Parallel Verses
- Thai KJV - จงตอบคนโง่ตามความโง่ของเขา เกรงว่าเขาจะทำตัวฉลาดตามการล่อลวงของเขาเอง
- 新标点和合本 - 要照愚昧人的愚妄话回答他, 免得他自以为有智慧。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 要照愚昧人的愚昧话回答他, 免得他自以为有智慧。
- 和合本2010(神版-简体) - 要照愚昧人的愚昧话回答他, 免得他自以为有智慧。
- 当代译本 - 要照愚人的愚昧回答他, 免得他自以为有智慧。
- 圣经新译本 - 要照着愚昧人的愚妄回答他, 免得他自以为有智慧。
- 中文标准译本 - 要照着愚昧人的愚妄回应他, 免得他自以为 有智慧。
- 现代标点和合本 - 要照愚昧人的愚妄话回答他, 免得他自以为有智慧。
- 和合本(拼音版) - 要照愚昧人的愚妄话回答他, 免得他自以为有智慧。
- New International Version - Answer a fool according to his folly, or he will be wise in his own eyes.
- New International Reader's Version - Answer a foolish person in keeping with their foolish acts. If you do not, they will be wise in their own eyes.
- English Standard Version - Answer a fool according to his folly, lest he be wise in his own eyes.
- New Living Translation - Be sure to answer the foolish arguments of fools, or they will become wise in their own estimation.
- The Message - Answer a fool in simple terms so he doesn’t get a swelled head.
- Christian Standard Bible - Answer a fool according to his foolishness or he’ll become wise in his own eyes.
- New American Standard Bible - Answer a fool as his foolishness deserves, So that he will not be wise in his own eyes.
- New King James Version - Answer a fool according to his folly, Lest he be wise in his own eyes.
- Amplified Bible - Answer [and correct the erroneous concepts of] a fool according to his folly, Otherwise he will be wise in his own eyes [if he thinks you agree with him].
- American Standard Version - Answer a fool according to his folly, Lest he be wise in his own conceit.
- King James Version - Answer a fool according to his folly, lest he be wise in his own conceit.
- New English Translation - Answer a fool according to his folly, lest he be wise in his own estimation.
- World English Bible - Answer a fool according to his folly, lest he be wise in his own eyes.
- 新標點和合本 - 要照愚昧人的愚妄話回答他, 免得他自以為有智慧。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 要照愚昧人的愚昧話回答他, 免得他自以為有智慧。
- 和合本2010(神版-繁體) - 要照愚昧人的愚昧話回答他, 免得他自以為有智慧。
- 當代譯本 - 要照愚人的愚昧回答他, 免得他自以為有智慧。
- 聖經新譯本 - 要照著愚昧人的愚妄回答他, 免得他自以為有智慧。
- 呂振中譯本 - 要照愚頑人的愚妄話回答他, 免得他自以為有智慧。
- 中文標準譯本 - 要照著愚昧人的愚妄回應他, 免得他自以為 有智慧。
- 現代標點和合本 - 要照愚昧人的愚妄話回答他, 免得他自以為有智慧。
- 文理和合譯本 - 應對蠢人、當循其蠢、免彼自視為智、
- 文理委辦譯本 - 以重托畀愚人、猶自刖其足而身受其害。
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 愚人言癡、亦有時當應之、恐彼自視為智、
- Nueva Versión Internacional - Respóndele al necio como se merece, para que no se tenga por sabio.
- 현대인의 성경 - 어리석은 질문에는 어리석은 대답을 하라. 그렇지 않으면 그가 자기를 지혜롭게 여길 것이다.
- Новый Русский Перевод - Отвечай глупцу по его глупости, иначе он будет мудрецом в своих глазах.
- Восточный перевод - А если не отвечаешь глупцу на его глупости, то он возомнит себя мудрецом.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - А если не отвечаешь глупцу на его глупости, то он возомнит себя мудрецом.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - А если не отвечаешь глупцу на его глупости, то он возомнит себя мудрецом.
- La Bible du Semeur 2015 - Réponds à l’insensé selon sa sottise de peur qu’il se prenne pour un sage.
- Nova Versão Internacional - Responda ao insensato como a sua insensatez merece, do contrário ele pensará que é mesmo um sábio.
