของเจ้าเป็นลม และล้มลงอยู่ที่ทุกมุมถนน เหมือนกับละมั่งน้อยถูกดักด้วยตาข่าย พวกเขาถูกพระผู้เป็นเจ้าลงโทษ ถูกพระเจ้าตักเตือนว่ากล่าว
- อิสยาห์ 51:21 - ฉะนั้น จงฟังเถิด พวกท่านที่ได้รับความทรมาน ที่มึนเมา แต่ไม่ใช่ด้วยเหล้าองุ่น
- อิสยาห์ 51:22 - พระผู้เป็นเจ้าของท่าน พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ผู้ปกป้องชนชาติของพระองค์กล่าวว่า “ดูเถิด เราได้เอาถ้วยที่ทำให้เจ้าเดินโซซัดโซเซออกจากมือเจ้าแล้ว เจ้าจะไม่ดื่มจากถ้วยแห่งความกริ้วของเราอีกต่อไป
- อิสยาห์ 51:23 - และเราจะใส่ในมือของพวกที่รังควานเจ้า พวกที่พูดกับเจ้าว่า ‘จงก้มลงราบกับพื้น ให้เราเดินเหยียบย่ำผ่านไป’ และเจ้าได้ทำให้หลังของเจ้าเป็นเหมือนพื้นดิน และเหมือนกับถนนให้พวกเขาเหยียบย่ำผ่านไป”
- ปฐมกาล 34:3 - เพราะเขามีจิตใจผูกพันอยู่กับดีนาห์บุตรหญิงของยาโคบ เขารักหญิงสาวจึงได้พูดจาอ่อนหวานกับเธอ
- เอเสเคียล 34:22 - เราจะช่วยชีวิตฝูงแกะของเรา พวกเขาจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป และเราจะตัดสินระหว่างแกะตัวหนึ่งกับแกะอีกตัวหนึ่ง
- เอเสเคียล 34:23 - และเราจะกำหนดผู้เลี้ยงดูฝูงแกะผู้หนึ่งให้ดูแลพวกเขา คือดาวิดผู้รับใช้ของเรา และท่านจะดูแลพวกเขา ท่านจะดูแลพวกแกะและเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของพวกเขา
- เอเสเคียล 34:24 - และเรา ผู้เป็นพระผู้เป็นเจ้า จะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ท่ามกลางพวกเขา เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้กล่าวแล้ว
- เอเสเคียล 34:25 - เราจะทำพันธสัญญาแห่งสันติสุขกับแกะของเรา และขับไล่พวกสัตว์ป่าออกไปจากแผ่นดิน เพื่อให้พวกแกะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารและนอนในป่าไม้อย่างปลอดภัย
- เอเสเคียล 34:26 - เราจะทำให้พวกเขาและสถานที่หลายแห่งที่รอบเนินเขาได้รับพร และเราจะให้ฝนโปรยลงมาตามฤดูกาลอันเป็นฝนแห่งพรจากเรา
- เอเสเคียล 34:27 - หมู่ไม้ในทุ่งนาจะออกผล และแผ่นดินจะเพิ่มพูนผลผลิต และพวกเขาจะอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาอย่างปลอดภัย พวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าเมื่อเราหักคานแอกของพวกเขา และช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของบรรดาผู้ที่บังคับให้เป็นทาส
- เอเสเคียล 34:28 - พวกเขาจะไม่เป็นเหยื่อสำหรับบรรดาประชาชาติ และพวกสัตว์ป่าของแผ่นดินจะไม่กัดกินพวกเขาอีกต่อไป พวกเขาจะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย และจะไม่มีสิ่งใดทำให้พวกเขาหวาดกลัวอีก
- เอเสเคียล 34:29 - และเราจะจัดหาแผ่นดินอันเป็นที่เลื่องลือให้แก่พวกเขา เพื่อจะไม่ตกอยู่ในความอดอยากในแผ่นดินอีก และไม่ต้องทนทุกข์ต่อการดูหมิ่นจากบรรดาประชาชาติ
- เอเสเคียล 34:30 - และพวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา เราอยู่กับพวกเขา และพวกเขาคือพงศ์พันธุ์อิสราเอลซึ่งเป็นชนชาติของเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 34:31 - “และเจ้าเป็นฝูงแกะของเรา แกะที่อยู่ในทุ่งหญ้าของเรา เราเป็นพระเจ้าของเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 32:36 - ฉะนั้น บัดนี้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวถึงเมืองซึ่งพวกเจ้าพูดว่า ‘เมืองนี้ถูกมอบไว้ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลนด้วยการสู้รบ ความอดอยาก และโรคระบาด’
- เยเรมีย์ 32:37 - ดูเถิด เราจะรวบรวมพวกเขาจากแผ่นดินทั้งปวงที่เราได้ขับไล่ให้พวกเขาออกไปในเวลาที่เราโกรธและกริ้วมาก เราจะนำพวกเขากลับมายังที่นี้ และเราจะให้พวกเขาอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย
- เยเรมีย์ 32:38 - และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
- เยเรมีย์ 32:39 - เราจะให้พวกเขามีใจและวิถีทางเป็นหนึ่งเดียวคือ พวกเขาจะเกรงกลัวเราจนชั่วนิรันดร์ เพื่อเขาจะได้ดี และลูกหลานที่ตามมาภายหลังก็จะได้ดีด้วย
- เยเรมีย์ 32:40 - เราจะทำพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์กับพวกเขาว่า เราจะดีต่อพวกเขาเสมอไป และเราจะทำให้พวกเขาเกรงกลัวเรา เพื่อพวกเขาจะไม่หันเหไปจากเรา
- เยเรมีย์ 32:41 - เราจะทำดีต่อพวกเขาด้วยความยินดี และเราจะปลูกสร้างพวกเขาในแผ่นดินนี้ด้วยสุดดวงใจและสุดดวงจิตของเรา”
- อิสยาห์ 35:3 - ให้พลังแก่มือที่อ่อนแอ และทำให้หัวเข่าที่อ่อนเปลี้ยแข็งแรง
- อิสยาห์ 35:4 - จงพูดกับบรรดาคนที่กระวนกระวายใจว่า “จงเข้มแข็ง อย่ากลัว ดูเถิด พระเจ้าของท่านจะนำการลงโทษมา ด้วยการตอบแทนของพระเจ้า พระองค์จะมาช่วยท่านให้รอดพ้น”
- ผู้วินิจฉัย 19:3 - สามีของนางก็ไปหานางเพื่อเกลี้ยกล่อมให้นางกลับไปอยู่กับเขา เขาพาคนรับใช้และลา 2 ตัวไปด้วย นางเชิญเขาเข้าบ้านบิดา เมื่อบิดานางเห็นและพบกับเขาแล้ว ก็ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี
- เอเสเคียล 37:11 - แล้วพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย กระดูกเหล่านี้คือพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด ดูเถิด พวกเขาพูดว่า ‘กระดูกของพวกเราแห้งหมด และเราสิ้นหวังหมดแล้ว พวกเราถูกตัดขาดจริงทีเดียว’
