Parallel Verses
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - และจะได้เห็นว่าข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ โดยไม่ได้มีความชอบธรรมเองโดยการถือกฎบัญญัติ แต่เป็นสิ่งที่ได้มาจากความเชื่อในพระคริสต์ ความชอบธรรม ซึ่งมาจากพระเจ้าบนรากฐานแห่งความเชื่อ
- 新标点和合本 - 并且得以在他里面,不是有自己因律法而得的义,乃是有信基督的义,就是因信 神而来的义,
- 和合本2010(上帝版-简体) - 并且得以在他里面,不是有自己因律法而得的义,而是有信基督的义 ,就是基于信,从上帝而来的义,
- 和合本2010(神版-简体) - 并且得以在他里面,不是有自己因律法而得的义,而是有信基督的义 ,就是基于信,从 神而来的义,
- 当代译本 - 与祂联合。我并非拥有源于律法的义,而是拥有信靠基督而得的义。这义从上帝而来,以信为基础。
- 圣经新译本 - 并且得以在他里面,不是有自己因律法而得的义,而是有因信基督而得的义,就是基于信心,从 神而来的义,
- 中文标准译本 - 并且要被认定在他里面——不是拥有那本于律法的自己的义,而是拥有那藉着信基督而来的义,就是来自神、基于信的义;
- 现代标点和合本 - 并且得以在他里面,不是有自己因律法而得的义,乃是有信基督的义,就是因信神而来的义;
- 和合本(拼音版) - 并且得以在他里面,不是有自己因律法而得的义,乃是有信基督的义,就是因信上帝而来的义,
- New International Version - and be found in him, not having a righteousness of my own that comes from the law, but that which is through faith in Christ—the righteousness that comes from God on the basis of faith.
- New International Reader's Version - I want to be joined to him. Being right with God does not come from my obeying the law. It comes because I believe in Christ. It comes from God because of faith.
- English Standard Version - and be found in him, not having a righteousness of my own that comes from the law, but that which comes through faith in Christ, the righteousness from God that depends on faith—
- New Living Translation - and become one with him. I no longer count on my own righteousness through obeying the law; rather, I become righteous through faith in Christ. For God’s way of making us right with himself depends on faith.
- Christian Standard Bible - and be found in him, not having a righteousness of my own from the law, but one that is through faith in Christ — the righteousness from God based on faith.
- New American Standard Bible - and may be found in Him, not having a righteousness of my own derived from the Law, but that which is through faith in Christ, the righteousness which comes from God on the basis of faith,
- New King James Version - and be found in Him, not having my own righteousness, which is from the law, but that which is through faith in Christ, the righteousness which is from God by faith;
- Amplified Bible - and may be found in Him [believing and relying on Him], not having any righteousness of my own derived from [my obedience to] the Law and its rituals, but [possessing] that [genuine righteousness] which comes through faith in Christ, the righteousness which comes from God on the basis of faith.
- American Standard Version - and be found in him, not having a righteousness of mine own, even that which is of the law, but that which is through faith in Christ, the righteousness which is from God by faith:
- King James Version - And be found in him, not having mine own righteousness, which is of the law, but that which is through the faith of Christ, the righteousness which is of God by faith:
- New English Translation - and be found in him, not because I have my own righteousness derived from the law, but because I have the righteousness that comes by way of Christ’s faithfulness – a righteousness from God that is in fact based on Christ’s faithfulness.