- Hoffnung für alle - Oder gib die passende Antwort auf eine dumme Frage! So merkt der, der sie gestellt hat, dass er nicht so klug ist, wie er denkt.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Phải dùng lý luận ngớ ngẩn đáp người khờ dại, để nó đừng thấy như là nó khôn.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - จงตอบคนโง่ด้วยความโง่ของเขา มิฉะนั้นเขาจะคิดว่าตนเองฉลาด
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - ถ้าตอบคนโง่ตามความโง่ของเขา เขาก็จะคิดว่าตนฉลาดนัก
Cross Reference
- มัทธิว 22:15 - ขณะนั้นพวกฟาริสีไปปรึกษากันว่า พวกเขาจะจับผิดในถ้อยคำของพระองค์ได้อย่างไร
- มัทธิว 22:16 - พวกเขาจึงใช้พวกสาวกของตนกับพวกเฮโรดให้ไปทูลพระองค์ว่า “อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบอยู่ว่าท่านเป็นคนซื่อสัตย์ และสั่งสอนทางของพระเจ้าด้วยความสัตย์จริง โดยมิได้เอาใจผู้ใด เพราะท่านมิได้เห็นแก่หน้าผู้ใด
- มัทธิว 22:17 - เหตุฉะนั้น ขอโปรดบอกให้พวกข้าพเจ้าทราบว่า ท่านคิดเห็นอย่างไร การที่จะส่งส่วยให้แก่ซีซาร์นั้น ถูกต้องตามพระราชบัญญัติหรือไม่”
- มัทธิว 22:18 - แต่พระเยซูทรงล่วงรู้ถึงความชั่วร้ายของเขาจึงตรัสว่า “พวกหน้าซื่อใจคด เจ้าทดลองเราทำไม
- มัทธิว 22:19 - จงเอาเงินที่จะเสียส่วยนั้นมาให้เราดูก่อน” เขาจึงเอาเงินตราเหรียญหนึ่งถวายพระองค์
- มัทธิว 22:20 - พระองค์ตรัสถามเขาว่า “รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร”
- มัทธิว 22:21 - เขาทูลพระองค์ว่า “ของซีซาร์” แล้วพระองค์ตรัสกับเขาว่า “เหตุฉะนั้นของของซีซาร์จงถวายแก่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า”
- มัทธิว 22:22 - ครั้นเขาได้ยินคำตรัสตอบของพระองค์นั้นแล้ว เขาก็ประหลาดใจ จึงละพระองค์ไว้และพากันกลับไป
- มัทธิว 22:23 - ในวันนั้นมีพวกสะดูสีมาหาพระองค์ พวกนี้เป็นผู้ที่กล่าวว่า การฟื้นขึ้นมาจากความตายไม่มี เขาจึงทูลถามพระองค์
- มัทธิว 22:24 - ว่า “อาจารย์เจ้าข้า โมเสสสั่งว่า ‘ถ้าผู้ใดตายยังไม่มีบุตร ก็ให้น้องชายรับพี่สะใภ้ สืบเชื้อสายของพี่ชายไว้’
- มัทธิว 22:25 - ในพวกเรามีพี่น้องผู้ชายเจ็ดคน พี่หัวปีมีภรรยาแล้วก็ตายเมื่อยังไม่มีบุตร ก็ละภรรยาไว้ให้แก่น้องชาย
- มัทธิว 22:26 - ฝ่ายคนที่สองที่สามก็เช่นเดียวกัน จนถึงคนที่เจ็ด
- มัทธิว 22:27 - ในที่สุดหญิงนั้นก็ตายด้วย
- มัทธิว 22:28 - เหตุฉะนั้นในวันที่จะฟื้นขึ้นมาจากความตาย หญิงนั้นจะเป็นภรรยาของผู้ใดในเจ็ดคนนั้น ด้วยนางได้เป็นภรรยาของชายทั้งเจ็ดคนแล้ว”
- มัทธิว 22:29 - พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “พวกท่านผิดแล้ว เพราะท่านไม่รู้พระคัมภีร์หรือฤทธิ์เดชของพระเจ้า
- มัทธิว 22:30 - ด้วยว่าเมื่อมนุษย์ฟื้นขึ้นมาจากความตายนั้น จะไม่มีการสมรสหรือยกให้เป็นสามีภรรยากันอีก แต่จะเป็นเหมือนพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าในสวรรค์
- มัทธิว 22:31 - แต่เรื่องคนตายกลับฟื้นนั้น ท่านทั้งหลายยังไม่ได้อ่านหรือ ซึ่งพระเจ้าได้ตรัสไว้กับพวกท่านว่า