- เอเสเคียล 37:12 - ฉะนั้น จงเผยความและบอกพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะเปิดหลุมศพของพวกเจ้า และทำให้พวกเจ้าฟื้นขึ้นมาจากหลุม โอ ชนชาติของเราเอ๋ย เราจะนำพวกเจ้าเข้าไปยังแผ่นดินของอิสราเอล
- เอเสเคียล 37:13 - และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าเมื่อเราเปิดหลุมศพของพวกเจ้า และทำให้พวกเจ้าฟื้นขึ้นมาจากหลุม โอ ชนชาติของเราเอ๋ย
- เอเสเคียล 37:14 - และเราจะใส่วิญญาณของเราไว้ในพวกเจ้า และพวกเจ้าจะมีชีวิต และเราจะให้พวกเจ้าไปอยู่ในแผ่นดินของตนเอง แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้พูดและเราจะกระทำตามนั้น” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 37:15 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า
- เอเสเคียล 37:16 - “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงเอาไม้มาอันหนึ่งและเขียนบนไม้ดังนี้ ‘เป็นของยูดาห์และทุกคนที่ชาวอิสราเอลมีสัมพันธไมตรีด้วย’ และเอาไม้อีกอันหนึ่งมาและเขียนบนไม้ว่า ‘ไม้ของเอฟราอิม ซึ่งเป็นของโยเซฟและพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งปวงที่มีสัมพันธไมตรีด้วย’
- เอเสเคียล 37:17 - และรวมไม้ทั้งสองเข้าด้วยกันให้เป็นอันเดียว เพื่อให้ไม้ทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกันในมือของเจ้า
- เอเสเคียล 37:18 - และเมื่อชนร่วมชาติของเจ้าพูดกับเจ้าว่า ‘ท่านจะไม่บอกให้เราทราบหรือว่า ท่านหมายถึงอะไร’
- เอเสเคียล 37:19 - เจ้าจงบอกพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ดูเถิด เรากำลังจะเอาไม้ของโยเซฟ (ซึ่งอยู่ในมือของเอฟราอิม) และของบรรดาเผ่าพันธุ์อิสราเอลที่มีสัมพันธไมตรีด้วย และเราจะรวมไม้ของยูดาห์เข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เป็นไม้อันเดียว เพื่อพวกเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันในมือของเรา
- เอเสเคียล 37:20 - เมื่อพวกเขาเห็นไม้ทั้งสองที่เจ้าเขียนอยู่ในมือของเจ้า
- เอเสเคียล 37:21 - จงพูดกับพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะนำชาวอิสราเอลออกมาจากบรรดาประชาชาติที่พวกเขาไปอยู่ด้วย และเราจะรวบรวมพวกเข้ามาจากทุกแห่งหน เพื่อนำให้ไปอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเอง
- เอเสเคียล 37:22 - และเราจะทำให้พวกเขาเป็นประชาชาติเดียวในแผ่นดิน บนภูเขาของอิสราเอล และกษัตริย์ผู้เดียวเท่านั้นที่จะเป็นกษัตริย์ปกครองทุกคน และพวกเขาจะไม่เป็นสองประชาชาติอีกต่อไป และจะไม่ถูกแบ่งออกเป็นสองอาณาจักรอีกต่อไป
- เอเสเคียล 37:23 - พวกเขาจะไม่ทำตนให้เป็นมลทินเพราะรูปเคารพและสิ่งอันน่าชัง หรือเพราะการล่วงละเมิดอีก แต่เราจะช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นจากบาปซึ่งเป็นเหตุให้สิ้นความเชื่อ เราจะชำระล้างพวกเขา และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
- เอเสเคียล 37:24 - ดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นกษัตริย์ปกครองพวกเขา และทุกคนจะมีผู้เลี้ยงดูฝูงแกะคนเดียว พวกเขาจะดำเนินชีวิตตามคำบัญชาของเรา และระมัดระวังที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของเรา
- เอเสเคียล 37:25 - พวกเขาจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เรามอบให้ยาโคบผู้รับใช้ของเรา ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเจ้าอาศัยอยู่ ทั้งพวกเขาและบุตรหลานต่อๆ กันไปจะอาศัยอยู่ที่นั่นไปตลอดกาล และดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาไปตลอดกาล
- เอเสเคียล 37:26 - เราจะทำพันธสัญญาแห่งสันติกับพวกเขา ซึ่งจะเป็นพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์กับพวกเขา และเราจะให้พวกเขามีความมั่นคงอยู่ในแผ่นดินและทวีจำนวนคนขึ้น และเราจะให้ที่พำนักของเราอยู่ท่ามกลางพวกเขาตลอดไป
- เอเสเคียล 37:27 - กระโจมที่พำนักของเราอยู่กับพวกเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา
- เอเสเคียล 37:28 - แล้วบรรดาประชาชาติจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า ผู้ชำระอิสราเอลให้บริสุทธิ์ เมื่อที่พำนักของเราอยู่ท่ามกลางพวกเขาตลอดกาล”
- อิสยาห์ 49:13 - ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงชื่นชมยินดี แผ่นดินโลกเอ๋ย จงดีใจ เทือกเขาเอ๋ย จงส่งเสียงร้องเพลง โอ เพราะพระผู้เป็นเจ้าปลอบประโลมชนชาติของพระองค์ และมีความสงสารต่อคนของพระองค์ที่มีความทุกข์ใจ
- อิสยาห์ 49:14 - แต่ศิโยนพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าได้ทอดทิ้งข้าพเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าลืมข้าพเจ้าเสียแล้ว”
- อิสยาห์ 49:15 - “ผู้หญิงจะลืมลูกของนางที่ยังกินนมอยู่ได้หรือ และนางจะไม่มีความสงสารต่อลูกชายที่เกิดจากครรภ์ของนางหรือ นางอาจจะลืมก็ได้ แต่เราจะไม่ลืมเจ้า
- อิสยาห์ 49:16 - ดูเถิด เราได้สลักเจ้าไว้ที่ฝ่ามือของเราแล้ว เราจะไม่มีวันลืมกำแพงเมืองของเจ้า
- อิสยาห์ 49:17 - ลูกๆ ของเจ้ากลับมาอย่างรวดเร็ว พวกที่ทำลายเจ้าและทำให้เจ้าสูญสิ้นก็ไปจากเจ้า
- อิสยาห์ 49:18 - จงเงยหน้าขึ้นดูโดยรอบ พวกลูกๆ มาชุมนุมกันและมาหาเจ้า พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ พวกเขาจะเป็นเช่นเดียวกับเครื่องประดับที่เจ้าสวมใส่ พวกเขาจะสวมติดอยู่กับเจ้าเช่นเดียวกับที่เจ้าสาวใช้ประดับ