- World English Bible - and be found in him, not having a righteousness of my own, that which is of the law, but that which is through faith in Christ, the righteousness which is from God by faith,
- 新標點和合本 - 並且得以在他裏面,不是有自己因律法而得的義,乃是有信基督的義,就是因信神而來的義,
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 並且得以在他裏面,不是有自己因律法而得的義,而是有信基督的義 ,就是基於信,從上帝而來的義,
- 和合本2010(神版-繁體) - 並且得以在他裏面,不是有自己因律法而得的義,而是有信基督的義 ,就是基於信,從 神而來的義,
- 當代譯本 - 與祂聯合。我並非擁有源於律法的義,而是擁有信靠基督而得的義。這義從上帝而來,以信為基礎。
- 聖經新譯本 - 並且得以在他裡面,不是有自己因律法而得的義,而是有因信基督而得的義,就是基於信心,從 神而來的義,
- 呂振中譯本 - 而常在他裏面;不是有我自己的義、那以律法為本的 義 ,乃是 有 那憑着信基督 的義 、那由上帝而來、以信為條件的義;
- 中文標準譯本 - 並且要被認定在他裡面——不是擁有那本於律法的自己的義,而是擁有那藉著信基督而來的義,就是來自神、基於信的義;
- 現代標點和合本 - 並且得以在他裡面,不是有自己因律法而得的義,乃是有信基督的義,就是因信神而來的義;
- 文理和合譯本 - 非以自乎律者為己之義、乃由信基督之義、即以信而自乎上帝者、
- 文理委辦譯本 - 欲恆賴基督、非以己守法稱義、乃以信基督、即上帝以人信主而稱義、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 使我得義、非由律法、乃由信基督、即天主因信所賜之義、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 而與之合為一體。蓋予自身了無仁義、律法亦不足為恃、惟天主為仁義之泉源、而所以致之者、則惟信仰基督而已矣。
- Nueva Versión Internacional - y encontrarme unido a él. No quiero mi propia justicia que procede de la ley, sino la que se obtiene mediante la fe en Cristo, la justicia que procede de Dios, basada en la fe.
- 현대인의 성경 - 그분과 완전히 하나가 되기 위한 것입니다. 이제 나는 율법을 지켜서 내 스스로 의롭게 된 것이 아니라 그리스도를 믿음으로 의롭게 되었습니다. 이 의는 어디까지나 믿음에 근거한 것이며 하나님이 주신 것입니다.
- Новый Русский Перевод - ради того, чтобы быть с Ним не со своей уже праведностью по Закону, но с праведностью по вере во Христа, праведностью, приходящей от Бога через веру.
- Восточный перевод - ради того, чтобы быть с Ним не со своей уже праведностью от исполнения Закона, но с праведностью по вере в Масиха, праведностью, приходящей от Всевышнего через веру.
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - ради того, чтобы быть с Ним не со своей уже праведностью от исполнения Закона, но с праведностью по вере в аль-Масиха, праведностью, приходящей от Аллаха через веру.
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - ради того, чтобы быть с Ним не со своей уже праведностью от исполнения Закона, но с праведностью по вере в Масеха, праведностью, приходящей от Всевышнего через веру.
- La Bible du Semeur 2015 - Mon désir est d’être trouvé en lui, non pas avec une justice que j’aurais moi-même acquise en obéissant à la Loi mais avec la justice qui vient de la foi en Christ et que Dieu accorde à ceux qui croient.
- リビングバイブル - もはや、良い人間になろうとか、律法に従って救われようとか考えるのはやめて、ただキリストを信じることによって救われ、キリストと結ばれるためです。神が私たちを正しい者と認めてくださるのは、信仰――ただキリストだけを信じ頼ること――を持っているかどうかで決まるからです。
- Nestle Aland 28 - καὶ εὑρεθῶ ἐν αὐτῷ, μὴ ἔχων ἐμὴν δικαιοσύνην τὴν ἐκ νόμου ἀλλὰ τὴν διὰ πίστεως Χριστοῦ, τὴν ἐκ θεοῦ δικαιοσύνην ἐπὶ τῇ πίστει,
- unfoldingWord® Greek New Testament - καὶ εὑρεθῶ ἐν αὐτῷ, μὴ ἔχων ἐμὴν δικαιοσύνην, τὴν ἐκ νόμου, ἀλλὰ τὴν διὰ πίστεως Χριστοῦ, τὴν ἐκ Θεοῦ δικαιοσύνην ἐπὶ τῇ πίστει;
- Nova Versão Internacional - e ser encontrado nele, não tendo a minha própria justiça que procede da Lei, mas a que vem mediante a fé em Cristo, a justiça que procede de Deus e se baseia na fé.