- มัทธิว 22:32 - ‘เราเป็นพระเจ้าของอับราฮัม เป็นพระเจ้าของอิสอัค และเป็นพระเจ้าของยาโคบ’ พระเจ้ามิได้เป็นพระเจ้าของคนตาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าของคนเป็น”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:24 - แล้วเศเดคียาห์บุตรชายเคนาอะนาห์ได้เข้ามาใกล้และตบแก้มมีคายาห์พูดว่า “พระวิญญาณของพระเยโฮวาห์ไปจากข้า พูดกับเจ้าได้อย่างไร”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:25 - และมีคายาห์ตอบว่า “ดูเถิด เจ้าจะเห็นในวันนั้น เมื่อเจ้าเข้าไปในห้องชั้นในเพื่อจะซ่อนตัวเจ้า”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:26 - และกษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสว่า “จงจับมีคายาห์พาเขากลับไปมอบให้อาโมนผู้ว่าราชการเมืองและแก่โยอาชราชโอรสกษัตริย์
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:27 - และว่า ‘กษัตริย์ตรัสดังนี้ว่า “เอาคนนี้จำคุกเสีย ให้อาหารแห่งความทุกข์กับน้ำแห่งความทุกข์ จนกว่าเราจะกลับมาโดยสันติภาพ”’”
- 1 พงศ์กษัตริย์ 22:28 - และมีคายาห์ทูลว่า “ถ้าพระองค์เสด็จกลับมาโดยสันติภาพ พระเยโฮวาห์ก็มิได้ตรัสโดยข้าพระองค์” และท่านกล่าวว่า “โอ บรรดาชนชาติทั้งหลายเอ๋ย ขอจงฟังเถิด”
- ลูกา 13:23 - มีคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า คนที่รอดนั้นน้อยหรือ” พระองค์ตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า
- ลูกา 13:24 - “จงเพียรเข้าไปทางประตูคับแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า คนเป็นอันมากจะพยายามเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้
- ลูกา 13:25 - เมื่อเจ้าบ้านลุกขึ้นปิดประตูแล้ว และท่านทั้งหลายเริ่มยืนอยู่ภายนอกเคาะที่ประตูว่า ‘นายเจ้าข้าๆ ขอเปิดให้ข้าพเจ้าเถิด’ และเจ้าบ้านนั้นจะตอบท่านทั้งหลายว่า ‘เราไม่รู้จักเจ้าว่าเจ้ามาจากไหน’
- ลูกา 13:26 - ขณะนั้นท่านทั้งหลายเริ่มจะว่า ‘ข้าพเจ้าได้กินได้ดื่มกับท่าน และท่านได้สั่งสอนที่ถนนของพวกข้าพเจ้า’
- ลูกา 13:27 - เจ้าบ้านนั้นจะว่า ‘เราบอกเจ้าทั้งหลายว่า เราไม่รู้จักเจ้าว่าเจ้ามาจากไหน เจ้าผู้กระทำความชั่วช้า จงไปเสียให้พ้นหน้าเรา’
- ลูกา 13:28 - เมื่อท่านทั้งหลายจะเห็นอับราฮัม อิสอัค ยาโคบ และบรรดาศาสดาพยากรณ์ในอาณาจักรของพระเจ้า แต่ตัวท่านเองถูกขับไล่ไสส่งออกไปภายนอก ที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
- ลูกา 13:29 - จะมีคนมาจากทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ จะมาเอนกายลงในอาณาจักรของพระเจ้า
- ลูกา 13:30 - และดูเถิด จะมีผู้ที่เป็นคนสุดท้ายกลับเป็นคนต้น และผู้ที่เป็นคนต้นกลับเป็นคนสุดท้าย”
- มัทธิว 15:1 - ครั้งนั้น พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี ซึ่งมาจากกรุงเยรูซาเล็ม มาทูลถามพระเยซูว่า
- มัทธิว 15:2 - “ทำไมพวกสาวกของท่านจึงละเมิดประเพณีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ด้วยว่าเขามิได้ล้างมือเมื่อเขารับประทานอาหาร”
- มัทธิว 15:3 - แต่พระองค์ได้ตรัสตอบเขาว่า “เหตุไฉนพวกท่านจึงละเมิดพระบัญญัติของพระเจ้าด้วยประเพณีของพวกท่านด้วยเล่า