- อิสยาห์ 49:19 - แม้ว่าสถานที่ของเจ้าถูกพังทลาย และเป็นที่ร้าง แผ่นดินเสียหาย แต่บัดนี้บรรดาผู้อยู่อาศัยในที่ของเจ้ามีอย่างล้นหลามในแผ่นดิน และพวกที่พยายามกำจัดเจ้าให้หมดสิ้นจะอยู่ห่างไกลมาก
- อิสยาห์ 49:20 - ลูกๆ ที่ถูกพรากไป จะเป็นเสียงที่เจ้าได้ยินว่า ‘แผ่นดินคับแคบสำหรับเรา ช่วยขยับขยายให้เราได้อยู่อาศัยเถิด’
- อิสยาห์ 49:21 - แล้วเจ้าจะคิดในใจว่า ‘ใครหนอให้กำเนิดคนเหล่านี้แก่เรา เราสูญเสียคนไปและเป็นหมัน ลี้ภัยและไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ใครหนอที่ได้นำคนเหล่านี้ขึ้นมา ดูเถิด เราถูกทอดทิ้งไว้ตามลำพัง แล้วคนพวกนี้มาจากไหนกัน’”
- อิสยาห์ 49:22 - พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้ากล่าวดังนี้ “ดูเถิด เราจะยกมือของเราไปทางบรรดาประชาชาติ และจะยกธงชัยของเราแก่บรรดาชนชาติ และพวกเขาจะอุ้มบรรดาลูกชายของเจ้ามาในอ้อมอก และจะแบกลูกสาวของเจ้ามาบนบ่าของพวกเขา
- อิสยาห์ 49:23 - บรรดากษัตริย์จะเป็นพ่อรับเลี้ยงของเจ้า และบรรดาราชินีจะเป็นแม่นมของเจ้า พวกเขาจะก้มหน้าลงจรดดินต่อเจ้า และเลียฝุ่นที่เท้าของเจ้า แล้วเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า บรรดาผู้ที่รอคอยเราจะไม่ผิดหวัง”
- อิสยาห์ 49:24 - เป็นไปได้หรือที่จะริบของมาจากนักรบผู้กล้าหาญ หรือจะช่วยเชลยของผู้โหดร้ายให้รอดได้หรือ
- อิสยาห์ 49:25 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “แม้เชลยของนักรบผู้กล้าหาญก็จะได้รับการปลดปล่อย และของที่ริบได้จากคนโหดเหี้ยมก็ริบกลับคืนมาได้ เพราะเราจะราวีคนที่ราวีเจ้า และเราจะช่วยลูกๆ ของเจ้าให้รอดปลอดภัย
- อิสยาห์ 49:26 - เราจะทำให้บรรดาผู้บีบบังคับของเจ้ากัดกินเนื้อหนังของตนเอง และพวกเขาจะเมาเลือดของตนเองเหมือนที่เมาเหล้าองุ่น แล้วมนุษย์ทั้งปวงจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า ผู้ช่วยให้รอดพ้นของเจ้า ผู้ไถ่ของเจ้า ผู้มีอานุภาพของยาโคบ”
- เอเสเคียล 36:8 - ส่วนพวกเจ้าเอง โอ ภูเขาของอิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะแตกกิ่งก้านของเจ้า และจะออกผลให้อิสราเอลชนชาติของเรา เพราะพวกเขาจะกลับมาบ้านในไม่ช้า
- เอเสเคียล 36:9 - ดูเถิด เราเป็นฝ่ายเจ้า และเราจะหันมาโปรดปรานเจ้า และเจ้าจะได้รับการไถและหว่านเมล็ด
- เอเสเคียล 36:10 - และเราจะทวีจำนวนคนมากขึ้น คือพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด เมืองต่างๆ จะมีผู้คนอาศัยอยู่ ที่ร้างจะถูกสร้างขึ้นใหม่
- เอเสเคียล 36:11 - เราจะทวีจำนวนคนและสัตว์ให้แก่เจ้า และพวกเขาจะเพิ่มพูนผลและมีลูกดก และเราจะให้มีผู้คนตั้งหลักแหล่งในที่ของเจ้าอย่างที่เคยเป็นในอดีต และทำสิ่งดีๆ ให้แก่เจ้ายิ่งกว่าที่เคยเป็นมา แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
- เอเสเคียล 36:12 - เราจะให้ผู้คนซึ่งเป็นชนชาติของเราคืออิสราเอลเดินบนเจ้า และพวกเขาจะได้เป็นเจ้าของ และเจ้าจะเป็นมรดกของพวกเขา และเจ้าจะไม่ทำให้พวกเขาสูญเสียลูกหลานอีก”
- เอเสเคียล 36:13 - พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เพราะพวกเขาพูดกับพวกเจ้าว่า ‘เจ้ากินเลือดกินเนื้อคน และทำให้ประชาชาติของเจ้าเองสูญเสียลูกหลานไป’
- เอเสเคียล 36:14 - ฉะนั้นเจ้าจะไม่กินเลือดกินเนื้อคนอีกต่อไป และไม่ทำให้ประชาชาติของเจ้าสูญเสียลูกหลานอีกต่อไป” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 36:15 - “และเราจะไม่ยอมให้บรรดาประชาชาติพูดดูหมิ่นเจ้าอีก เจ้าจะไม่ต้องทนทุกข์กับการหัวเราะเยาะของบรรดาชนชาติ และจะไม่เป็นเหตุให้ประชาชาติของเจ้าสะดุดล้มอีกต่อไป” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 20:10 - ดังนั้นเรานำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ และพาไปยังถิ่นทุรกันดาร
- เศคาริยาห์ 1:12 - ครั้นแล้ว ทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระองค์จะไม่มีเมตตาต่อเยรูซาเล็มและเมืองทั้งหลายในยูดาห์นานเพียงไร พระองค์โกรธเคืองพวกเขามาเป็นเวลา 70 ปีแล้ว”
- เศคาริยาห์ 1:13 - พระผู้เป็นเจ้าตอบด้วยคำพูดซึ่งกอปรด้วยความกรุณา และปลอบประโลมทูตสวรรค์ที่พูดกับข้าพเจ้า
- เศคาริยาห์ 1:14 - ดังนั้นทูตสวรรค์ที่พูดอยู่กับข้าพเจ้าบอกข้าพเจ้าว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า จงร้องบอกดังนี้ ‘เราหวงแหนเยรูซาเล็มและศิโยนยิ่งนัก
- เศคาริยาห์ 1:15 - และเราเกรี้ยวโกรธบรรดาประชาชาติมากที่ไม่สะทกสะท้านอะไร แต่แรกเรากริ้วพวกเขาเพียงเล็กน้อย แต่ประชาชาติกระทำต่อพวกเขาเกินความตั้งใจของเรา’
- เศคาริยาห์ 1:16 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ ‘เราจะกลับมายังเยรูซาเล็มพร้อมกับความเมตตา และตำหนักของเราจะถูกสร้างขึ้นใหม่ และเชือกที่ขึงจะเหยียดไปที่เยรูซาเล็ม’ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาประกาศดังนั้น
- เศคาริยาห์ 1:17 - จงร้องบอกต่อไปอีกว่า พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ ‘เมืองทั้งหลายของเราจะเปี่ยมล้นด้วยความมั่งมี และพระผู้เป็นเจ้าจะปลอบประโลมศิโยนและเลือกเยรูซาเล็มอีก’”
- เยเรมีย์ 16:14 - ฉะนั้น ดูเถิด จะถึงเวลาที่จะไม่มีใครพูดว่า ‘ตราบที่พระผู้เป็นเจ้าผู้นำชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์มีชีวิตอยู่ฉันใด’