- Hoffnung für alle - Mit ihm möchte ich um jeden Preis verbunden sein. Deshalb versuche ich jetzt nicht mehr, durch meine eigene Leistung und durch das genaue Befolgen des Gesetzes vor Gott zu bestehen. Was zählt, ist, dass ich durch den Glauben an Christus von Gott angenommen werde. Darauf will ich vertrauen.
- Kinh Thánh Hiện Đại - được liên hiệp với Ngài—không còn ỷ lại công đức, đạo hạnh của mình—nhưng tin cậy Chúa Cứu Thế để Ngài cứu rỗi tôi. Đức tin nơi Chúa Cứu Thế làm cho con người được tha tội và coi là công chính trước mặt Đức Chúa Trời.
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - และอยู่ในพระองค์ ตัวข้าพเจ้าเองไม่มีความชอบธรรมที่ได้มาโดยบทบัญญัติ มีแต่ความชอบธรรมที่ได้มาโดยความเชื่อในพระคริสต์ เป็นความชอบธรรมซึ่งมาจากพระเจ้าและได้มาโดยความเชื่อ
Cross Reference
- สดุดี 71:15 - ตลอดวันเวลาข้าพเจ้าจะเอ่ยปากพูดถึงการกระทำอันชอบธรรมของพระองค์ และความรอดพ้นที่มาจากพระองค์ แม้ข้าพเจ้าจะไม่ทราบว่าบ่อยครั้งเพียงไรก็ตาม
- สดุดี 71:16 - ข้าพเจ้าจะมาด้วยมหิทธานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ข้าพเจ้าจะสรรเสริญความชอบธรรมของพระองค์เท่านั้น
- ดาเนียล 9:24 - เวลาที่ถูกกำหนดไว้ให้ประชาชนและเมืองอันบริสุทธิ์ของท่าน เพื่อยุติการล่วงละเมิดและหยุดทำบาป เพื่อชดใช้ความชั่ว เพื่อให้เกิดความชอบธรรมอันเป็นนิรันดร์ เพื่อผนึกภาพนิมิตและคำพยากรณ์ด้วยตราประทับ และเพื่อเจิมบริเวณที่บริสุทธิ์ที่สุดนั้น เป็นระยะเวลา 70 สัปดาห์
- 1 ยอห์น 3:4 - ทุกคนที่กระทำบาป ก็เท่ากับกระทำผิดต่อกฎบัญญัติด้วย เพราะบาปเป็นสิ่งที่ผิดต่อกฎบัญญัติ
- 2 เปโตร 1:1 - ข้าพเจ้าซีโมนเปโตรผู้รับใช้และอัครทูตของพระเยซูคริสต์ เรียน บรรดาผู้ได้รับความเชื่ออันล้ำค่า ซึ่งเท่าเทียมกับความเชื่อของเราโดยความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นพระเจ้าและองค์ผู้ช่วยให้รอดพ้นของเรา
- ยากอบ 2:9 - แต่ถ้าพวกท่านลำเอียง ท่านก็ทำบาป และถูกตัดสินโดยกฎบัญญัติว่าท่านละเมิดกฎ
- ยากอบ 2:10 - เพราะใครก็ตามที่รักษากฎบัญญัติทั้งหมดแต่พลั้งผิดเพียงข้อเดียว ก็นับว่าเขาผิดต่อกฎบัญญัติทั้งหมด
- ยากอบ 2:11 - เพราะองค์ที่กล่าวว่า “อย่าผิดประเวณี” ก็กล่าวด้วยว่า “อย่าฆ่าคน” ถ้าท่านไม่ผิดประเวณีแต่ฆ่าคน ท่านก็กลายเป็นคนละเมิดกฎแล้ว