- อิสยาห์ 5:21 - วิบัติแก่คนเหล่านั้นที่ฉลาดตามสายตาของตนเอง และสุขุมรอบคอบในสายตาของตนเอง
- ลูกา 12:13 - และมีผู้หนึ่งในหมู่คนทูลพระองค์ว่า “อาจารย์เจ้าข้า ขอสั่งพี่ชายของข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้กับข้าพเจ้า”
- ลูกา 12:14 - แต่พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “บุรุษเอ๋ย ใครได้ตั้งเราให้เป็นตุลาการ หรือเป็นผู้แบ่งมรดกให้ท่าน”
- ลูกา 12:15 - แล้วพระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า “จงระวังและเว้นเสียจากความโลภ เพราะว่าชีวิตของบุคคลใดๆมิได้อยู่ในของบริบูรณ์ซึ่งเขามีอยู่นั้น”
- ลูกา 12:16 - และพระองค์จึงตรัสคำอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาฟังว่า “ไร่นาของเศรษฐีคนหนึ่งเกิดผลบริบูรณ์มาก
- ลูกา 12:17 - เศรษฐีคนนั้นจึงคิดในใจว่า ‘เราจะทำอย่างไรดี เพราะว่าเราไม่มีที่ที่จะเก็บผลของเรา’
- ลูกา 12:18 - เขาจึงคิดว่า ‘เราจะทำอย่างนี้ คือจะรื้อยุ้งฉางของเราเสีย และจะสร้างใหม่ให้โตขึ้น แล้วเราจะรวบรวมข้าวและสมบัติทั้งหมดของเราไว้ที่นั่น
- ลูกา 12:19 - แล้วเราจะว่าแก่จิตใจของเราว่า “จิตใจเอ๋ย เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากเก็บไว้พอหลายปี จงอยู่สบาย กิน ดื่ม และรื่นเริงเถิด”’
- ลูกา 12:20 - แต่พระเจ้าตรัสแก่เขาว่า ‘เจ้าคนโง่ ในคืนวันนี้ชีวิตของเจ้าจะต้องเรียกเอาไปจากเจ้า แล้วของซึ่งเจ้าได้รวบรวมไว้นั้นจะเป็นของใครเล่า’
- ลูกา 12:21 - คนที่ส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัว และมิได้มั่งมีจำเพาะพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้นแหละ”
- เยเรมีย์ 36:17 - แล้วเขาทั้งหลายจึงถามบารุคว่า “จงบอกเราว่า เจ้าเขียนถ้อยคำเหล่านี้ทั้งสิ้นอย่างไร เขียนตามคำบอกของเขาหรือ”
- เยเรมีย์ 36:18 - บารุคตอบเขาทั้งหลายว่า “ท่านได้บอกถ้อยคำเหล่านี้ทั้งสิ้นแก่ข้าพเจ้า ฝ่ายข้าพเจ้าก็เขียนมันไว้ด้วยหมึกในหนังสือม้วน”
- สุภาษิต 26:4 - อย่าตอบคนโง่ตามความโง่ของเขา เกรงว่าเจ้าเองจะเป็นเหมือนเขาเข้า
- โรม 11:25 - เหตุฉะนั้น พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านทั้งหลายเขลาในข้อความลึกลับนี้ เกลือกว่าท่านจะอวดรู้ คือเรื่องที่บางคนในพวกอิสราเอลได้มีใจแข็งกระด้างไป จนถึงพวกต่างชาติได้เข้ามาครบจำนวน
- ยอห์น 9:26 - คนเหล่านั้นจึงถามเขาอีกว่า “เขาทำอะไรกับเจ้าบ้าง เขาทำอย่างไรตาของเจ้าจึงหายบอด”
- ยอห์น 9:27 - ชายคนนั้นตอบเขาว่า “ข้าพเจ้าบอกท่านแล้ว และท่านไม่ฟัง ทำไมท่านจึงอยากฟังอีก ท่านอยากเป็นสาวกของท่านผู้นั้นด้วยหรือ”
- ยอห์น 9:28 - เขาทั้งหลายจึงเย้ยชายคนนั้นว่า “แกเป็นศิษย์ของเขา แต่เราเป็นศิษย์ของโมเสส
- ยอห์น 9:29 - เรารู้ว่าพระเจ้าได้ตรัสกับโมเสส แต่คนนั้นเราไม่รู้ว่าเขามาจากไหน”
- ยอห์น 9:30 - ชายคนนั้นตอบเขาว่า “เออ ช่างประหลาดจริงๆที่พวกท่านไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นมาจากไหน แต่ท่านผู้นั้นยังได้ทำให้ตาของข้าพเจ้าหายบอด