- อิสยาห์ 30:18 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าปรารถนาจะมีความกรุณาต่อพวกท่าน พระองค์จึงลุกขึ้นแสดงความเมตตาต่อท่าน เพราะพระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม ทุกคนที่รอคอยพระองค์จะเป็นสุข
- เพลงซาโลมอน 1:4 - ช่วยพาฉันไปกับท่าน เรารีบไปกันเถิด กษัตริย์ได้พาฉันเข้าไปในห้องของท่าน ให้พวกเรายินดีและพอใจในตัวท่านเถิด เราจะเทิดทูนความรักนี้ยิ่งกว่าเหล้าองุ่น มิน่าเล่าบรรดาสาวๆ จึงได้รักท่าน
- เยเรมีย์ 3:12 - จงไปประกาศแก่ทางทิศเหนือว่า ‘อิสราเอลผู้สิ้นความเชื่อจงกลับมา’” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น “เราจะไม่ดูเจ้าด้วยความกริ้ว เพราะเราเปี่ยมด้วยความเมตตา” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น “เราจะไม่กริ้วเจ้าไปตลอดกาล
- เยเรมีย์ 3:13 - เจ้าจงเพียงยอมรับความผิดของเจ้าว่า เจ้าขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า และเจ้าวิ่งตามเทพเจ้าต่างชาติ ที่ใต้ต้นไม้อันเขียวชอุ่มทุกต้น และเจ้าไม่ได้เชื่อฟังคำของเรา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 3:14 - “โอ ลูกๆ ที่สิ้นความเชื่อเอ๋ย จงกลับมา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น “เพราะเราเป็นนายของเจ้า เราจะเลือกเจ้ามาจากเมืองละ 1 คน และจากครอบครัวละ 2 คน และเราจะพาเจ้าไปยังศิโยน
- เยเรมีย์ 3:15 - และเราจะมอบบรรดาผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่เชื่อฟังเรา เขาจะสอนเจ้าให้มีความรู้และความเข้าใจ
- เยเรมีย์ 3:16 - และเมื่อเจ้าทวีจำนวนคนขึ้นในแผ่นดิน พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ในเวลานั้น พวกเขาจะไม่พูดว่า ‘หีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า’ อีกต่อไปแล้ว เจ้าจะไม่นึกถึง หรือจดจำ หรือคิดถึงอีก และจะไม่ถูกสร้างขึ้นอีก
- เยเรมีย์ 3:17 - ในเวลานั้น เยรูซาเล็มจะได้รับเรียกว่า บัลลังก์ของพระผู้เป็นเจ้า และประชาชาติทั้งปวงจะมารวมเข้าด้วยกันที่นั่น ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า ในเยรูซาเล็ม และพวกเขาจะไม่ดื้อรั้นกระทำตามใจอันชั่วร้ายของตนอีกต่อไป
- เยเรมีย์ 3:18 - ในเวลานั้น พงศ์พันธุ์ยูดาห์จะมารวมด้วยกันกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล และพวกเขาจะมาด้วยกันจากดินแดนทางเหนือ มายังแผ่นดินที่เรามอบให้แก่บรรพบุรุษของเจ้าเป็นมรดก
- เยเรมีย์ 3:19 - เราพูดว่า เราปรารถนายิ่งนักที่จะให้เจ้าอยู่ในฐานะร่วมกับบรรดาบุตรของเรา และมอบแผ่นดินอันน่าอยู่ มรดกที่งามที่สุดในบรรดาประชาชาติ และเราคิดว่า เจ้าจะเรียกเราว่า ‘บิดาของข้าพเจ้า’ และจะไม่หยุดติดตามเรา
- เยเรมีย์ 3:20 - โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย แน่ทีเดียว ภรรยาที่ไม่ภักดีทอดทิ้งสามีนางไปเช่นไร เจ้าก็ไม่ภักดีต่อเราเช่นนั้น” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 3:21 - เสียงที่ได้ยินมาจากที่สูงเป็นเสียงร้องไห้ และอ้อนวอนของพงศ์พันธุ์อิสราเอล เพราะพวกเขาได้หลงหาย และลืมพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขาแล้ว
- เยเรมีย์ 3:22 - “โอ ลูกๆ ที่สิ้นความเชื่อเอ๋ย จงกลับมา เราจะรักษาเจ้าให้หายจากการสิ้นความเชื่อ” ดูเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายมาหาพระองค์ เพราะพระองค์เป็นพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
- เยเรมีย์ 3:23 - จริงทีเดียว เสียงชุลมุนบนเนินเขาสูง และบนภูเขาเป็นสิ่งลวงหลอก จริงทีเดียว ความรอดของอิสราเอล อยู่ในพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
- เยเรมีย์ 3:24 - นับตั้งแต่ครั้งโบราณกาล สิ่งอันน่าอับอายได้ทำให้เราต้องสูญเสียทุกสิ่งที่บรรพบุรุษของเราตรากตรำมา ฝูงแพะแกะและโค บุตรชายบุตรหญิงของพวกเขา
- เศฟันยาห์ 3:9 - เพราะในเวลานั้น เราจะทำให้คำพูด ของประชาชนบริสุทธิ์ เพื่อพวกเขาทุกคนจะออกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า และรับใช้พระองค์ร่วมกัน
- เศฟันยาห์ 3:10 - บรรดาผู้นมัสการซึ่งเป็นชนชาติของเราที่กระจัดกระจายไป จะนำของถวายจากโพ้นแม่น้ำของคูชมาให้เรา
- เศฟันยาห์ 3:11 - ในวันนั้น เจ้าจะไม่ต้องอับอาย เพราะการกระทำผิดทั้งหลายที่เจ้ามีต่อเรา เพราะเราจะกำจัดบรรดาผู้ที่โห่ร้อง ด้วยความยโสของพวกเขาไปเสียจากเมืองนี้ และพวกเจ้าจะไม่มีวันเย่อหยิ่งอยู่ ในภูเขาอันบริสุทธิ์ของเราอีกต่อไป
- เศฟันยาห์ 3:12 - แต่เราจะให้มีชนชาติที่ถ่อมตัวและมีใจอ่อนน้อม อยู่ในท่ามกลางพวกเจ้า พวกเขาจะแสวงหาที่พึ่งในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
- เศฟันยาห์ 3:13 - ผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของอิสราเอล จะไม่กระทำสิ่งใดที่ไม่เป็นธรรม และจะไม่พูดเท็จ ลิ้นที่ลวงหลอก จะไม่อยู่ในปากของพวกเขา พวกเขาจะรับประทานและนอนพัก และจะไม่มีผู้ใดทำให้พวกเขาหวาดผวา”
- เศฟันยาห์ 3:14 - โอ ธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงร้องเพลงเถิด โอ อิสราเอลเอ๋ย จงส่งเสียงดังเถิด จงยินดีและโห่ร้องอย่างสุดจิตสุดใจ โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย
- เศฟันยาห์ 3:15 - พระผู้เป็นเจ้าได้เอาการตัดสินโทษไปจากท่านแล้ว พระองค์ได้ทำให้บรรดาศัตรูของท่านหันกลับไปแล้ว พระผู้เป็นเจ้ากษัตริย์แห่งอิสราเอลอยู่ท่ามกลางพวกท่าน ท่านจะไม่ต้องกลัวสิ่งเลวร้ายอีกต่อไปแล้ว