- อิสยาห์ 64:5 - พระองค์พบกับคนที่ยินดีกระทำตามความชอบธรรม บรรดาผู้ที่ระลึกถึงพระองค์ในวิถีทางของพระองค์ ดูเถิด พระองค์กริ้ว และพวกเราทำบาป พวกเราอยู่ในบาปเป็นเวลานาน แล้วพวกเราจะได้รับความรอดหรือ
- อิสยาห์ 64:6 - พวกเราทุกคนได้กลายเป็นเหมือนคนไม่บริสุทธิ์ และการกระทำที่ชอบธรรมของเราทุกประการเป็นเหมือนเสื้อผ้าที่แปดเปื้อน พวกเราเหี่ยวเฉาเหมือนใบไม้ และความชั่วของเราเป็นเหมือนลมซึ่งพัดเราไป
- อิสยาห์ 45:24 - พวกเขาจะพูดถึงเราว่า ความชอบธรรมและพลานุภาพ เป็นของพระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว” ทุกคนที่เกรี้ยวกราดใส่พระองค์ จะมาหาพระองค์และจะอับอาย
- อิสยาห์ 45:25 - แต่ผู้สืบเชื้อสายของอิสราเอลทั้งปวง จะพ้นผิดและจะโห่ร้องร่วมกันในพระผู้เป็นเจ้า
- โรม 16:7 - ขอฝากความคิดถึงมายังอันโดรนิคัสกับยูเนีย ผู้เป็นเพื่อนชาวยิวของข้าพเจ้าและถูกคุมขังร่วมกับข้าพเจ้า เขาทั้งสองเป็นที่ยกย่องในหมู่อัครทูต และอยู่ในพระคริสต์ก่อนข้าพเจ้าด้วย
- 2 พงศาวดาร 32:31 - เมื่อบรรดาผู้นำของบาบิโลนให้ผู้ส่งสาสน์ไปหาท่าน เพื่อถามเรื่องสิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในแผ่นดิน พระเจ้าปล่อยให้ท่านเผชิญกับเรื่องนี้เอง เพื่อทดสอบท่าน และเพื่อจะทราบทุกสิ่งที่อยู่ในจิตใจของท่าน
- ยากอบ 3:2 - เพราะเราทุกคนผิดพลาดหลายอย่าง ถ้าผู้ใดไม่ทำผิดพลาดไปจากสิ่งที่ตนพูด เขาก็เป็นคนดีโดยเพียบพร้อมทุกประการ สามารถควบคุมตนเองได้หมด
- โรม 5:21 - เพื่อว่า ตามที่บาปครอบงำซึ่งนำไปสู่ความตายฉันใด พระคุณก็ครอบครองด้วยความชอบธรรมให้ถึงชีวิตอันเป็นนิรันดร์ โดยพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราฉันนั้น
- เฉลยธรรมบัญญัติ 27:26 - ‘คนที่ไม่ทำตามคำในกฎบัญญัตินี้ก็ถูกแช่งสาป’ แล้วประชาชนทั้งปวงจะพูดตอบว่า ‘อาเมน’
- ยอห์น 16:8 - เมื่อพระองค์มา พระองค์ก็จะพิสูจน์ให้โลกเห็นในเรื่องบาป เรื่องความชอบธรรม และการพิพากษาโลก
- ยอห์น 16:9 - เรื่องบาปก็คือ พวกเขาไม่เชื่อในเรา
- ยอห์น 16:10 - เรื่องความชอบธรรมก็เพราะเรากำลังจะไปหาพระบิดา และพวกเจ้าจะไม่เห็นเราอีก
- ยอห์น 16:11 - และเรื่องการพิพากษาโลก เพราะผู้ครองโลกนี้ได้ถูกกล่าวโทษแล้ว
- โยบ 15:14 - มนุษย์เป็นใครจึงจะบริสุทธิ์ได้จริงๆ ผู้ที่เกิดจากผู้หญิงจะมีความชอบธรรมได้หรือ
- โยบ 15:15 - ดูเถิด พระเจ้าไม่ไว้วางใจทูตสวรรค์ของพระองค์ และแม้แต่ฟ้าสวรรค์ก็ไม่บริสุทธิ์ในสายตาของพระองค์
- โยบ 15:16 - คนที่น่าขยะแขยงและไร้ศีลธรรมจะบริสุทธิ์น้อยยิ่งกว่านั้นเพียงใด เขาดื่มความชั่วเหมือนดื่มน้ำ