- ยอห์น 9:31 - พวกเรารู้ว่าพระเจ้ามิได้ฟังคนบาป แต่ถ้าผู้ใดนมัสการพระเจ้า และกระทำตามพระทัยพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังผู้นั้น
- ยอห์น 9:32 - ตั้งแต่เริ่มมีโลกมาแล้ว ไม่เคยมีใครได้ยินว่า มีผู้ใดทำให้ตาของคนที่บอดแต่กำเนิดมองเห็นได้
- ยอห์น 9:33 - ถ้าท่านผู้นั้นไม่ได้มาจากพระเจ้าแล้ว ก็จะทำอะไรไม่ได้”
- สุภาษิต 3:7 - อย่าทำตัวฉลาดตามสายตาของตนเอง จงยำเกรงพระเยโฮวาห์ และออกไปเสียจากความชั่วร้าย
- ทิตัส 1:13 - คำที่เขาอ้างนี้เป็นความจริง เหตุฉะนั้นท่านจงต่อว่าเขาให้แรงๆเพื่อเขาจะได้มีความเชื่ออันถูกต้อง
- สุภาษิต 26:12 - ท่านเห็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดหรือ ยังมีหวังในคนโง่ได้มากกว่าในคนเช่นนั้น
- ยอห์น 8:7 - และเมื่อพวกเขายังทูลถามพระองค์อยู่เรื่อยๆ พระองค์ก็ทรงลุกขึ้นและตรัสกับเขาว่า “ผู้ใดในพวกท่านที่ไม่มีบาป ก็ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างเขาก่อน”
- มัทธิว 21:23 - เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในพระวิหารในเวลาที่ทรงสั่งสอนอยู่ พวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้ใหญ่ของประชาชนมาหาพระองค์ทูลถามว่า “ท่านมีสิทธิอันใดจึงได้ทำเช่นนี้ ใครให้สิทธินี้แก่ท่าน”
- มัทธิว 21:24 - พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราจะถามท่านทั้งหลายสักข้อหนึ่งด้วย ซึ่งถ้าท่านบอกเราได้ เราจะบอกท่านเหมือนกันว่าเรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด
- มัทธิว 21:25 - คือบัพติศมาของยอห์นนั้นมาจากไหน มาจากสวรรค์หรือจากมนุษย์” เขาได้ปรึกษากันว่า “ถ้าเราจะว่า ‘มาจากสวรรค์’ ท่านจะถามเราว่า ‘เหตุไฉนท่านจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า’
- มัทธิว 21:26 - แต่ถ้าเราจะว่า ‘มาจากมนุษย์’ เราก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนทั้งปวงถือว่ายอห์นเป็นศาสดาพยากรณ์”
- มัทธิว 21:27 - เขาจึงทูลตอบพระเยซูว่า “พวกข้าพเจ้าไม่ทราบ” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เราจะไม่บอกท่านทั้งหลายเหมือนกันว่า เรากระทำการนี้โดยสิทธิอันใด
- สุภาษิต 28:11 - คนมั่งคั่งก็ฉลาดตามการล่อลวงของเขาเอง แต่คนยากจนที่มีความเข้าใจก็รู้จักเขาอย่างแจ่มแจ้ง
- โรม 12:16 - จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าใฝ่สูง แต่จงถ่อมใจลงมาหาคนที่ต่ำต้อย อย่าถือว่าตัวฉลาด
- มัทธิว 16:1 - พวกฟาริสีกับพวกสะดูสีได้มาทดลองพระองค์โดยขอร้องให้พระองค์สำแดงหมายสำคัญจากฟ้าสวรรค์ให้เขาเห็น
- มัทธิว 16:2 - พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า “พอตกเย็นท่านทั้งหลายพูดว่า ‘รุ่งขึ้นอากาศจะโปร่งดีเพราะฟ้าสีแดง’
- มัทธิว 16:3 - ในเวลาเช้าท่านพูดว่า ‘วันนี้จะเกิดพายุฝนเพราะฟ้าแดงและมัว’ โอ คนหน้าซื่อใจคด ท้องฟ้านั้นท่านทั้งหลายยังอาจสังเกตรู้และเข้าใจได้ แต่หมายสำคัญแห่งกาลนี้ท่านกลับไม่เข้าใจ
- มัทธิว 16:4 - คนชาติชั่วและเล่นชู้แสวงหาหมายสำคัญ และจะไม่โปรดให้หมายสำคัญแก่เขา เว้นไว้แต่หมายสำคัญของโยนาห์ศาสดาพยากรณ์เท่านั้น” แล้วพระองค์ก็เสด็จไปจากเขา