- เศฟันยาห์ 3:16 - ในวันนั้น จะมีคนพูดกับเยรูซาเล็มดังนี้ว่า “โอ ศิโยนเอ๋ย อย่ากลัวเลย อย่าให้มือของท่านอ่อนล้า
- เศฟันยาห์ 3:17 - พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอยู่ท่ามกลางพวกท่าน พระองค์มีอานุภาพที่จะช่วยให้รอดพ้น พระองค์จะชื่นชอบในตัวท่านด้วยความยินดี พระองค์จะให้ท่านสงบนิ่งด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะยินดีในตัวท่านด้วยการร้องเพลงเสียงดัง”
- เศฟันยาห์ 3:18 - “เราจะทำให้พวกเจ้าหายจากความโศกเศร้ากับเทศกาลต่างๆ เนื่องจากสิ่งเหล่านั้นเป็นภาระ และเป็นที่ดูหมิ่นแก่พวกเจ้า
- เศฟันยาห์ 3:19 - ดูเถิด ในเวลานั้น เราจะจัดการ กับบรรดาผู้กดขี่ข่มเหงของเจ้า และเราจะช่วยคนง่อยให้รอด และรวบรวมบรรดาผู้ถูกขับไล่ไสส่ง และเราจะให้พวกเขาได้รับการยกย่องและเกียรติ ในทุกแผ่นดินที่พวกเขาได้รับความอับอาย
- เศฟันยาห์ 3:20 - ในเวลานั้น เราจะรวบรวมพวกเจ้า ในเวลานั้น เราจะพาพวกเจ้าเข้ามา เราจะให้พวกเจ้าได้รับเกียรติและการยกย่อง ในท่ามกลางชนชาติทั้งปวงของแผ่นดินโลก เมื่อเราทำให้เจ้าเห็นความอุดมสมบูรณ์ของเจ้าคืนสู่สภาพเดิม” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
- เยเรมีย์ 31:1 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ในเวลานั้นเราจะเป็นพระเจ้าของตระกูลของอิสราเอล และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา”
- เยเรมีย์ 31:2 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “ประชาชนที่รอดจากการสู้รบ พบความกรุณาในถิ่นทุรกันดาร เราจะให้อิสราเอลได้พักผ่อน”
- เยเรมีย์ 31:3 - พระผู้เป็นเจ้าปรากฏแก่เขาจากที่ไกลโดยกล่าวดังนี้ว่า “เรารักเจ้าด้วยความรักอันมั่นคง ฉะนั้นเราจึงมีความสัตย์จริงต่อเจ้าตลอดมา
- เยเรมีย์ 31:4 - เราจะสร้างเจ้าขึ้นใหม่อีกครั้ง และเจ้าก็จะถูกสร้าง โอ อิสราเอลผู้บริสุทธิ์ เจ้าจะถือรำมะนาติดตัวไปด้วย และจะร่ายรำไปด้วยความยินดีอีก
- เยเรมีย์ 31:5 - เจ้าจะปลูกสวนองุ่นบนเทือกเขา แห่งสะมาเรียอีกครั้ง บรรดาผู้ปลูกจะปลูก และจะได้ชื่นชอบกับผลที่ได้รับ
- เยเรมีย์ 31:6 - ด้วยว่าจะถึงวันเมื่อผู้เฝ้ายามจะส่งเสียงร้อง ที่แถบภูเขาแห่งเอฟราอิมว่า ‘ลุกขึ้นเถิด เราขึ้นไปยังศิโยน ไปหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา’”
- เยเรมีย์ 31:7 - เพราะพระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “จงร้องเพลงเสียงดังด้วยความยินดีเพื่อยาโคบ และส่งเสียงตะโกนเพื่อหัวหน้าของบรรดาประชาชาติ จงประกาศ สรรเสริญ และพูดว่า ‘โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยชนชาติของพระองค์ คือผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของอิสราเอลให้รอดพ้นเถิด’
- เยเรมีย์ 31:8 - ดูเถิด เราจะนำพวกเขาออกจากดินแดนทางเหนือ และรวบรวมพวกเขาจากแดนไกลสุดของแผ่นดินโลก ผู้ที่มากับพวกเขามีทั้งคนตาบอดและคนง่อย ผู้หญิงตั้งครรภ์ และนางใกล้จะคลอด พวกเขาจำนวนมหาศาลจะกลับมาที่นี่
- เยเรมีย์ 31:9 - พวกเขาจะมาพร้อมกับเสียงร้องไห้ และด้วยคำอ้อนวอนขอความเมตตา เราก็จะนำพวกเขากลับมา เราจะให้พวกเขาเดินไปที่ธารน้ำ เดินบนทางราบเพื่อเขาจะไม่สะดุด เพราะเราเป็นเสมือนบิดาสำหรับอิสราเอล และเอฟราอิมเป็นบุตรหัวปีของเรา
- เยเรมีย์ 31:10 - โอ บรรดาประชาชาติเอ๋ย จงฟังคำของพระผู้เป็นเจ้า และประกาศต่อไปในฝั่งทะเลที่อยู่ห่างไกลว่า ‘พระองค์ผู้ทำให้อิสราเอลกระจัดกระจายไปจะรวบรวมพวกเขา และจะดูแลรักษาเขาอย่างผู้เลี้ยงดูฝูงแกะดูแลฝูงแกะของตน’
- เยเรมีย์ 31:11 - ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ไถ่ยาโคบ และได้ช่วยเขาให้รอดจากมือของผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
- เยเรมีย์ 31:12 - พวกเขาจะมาและเปล่งเสียงร้องเพลงบนภูเขาสูงของศิโยน และพวกเขาจะเบิกบานกับสิ่งดีๆ ที่ได้รับจากพระผู้เป็นเจ้า อันได้แก่ธัญพืช เหล้าองุ่น น้ำมัน ลูกแพะแกะ และลูกโค ชีวิตของพวกเขาจะเป็นเหมือนสวนที่ได้น้ำรด และพวกเขาจะไม่อ่อนระอาอีกต่อไป
- เยเรมีย์ 31:13 - หลังจากนั้น หญิงสาวจะร่ายรำด้วยความร่าเริงใจ ชายหนุ่มและผู้สูงวัยจะมีความสุข เราจะทำให้การร้องคร่ำครวญกลายเป็นความยินดี เราจะปลอบประโลมพวกเขา และให้ความยินดีแทนความเศร้าใจ
- เยเรมีย์ 31:14 - เราจะให้บรรดาปุโรหิตได้รับอย่างอุดมสมบูรณ์ และชนชาติของเราจะพึงพอใจด้วยสิ่งดีจากเรา” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 31:15 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “เสียงที่ได้ยินในหมู่บ้านรามาห์ คือเสียงร้องไห้และร้องคร่ำครวญอันดัง นางราเชลร่ำไห้เพราะลูกๆ ของนาง และนางไม่ยอมให้ปลอบใจ เพราะลูกๆ ของนางตายเสียแล้ว”
- เยเรมีย์ 31:16 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “อย่าส่งเสียงร้องไห้ อย่าให้น้ำตาไหลพราก เพราะมีรางวัลสำหรับสิ่งที่เจ้ากระทำ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ลูกๆ จะกลับจากแผ่นดินของศัตรู
- เยเรมีย์ 31:17 - อนาคตของเจ้ามีความหวัง” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “และลูกๆ ของเจ้าจะกลับมายังบ้านเมืองของเขาเอง