- โยบ 42:5 - ข้าพเจ้าเคยได้ยินถึงพระองค์จากผู้อื่น แต่บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นพระองค์ด้วยตาตนเอง
- โยบ 42:6 - ฉะนั้น ข้าพเจ้าตำหนิตัวเอง ขอกลับตัวกลับใจในฝุ่นและเถ้าถ่าน”
- อิสยาห์ 6:5 - และข้าพเจ้าพูดว่า “วิบัติแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องย่อยยับ เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่บริสุทธิ์ และข้าพเจ้าอาศัยอยู่ท่ามกลางประชาชนที่ริมฝีปากไม่บริสุทธิ์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์กษัตริย์ คือพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา”
- ฮีบรู 6:18 - ฉะนั้นมี 2 สิ่งนี้ที่ไม่อาจแปรเปลี่ยนได้ และเป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าจะพูดปด พวกเราที่ได้ไปหาพระองค์เพื่อจะได้รับความปลอดภัย จึงมีกำลังใจยิ่งนักที่จะยึดความหวังที่อยู่ตรงหน้าไว้ให้มั่น
- โยบ 10:14 - ถ้าข้าพเจ้าทำบาป ขอพระองค์เฝ้าดูข้าพเจ้าไว้ และไม่ปล่อยให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นจากข้อหาของข้าพเจ้า
- โยบ 10:15 - ถ้าข้าพเจ้ามีความผิด ข้าพเจ้าก็วิบัติ แต่ถ้าแม้ว่าข้าพเจ้าไม่ผิด ข้าพเจ้าก็ยังเงยหน้าขึ้นไม่ได้ เพราะตัวข้าพเจ้ามีแต่ความอัปยศ และรู้ตัวดีว่า ข้าพเจ้าจมอยู่ในความทุกข์
- โยบ 9:28 - ข้าพเจ้าหวั่นกลัวเรื่องความทุกข์ทรมาน เพราะข้าพเจ้าทราบว่า พระองค์นับว่าข้าพเจ้าไม่ใช่คนไร้ความผิด
- โยบ 9:29 - ในเมื่อข้าพเจ้าถูกกล่าวโทษ แล้วข้าพเจ้าจะทำไปเพื่ออะไร
- โยบ 9:30 - ถ้าข้าพเจ้าจะชำระล้างตัวด้วยหิมะ และล้างมือด้วยน้ำด่าง
- โยบ 9:31 - พระองค์ก็ยังจะผลักข้าพเจ้าลงในบ่อโคลน แม้แต่เสื้อของข้าพเจ้ายังจะเป็นที่ขยะแขยงต่อข้าพเจ้า
- อิสยาห์ 46:13 - เรานำความชอบธรรมของเรามาใกล้ มันอยู่ไม่ไกลเลย และความรอดพ้นที่มาจากเราจะไม่ล่าช้า เราจะให้ความรอดพ้นเข้ามายังศิโยน ให้บารมีของเราเพื่ออิสราเอล
- 2 พงศาวดาร 32:25 - แต่เฮเซคียาห์ไม่ได้น้อมรับคำตอบโดยดีเมื่อได้รับความปรานีเช่นนั้น เพราะใจของท่านหยิ่งผยอง ฉะนั้นพระผู้เป็นเจ้าจึงกริ้วท่าน กริ้วยูดาห์และเยรูซาเล็ม
- เฉลยธรรมบัญญัติ 19:3 - ท่านจงแบ่งแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะมอบให้ท่านยึดครองออกเป็น 3 ส่วนและสร้างถนนไว้ให้พร้อม เพื่อว่าผู้ใดที่ฆ่าคนแล้วจะได้หลบหนีไปที่นั่นได้
- เฉลยธรรมบัญญัติ 19:4 - กฎที่เกี่ยวกับผู้ฆ่าคนและหลบหนีไปที่นั่นเพื่อรอดตายเป็นไปตามนี้คือ เป็นผู้ฆ่าคนโดยไม่มีเจตนา โดยไม่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน
- 1 พงศ์กษัตริย์ 8:46 - ถ้าหากว่าพวกเขาทำบาปต่อพระองค์ เนื่องจากว่าไม่มีผู้ใดที่ไม่ทำบาป พระองค์จะโกรธกริ้วพวกเขา และให้ศัตรูจับตัวพวกเขาไปเป็นเชลยในดินแดนของศัตรูที่อยู่ไกลหรือใกล้
- สดุดี 14:3 - ทุกคนหลงผิดไป เขากลายเป็นคนไร้ศีลธรรมกันไปหมด ไม่มีผู้ใดกระทำความดี ไม่มีแม้แต่คนเดียว
- ปฐมกาล 7:23 - พระองค์กวาดล้างสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นดิน ทั้งมนุษย์ สัตว์ สัตว์เลื้อยคลาน และนกในอากาศ สิ่งเหล่านี้ถูกกวาดล้างไปจากแผ่นดินโลก จะมีเหลืออยู่ก็แต่โนอาห์และทุกชีวิตที่อยู่กับเขาในเรือใหญ่
- สดุดี 130:3 - โอ พระผู้เป็นเจ้า ถ้าพระองค์บันทึกบาปที่เรากระทำแล้ว โอ พระผู้เป็นเจ้า ใครจะสามารถทนอยู่ได้เล่า
- สดุดี 130:4 - แต่พระองค์กลับให้อภัย ฉะนั้น พระองค์จึงเป็นที่ยำเกรง
- สดุดี 19:12 - แต่ใครจะหยั่งรู้ความผิดของตนได้ โปรดให้อภัยความผิดของข้าพเจ้าที่ถูกซ่อนไว้
- 1 เปโตร 3:19 - และโดยทางวิญญาณ พระองค์ไปประกาศแก่เหล่าวิญญาณที่ถูกจำคุกอยู่
- 1 เปโตร 3:20 - คือนานมาแล้วพวกเขาไม่เชื่อฟัง เมื่อครั้งที่พระเจ้ารอด้วยความอดทน ในสมัยของโนอาห์ขณะที่มีการสร้างเรือใหญ่อยู่ มีเพียงไม่กี่คน คือรวมทั้งหมดได้ 8 คนที่อยู่ในเรือใหญ่เท่านั้นที่รอดชีวิตจากน้ำ
- 1 ยอห์น 1:8 - ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่มีบาป เราก็หลอกลวงตนเอง และไม่มีความจริงอยู่ในตัวเรา
- 1 ยอห์น 1:9 - ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์เป็นผู้รักษาคำมั่นสัญญาและมีความเที่ยงธรรม ดังนั้นพระองค์จะยกโทษบาปแก่เรา และชำระเราให้พ้นจากความไม่ชอบธรรมทั้งปวง
- 1 ยอห์น 1:10 - ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่เคยทำบาป ก็เท่ากับเราทำให้พระองค์เป็นผู้โกหก และไม่มีคำกล่าวของพระองค์อยู่ในตัวเรา
- 2 โครินธ์ 5:17 - ฉะนั้น ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนใหม่ สภาพเก่าล่วงไป มีสภาพใหม่เข้ามาแทน
- ลูกา 10:25 - ครั้งหนึ่งผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎบัญญัติลุกขึ้นถามเป็นการทดสอบพระเยซูว่า “อาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะได้ชีวิตอันเป็นนิรันดร์”
- ลูกา 10:26 - พระองค์ตอบว่า “ในหมวดกฎบัญญัติเขียนไว้อย่างไร แล้วท่านอ่านได้ความว่าอย่างไร”