- เยเรมีย์ 31:18 - เราได้ยินเอฟราอิมแสดงความเศร้าใจดังนี้ ‘พระองค์ลงโทษข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ถูกลงโทษ อย่างลูกโคที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝน โปรดนำข้าพเจ้ากลับไปเพื่อข้าพเจ้าจะได้กลับมาหาพระองค์ เพราะพระองค์เป็นพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า
- เยเรมีย์ 31:19 - หลังจากข้าพเจ้าหันหลังให้พระองค์ ข้าพเจ้าก็เปลี่ยนใจ และหลังจากข้าพเจ้าถูกลงโทษแล้ว ข้าพเจ้าตีอกชกหัว ข้าพเจ้าอับอายและถูกเหยียดหยาม เพราะข้าพเจ้าแบกความอัปยศ อันเป็นผลจากครั้งวัยหนุ่ม’
- เยเรมีย์ 31:20 - เอฟราอิมเป็นบุตรที่รักของเราหรือ เขาเป็นเด็กที่น่ายินดีของเราหรือ เราพูดติเตียนเขาบ่อยครั้ง เรายังจำเขาได้ ฉะนั้นใจของเราหวนหาเขา เราจะมีเมตตาต่อเขาอย่างแน่นอน” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 31:21 - “จงติดป้ายถนน ทำเครื่องหมายให้ตัวเจ้าเอง ตั้งใจสังเกตถนนให้ดี ซึ่งเป็นทางที่เจ้าไปแล้ว โอ อิสราเอลผู้บริสุทธิ์เอ๋ย จงกลับไปยังเมืองของเจ้า
- เยเรมีย์ 31:22 - โอ บุตรหญิงผู้ไม่ภักดีเอ๋ย เจ้าจะไปโดยไร้จุดหมายอีกนานแค่ไหน พระผู้เป็นเจ้าจะสร้างสิ่งใหม่สิ่งหนึ่งบนแผ่นดินโลก ผู้หญิงตีวงล้อมผู้ชาย”
- เยเรมีย์ 31:23 - พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ “เมื่อเราให้พวกเขาเจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินอีก พวกเขาจะใช้คำพูดนี้อีกครั้งในแผ่นดินของยูดาห์และในทุกเมืองของแคว้นว่า ‘ขอพระผู้เป็นเจ้าอวยพรสถานที่ขององค์ผู้กอปรด้วยความชอบธรรม โอ ภูเขาอันบริสุทธิ์’
- เยเรมีย์ 31:24 - ยูดาห์กับทุกเมืองของแคว้นจะอาศัยอยู่ด้วยกันที่นั่น พร้อมกับบรรดาชาวไร่และผู้เลี้ยงดูฝูงสัตว์ของพวกเขา
- เยเรมีย์ 31:25 - เพราะเราจะให้ผู้ที่เหนื่อยล้าได้สดชื่น และผู้ที่หิวกระหายได้ดื่มกินจนพอใจ”
- เยเรมีย์ 31:26 - ข้าพเจ้าตื่นขึ้นและเห็นว่าข้าพเจ้าหลับสบาย
- เยเรมีย์ 31:27 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ดูเถิด จะถึงเวลาที่เราจะหว่านพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์ด้วยเชื้อสายของมนุษย์และสัตว์
- เยเรมีย์ 31:28 - เราได้ถอนรากและโค่นพวกเขาลง กำจัด ทำลายและให้เกิดความพินาศอย่างไร เราก็จะแน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสร้างและปลูก” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 31:29 - “เมื่อถึงเวลา พวกเขาจะไม่พูดอีกว่า ‘พ่อได้กินองุ่นเปรี้ยว และลูกๆ ก็เข็ดฟัน’
- เยเรมีย์ 31:30 - แต่ทุกคนจะตายเพราะบาปของตนเอง แต่ละคนที่กินองุ่นเปรี้ยว เขาจะเข็ดฟันเอง”
- เยเรมีย์ 31:31 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ดูเถิด จะถึงเวลาที่เราจะทำพันธสัญญาใหม่กับพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์
- เยเรมีย์ 31:32 - ไม่เป็นเหมือนพันธสัญญาที่เราได้ทำกับบรรพบุรุษของเขาในวันที่เราจูงมือพวกเขาออกไปจากแผ่นดินอียิปต์ พันธสัญญาของเราที่พวกเขาไม่ปฏิบัติตาม แม้ว่าเราเป็นประหนึ่งสามีของพวกเขาก็ตาม” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 31:33 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “แต่นี่เป็นพันธสัญญาที่เราจะทำกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล และหลังจากนั้น เราจะเขียนกฎของเราในความคิดของพวกเขา และเราจะจารึกไว้ในใจของพวกเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา
- เยเรมีย์ 31:34 - และจะไม่มีวันที่แต่ละคนจะสอนเพื่อนบ้านและพี่น้องของตนอีกต่อไปว่า ‘จงรู้จักพระผู้เป็นเจ้า’ เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา นับจากคนด้อยสุดในพวกเขาจนถึงคนยิ่งใหญ่ที่สุด พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น ด้วยว่า เราจะยกโทษความชั่วของพวกเขา และเราจะไม่จดจำบาปของพวกเขาอีกต่อไป”
- เยเรมีย์ 31:35 - พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้ให้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ในยามกลางวัน และกำหนดให้แสงสว่างจากดวงจันทร์กับดวงดาวในยามค่ำคืน องค์ผู้ทำให้ทะเลปั่นป่วน และคลื่นส่งเสียงครืนครั่น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาคือพระนามของพระองค์ ผู้กล่าวดังนี้
- เยเรมีย์ 31:36 - พระองค์ประกาศว่า “ถ้าข้อกำหนดของธรรมชาติไม่อยู่ใต้อำนาจการควบคุมของเราเมื่อใด เชื้อสายของอิสราเอลก็จะหยุดจากการเป็นประชาชาติไปตลอดกาล”
- เยเรมีย์ 31:37 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “ถ้ามนุษย์วัดขนาดฟ้าสวรรค์เบื้องบนได้ และถ้ามนุษย์ค้นพบฐานรากของแผ่นดินโลกได้ เราก็จะไม่ยอมรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล เนื่องจากทุกสิ่งที่พวกเขาได้กระทำ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
- เอเสเคียล 39:25 - ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “บัดนี้เราจะให้ความอุดมสมบูรณ์ของยาโคบคืนสู่สภาพเดิม และมีเมตตาต่อพงศ์พันธุ์อิสราเอลทุกคน และเราหวงแหนนามอันบริสุทธิ์ของเรา
- เอเสเคียล 39:26 - พวกเขาจะลืมความละอายและความไม่ภักดีทั้งสิ้นที่ได้แสดงต่อเรา เมื่อพวกเขาอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยในแผ่นดินที่ไม่มีใครทำให้หวาดกลัว