- ลูกา 10:27 - เขาตอบว่า “‘จงรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างสุดดวงใจ สุดดวงจิต สุดกำลัง และสุดความคิดของท่าน’ และ ‘จงรักเพื่อนบ้านของเจ้าให้เหมือนรักตนเอง’”
- ลูกา 10:28 - พระเยซูตอบว่า “ท่านตอบได้ถูกต้องแล้ว จงทำอย่างนั้นแล้วจะได้ชีวิต”
- ลูกา 10:29 - แต่เขาต้องการจะแก้ตัว ฉะนั้นเขาถามต่อไปว่า “แล้วใครคือเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า”
- อิสยาห์ 53:6 - เราทุกคนเป็นเสมือนแกะที่พลัดจากฝูง เราแต่ละคนได้กลับไปดำเนินชีวิตในทางของตนเอง และพระผู้เป็นเจ้าได้ให้พระองค์แบกความชั่วของเราทุกคน
- กาลาเทีย 3:10 - ด้วยว่าทุกคนที่พึ่งการประพฤติตามกฎบัญญัติก็ถูกแช่งสาป เพราะมีบันทึกไว้ว่า “ทุกคนที่ไม่ทำตามทุกข้อที่เขียนไว้ในหมวดกฎบัญญัติต่อไปเรื่อยๆ ก็ถูกแช่งสาป”
- กาลาเทีย 3:11 - เป็นที่เห็นชัดแล้วว่า ต่อหน้าพระเจ้าแล้วไม่มีใครพ้นจากความผิดได้โดยกฎบัญญัติ เพราะว่า “ผู้มีความชอบธรรมจะมีชีวิตได้โดยความเชื่อ”
- กาลาเทีย 3:12 - กฎบัญญัติไม่มีรากฐานมาจากความเชื่อ แต่ตรงกันข้ามคือ “คนที่ถือตามก็จะมีชีวิตได้โดยการปฏิบัติตามนั้น”
- กาลาเทีย 3:13 - พระคริสต์ไถ่พวกเราจากการแช่งสาปของกฎบัญญัติ โดยการรับเป็นผู้ถูกแช่งสาปแทนเรา เพราะมีบันทึกไว้ว่า “ทุกคนที่ถูกแขวนบนต้นไม้ ก็ถูกแช่งสาป”
- มัทธิว 9:13 - จงไปเถิด และเรียนรู้ว่าคำพูดนี้มีความหมายว่าอย่างไร ‘เราต้องการความเมตตา ไม่ต้องการเครื่องสักการะ’ เพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนที่คิดว่าตนมีความชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป”
- โรม 8:3 - สิ่งใดก็ตามที่กฎบัญญัติกระทำไม่ได้ เพราะฝ่ายเนื้อหนังทำให้กฎบัญญัติอ่อนกำลัง พระเจ้ากระทำได้โดยส่งพระบุตรของพระองค์เองมา มีลักษณะของมนุษย์ดั่งคนบาปทั่วไป และเป็นเครื่องสักการะชดใช้บาปของเรา พระองค์จึงกล่าวโทษบาปที่ควบคุมฝ่ายเนื้อหนังของเรา
- สดุดี 143:2 - และอย่าพิพากษาผู้รับใช้ของพระองค์เลย เพราะไม่มีผู้มีชีวิตคนใดที่นับว่ามีความชอบธรรม ณ เบื้องหน้าพระองค์
- โรม 10:10 - เพราะผลที่ได้จากการเชื่อด้วยใจคือการพ้นผิด และผลที่ได้จากการสารภาพจากปากคือความรอดพ้น
- เยเรมีย์ 23:6 - เมื่อท่านมา ยูดาห์จะปลอดภัย และอิสราเอลจะอยู่อย่างมั่นคง ผู้คนจะเรียกชื่อท่านว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าเป็นความชอบธรรมของพวกเรา’”
- ปัญญาจารย์ 7:20 - มั่นใจได้เลยว่า ในโลกนี้ไม่มีผู้มีความชอบธรรมสักคนที่กระทำแต่ความดี และไม่เคยกระทำบาป