- เอเสเคียล 39:27 - เมื่อเราได้นำพวกเขากลับมาจากบรรดาชนชาติ และได้รวบรวมพวกเขาจากดินแดนของเหล่าศัตรู เราจะแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของเราต่อหน้าประชาชาติจำนวนมากโดยผ่านพวกเขา
- เอเสเคียล 39:28 - แล้วพวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา เพราะถึงแม้ว่า เราส่งพวกเขาออกไปเป็นเชลยในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ เราก็จะรวบรวมพวกเขาเพื่อกลับไปยังแผ่นดินของพวกเขาเอง โดยไม่มีผู้ใดถูกปล่อยทิ้งไว้
- เอเสเคียล 39:29 - เราจะไม่ซ่อนหน้าไปจากพวกเขาอีกต่อไป เพราะเราจะหลั่งวิญญาณของเราบนพงศ์พันธุ์อิสราเอล” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- เยเรมีย์ 2:2 - “จงไปประกาศให้ทุกคนในเยรูซาเล็มรับรู้ว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ เราระลึกถึงการอุทิศตนเมื่อเจ้ายังเยาว์ ความรักของเจ้าที่มีต่อเราราวกับเจ้าสาว และเจ้าติดตามเราอย่างไรในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินที่ยังไม่มีพันธุ์ไม้เลย
- เยเรมีย์ 33:6 - ดูเถิด เราจะทำให้เมืองนี้ได้รับการเยียวยารักษาและได้สุขภาพดีกลับคืนมา เราจะรักษาพวกเขาให้หายขาดและได้อยู่อย่างสุขสบายและปลอดภัย
- เยเรมีย์ 33:7 - เราจะให้ยูดาห์และอิสราเอลเจริญรุ่งเรืองในแผ่นดินอีก และสร้างเมืองขึ้นใหม่เหมือนกับที่เคยเป็นมาตั้งแต่แรก
- เยเรมีย์ 33:8 - เราจะชำระพวกเขาให้สะอาดจากความผิดบาปที่มีต่อเราทั้งสิ้น และเราจะยกโทษความผิดบาปและการขัดขืนที่มีต่อเราทั้งสิ้น
- เยเรมีย์ 33:9 - เมืองนี้จะเป็นเมืองแห่งความยินดี การสรรเสริญ และเกียรติสำหรับเรา เมื่อประชาชาติทั้งปวงของแผ่นดินโลกทราบถึงสิ่งดีๆ ทั้งปวงที่เรากระทำให้แก่เมืองนี้ พวกเขาจะหวาดกลัวและตัวสั่นเทาเพราะสิ่งดีๆ ทุกสิ่งและความสุขสบายที่เราให้พวกเขาได้รับ”
- เยเรมีย์ 33:10 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “พวกเจ้าพูดว่า ‘นี่เป็นที่รกร้าง ไร้มนุษย์และสัตว์’ ในเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และถนนของเยรูซาเล็มที่ถูกทิ้งเป็นที่ร้าง ไร้มนุษย์และสัตว์อาศัยอยู่ แต่ผู้คนจะได้ยินอีก
- เยเรมีย์ 33:11 - เสียงแห่งความยินดีและดีใจ เสียงของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว และเสียงร้องเพลง ขณะที่พวกเขานำของถวายแห่งการขอบคุณมายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ‘จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา เพราะพระผู้เป็นเจ้าประเสริฐ เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล’ เพราะเราจะให้แผ่นดินเจริญรุ่งเรืองอย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่แรก” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
- เยเรมีย์ 33:12 - พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ว่า “ในที่รกร้างเช่นนี้ ซึ่งไร้มนุษย์และสัตว์ อีกทั้งเมืองต่างๆ ก็จะมีทุ่งหญ้าให้บรรดาผู้เลี้ยงดูฝูงแกะพาแกะมาเล็มหญ้าอีก
- เยเรมีย์ 33:13 - ในเมืองต่างๆ ในแถบภูเขา ในที่ลุ่ม และในเนเกบ ในดินแดนของเบนยามิน และในที่ต่างๆ รอบเยรูซาเล็ม และในเมืองต่างๆ ของยูดาห์ ผู้เลี้ยงดูฝูงแกะจะนับจำนวนแกะอีก” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
- เยเรมีย์ 33:14 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ดูเถิด จะถึงวันเมื่อเราจะทำตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์
- เยเรมีย์ 33:15 - ในครั้งนั้น และในเวลานั้นเราจะให้มีอังกูร ผู้หนึ่งซึ่งกอปรด้วยความชอบธรรมสืบเชื้อสายมาจากดาวิด และท่านจะปฏิบัติด้วยความเป็นธรรมและความชอบธรรมในแผ่นดิน
- เยเรมีย์ 33:16 - ในวันนั้น ยูดาห์จะปลอดภัย และเยรูซาเล็มจะอยู่อย่างมั่นคง ผู้คนจะเรียกชื่อเมืองนี้ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าเป็นความชอบธรรมของพวกเรา’”
- เยเรมีย์ 33:17 - ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “ผู้สืบเชื้อสายของดาวิดที่จะนั่งบนบัลลังก์ของพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะไม่มีวันสูญไป
- เยเรมีย์ 33:18 - และจะมีบรรดาปุโรหิตจากเผ่าเลวีมอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย เผาเครื่องธัญญบูชา และมอบเครื่องสักการะ ณ เบื้องหน้าเราเป็นนิตย์”
- เยเรมีย์ 33:19 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์
- เยเรมีย์ 33:20 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “ถ้าเจ้าสามารถทำให้กลางวันและกลางคืนหยุดหมุนเวียนตามกำหนดเวลาที่เราระบุไว้ได้
- เยเรมีย์ 33:21 - พันธสัญญาของเราที่มีกับดาวิดผู้รับใช้ของเราก็จะเลิกล้มได้ โดยที่เขาจะไม่มีบุตรชายที่จะครองบัลลังก์ของเขา และจะไม่มีพันธสัญญาของเราที่มีกับบรรดาปุโรหิตจากเผ่าเลวีผู้ปฏิบัติรับใช้เรา
- เยเรมีย์ 33:22 - ในเมื่อไม่มีผู้ใดนับดวงดาวทั้งหลายในฟ้าสวรรค์ หรือนับเม็ดทรายในทะเลได้ ดังนั้นเราก็จะทวีจำนวนเชื้อสายของดาวิดผู้รับใช้ของเราและบรรดาปุโรหิตจากเผ่าเลวีผู้ปฏิบัติรับใช้เราให้มากมายเช่นนั้น”
- เยเรมีย์ 33:23 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ดังนี้
- เยเรมีย์ 33:24 - “เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่า ชนชาตินี้กำลังพูดกันว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าไม่ยอมรับ 2 ตระกูลที่พระองค์เลือก’ พวกเขาจึงดูหมิ่นชนชาติของเราและนับว่าเขาเหล่านั้นไม่ใช่ประชาชาติในสายตาของพวกเขา
- เยเรมีย์ 33:25 - พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ถ้าเราไม่รักษาสัญญาเรื่องวันและคืนและกฎของฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
- เยเรมีย์ 33:26 - เราก็จะไม่ยอมรับเชื้อสายของยาโคบและดาวิดผู้รับใช้ของเรา และจะไม่เลือกผู้หนึ่งในบรรดาเชื้อสายของเขาให้ปกครองเชื้อสายของอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ เพราะเราจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของพวกเขาคืนสู่สภาพเดิม และเราจะมีเมตตาต่อพวกเขา”
- อาโมส 9:11 - ในวันนั้น เราจะฟื้นฟูกระโจมของดาวิด ที่ล้มลงขึ้นใหม่ เราจะซ่อมแซมส่วนที่แตกหัก บูรณะสิ่งที่ปรักหักพัง และสร้างขึ้นใหม่อย่างที่เคยเป็น
- อาโมส 9:12 - เพื่อพวกเขาจะเป็นเจ้าของสิ่งที่ดินแดนเอโดมมีเหลืออยู่ อีกทั้งประชาชาติทั้งปวงซึ่งได้รับเรียกว่าเป็นคนของเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้จะกระทำสิ่งเหล่านี้ประกาศ
- อาโมส 9:13 - พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “ดูเถิด จะถึงเวลาที่คนเก็บเกี่ยวจะมีข้าวให้เกี่ยวมากมายจนกระทั่งถึงเวลาไถนา และคนย่ำองุ่นจะมีผลให้ย่ำมากมายจนกระทั่งถึงเวลาหว่านเมล็ด เหล้าองุ่นใหม่จะหยดจากเทือกเขา และไหลจากเนินเขาทั้งหลาย
- อาโมส 9:14 - เราจะนำอิสราเอลชนชาติของเรากลับมาจากที่ลี้ภัย พวกเขาจะสร้างเมืองที่ถูกพังทลายขึ้นใหม่เพื่ออยู่อาศัยในนั้น พวกเขาจะปลูกไร่องุ่นและดื่มเหล้าองุ่น พวกเขาจะปลูกไร่นาและรับประทานผลที่ได้
- อาโมส 9:15 - เราจะฟื้นฟูอิสราเอลให้อยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเอง และจะไม่มีวันที่เขาจะถูกถอนรากถอนโคน ไปจากแผ่นดินที่เราได้มอบให้แก่พวกเขาอีก” พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกล่าว
- โฮเชยา 2:3 - มิฉะนั้น เราจะเปลื้องนางให้เปลือยเปล่า และทำให้นางเหลือตัวเปล่าอย่างวันที่นางเกิดมา และทำให้นางเป็นอย่างถิ่นทุรกันดาร และทำให้นางเป็นอย่างแผ่นดินอันแห้งระแหง และปล่อยให้นางกระหายน้ำจนสิ้นชีวิต
- โรม 11:26 - แล้วพวกอิสราเอลทั้งหมดจะรอดพ้น ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “องค์ผู้ช่วยปลดปล่อยจะมาจากศิโยน พระองค์จะกำจัดความไร้คุณธรรมจากผู้สืบเชื้อสายของยาโคบ
- โรม 11:27 - นี่คือพันธสัญญาของเราที่ให้ไว้กับพวกเขา เมื่อเราลบล้างบาปของเขาออก”
- ยอห์น 12:32 - เมื่อเราถูกชูขึ้นเหนือโลก เราจะนำให้ทุกคนมาหาเรา”
- มีคาห์ 7:14 - จงเลี้ยงดูชนชาติของพระองค์ด้วยไม้เท้า พวกเขาเป็นฝูงชนซึ่งเป็นมรดกของพระองค์ และแยกอาศัยอยู่ตามลำพังในป่า ในท่ามกลางแผ่นดินอันอุดม ปล่อยให้พวกเขาหากินอยู่ในบาชานและกิเลอาด เหมือนกับที่เป็นในครั้งโบราณกาล
- มีคาห์ 7:15 - “เหมือนสมัยที่เจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราจะทำให้พวกเขาเห็นสิ่งมหัศจรรย์”
- มีคาห์ 7:16 - บรรดาประชาชาติจะเห็น และอับอายกับพละกำลังของพวกเขาเอง และจะเอามือปิดปากไว้ และหูของพวกเขาก็จะหนวก
- มีคาห์ 7:17 - พวกเขาจะเลียฝุ่นเหมือนงู เหมือนสิ่งที่เลื้อยคลานบนดิน พวกเขาจะตัวสั่นออกมาจากหลักยึดอันมั่นคง พวกเขาจะหันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรา และพวกเขาจะเกรงกลัวพระองค์
- มีคาห์ 7:18 - ใครเล่าที่เป็นพระเจ้าเหมือนพระองค์ซึ่งให้อภัยบาป และยกโทษการล่วงละเมิดของผู้สืบมรดกที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ของพระองค์ พระองค์ไม่เก็บความโกรธของพระองค์ไปตลอดกาล เพราะพระองค์ยินดีแสดงความรักอันมั่นคง
- มีคาห์ 7:19 - พระองค์จะมีความเมตตาต่อพวกเราอีก พระองค์จะเหยียบบาปทั้งหลายของพวกเราไว้ที่ใต้เท้า และเหวี่ยงบาปต่างๆ ของพวกเราลงในทะเลลึก
- มีคาห์ 7:20 - พระองค์จะแสดงความสัตย์จริงแก่ยาโคบ และแสดงความรักอันมั่นคงต่ออับราฮัม อย่างที่พระองค์ได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของพวกเรา ในครั้งโบราณกาล
- ยอห์น 6:44 - ไม่มีผู้ใดที่มาหาเราได้นอกจากพระบิดาผู้ส่งเรามา เป็นผู้นำให้เขามาหาเรา และเราจะให้เขาฟื้นคืนชีวิตในวันสุดท้าย
- วิวรณ์ 12:14 - และหญิงนั้นได้รับปีกทั้งสองของนกอินทรีใหญ่ เพื่อนางจะได้บินไปสู่ถิ่นทุรกันดารอันเป็นที่ของนาง และจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นเวลา 1 วาระ 2 วาระ และครึ่งวาระ เพื่อให้พ้นเสียจากหน้างู
- เอเสเคียล 20:35 - และเราจะนำพวกเจ้าเข้าไปในถิ่นทุรกันดารของบรรดาชนชาติ และเราจะลงโทษพวกเจ้าที่นั่นต่อหน้า
- เอเสเคียล 20:36 - เราจะลงโทษพวกเจ้า อย่างที่เราลงโทษบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นทุรกันดารของแผ่นดินอียิปต์” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
- อิสยาห์ 40:1 - พระเจ้าของพวกท่านกล่าวว่า “จงให้กำลังใจ ให้กำลังใจชนชาติของเรา
- อิสยาห์ 40:2 - จงพูดกับเยรูซาเล็มด้วยวาจาอันอ่อนหวาน และร้องบอกเมืองนั้นว่า การต่อสู้อย่างหนักของเมืองนั้นจบลงแล้ว และได้รับอภัยโทษบาป พระผู้เป็นเจ้าได้ทำโทษเมืองนั้น เป็นสองเท่าของบาปทั้งปวงที่พวกเขาทำ”
- วิวรณ์ 12:6 - หญิงผู้นั้นหนีเข้าไปในถิ่นทุรกันดารอันเป็นที่ซึ่งพระเจ้าได้เตรียมให้ไว้ และได้รับการดูแลเป็นเวลา 1,260 วัน