- ทิตัส 3:5 - พระองค์ช่วยเราให้รอดพ้น มิใช่ด้วยการกระทำอันชอบธรรมของเราเอง แต่เป็นเพราะความเมตตาของพระองค์โดยการชำระล้างในการเกิดใหม่ และเป็นขึ้นมาใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์
- กาลาเทีย 3:21 - ฉะนั้น กฎบัญญัติขัดแย้งกับพระสัญญาของพระเจ้าหรือ ไม่ใช่แน่ เพราะหากว่ากฎบัญญัติที่พระเจ้าให้ไว้นั้นสามารถนำมาซึ่งชีวิตแล้ว ความชอบธรรมก็จะได้มาโดยการปฏิบัติตามกฎบัญญัติอย่างแน่นอน
- กาลาเทีย 3:22 - แต่พระคัมภีร์ได้ระบุไว้ว่า คนทั้งโลกถูกกักขังอยู่ภายใต้บาป ดังนั้นพระสัญญามีไว้สำหรับบรรดาคนที่มีความเชื่อในพระเยซูคริสต์
- 2 ทิโมธี 1:9 - พระองค์ได้ช่วยเราให้รอดพ้น และเรียกเราเพื่อให้เป็นคนบริสุทธิ์ของพระเจ้า ไม่ใช่เป็นเพราะสิ่งที่เรากระทำ แต่เป็นเพราะจุดประสงค์และพระคุณของพระองค์เอง พระคุณนี้ได้ให้แก่เราไว้โดยผ่านพระเยซูคริสต์ก่อนปฐมกาล
- ฟีลิปปี 3:6 - เรื่องของความปรารถนาอันแรงกล้าในการรับใช้นั้นข้าพเจ้าข่มเหงคริสตจักร เรื่องความชอบธรรมโดยการถือกฎบัญญัติ ก็ไม่มีใครตำหนิข้าพเจ้าได้
- โรม 10:1 - พี่น้องเอ๋ย ข้าพเจ้าปรารถนาอย่างยิ่ง และอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อชาวอิสราเอล คือให้พวกเขาได้รอดพ้น
- โรม 10:2 - เพราะข้าพเจ้าสามารถเป็นพยานให้พวกเขาได้ว่า เขาเอาจริงเอาจังต่อพระเจ้า แต่ความปรารถนาอันแรงกล้าของเขามิได้มีพื้นฐานอยู่บนความรู้ที่แท้จริง
- โรม 10:3 - ด้วยว่า พวกเขาขาดความรู้เรื่องความชอบธรรมที่มาจากพระเจ้า และพยายามก่อตั้งความชอบธรรมแบบของตนเองขึ้น พวกเขาไม่ได้ยอมอยู่ในความชอบธรรมของพระเจ้า
- โรม 10:4 - พระคริสต์เป็นจุดจบของกฎบัญญัติ เพื่อทุกคนที่เชื่อจะได้มีความชอบธรรม
- โรม 10:5 - โมเสสเขียนไว้ว่า ความชอบธรรมที่ถือตามกฎบัญญัติคือ “คนที่ถือตามพระบัญญัติจะมีชีวิตได้โดยการปฏิบัติตามนั้น”
- โรม 10:6 - แต่ความชอบธรรมที่ได้มาโดยความเชื่อกล่าวว่า “อย่านึกในใจว่า ‘ใครจะขึ้นไปสวรรค์’ (หมายถึงขึ้นไปเพื่อพาพระคริสต์ลงมา)
- โรม 8:1 - ฉะนั้น บัดนี้การกล่าวโทษจึงไม่มีแก่ผู้ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์แล้ว
- โรม 3:19 - เราทราบแล้วว่า ทุกสิ่งในกฎบัญญัติจะเอามาใช้กับคนที่อยู่ใต้อำนาจกฎบัญญัติเพื่อปิดปากทุกคน และทั่วทั้งโลกจะอยู่ภายใต้การตัดสินของพระเจ้า
- โรม 3:20 - ฉะนั้นจะไม่มีผู้ใดที่ถูกนับว่า มีความชอบธรรมในสายตาของพระองค์โดยการปฏิบัติตามกฎบัญญัติ ด้วยกฎบัญญัตินั้นเองจึงทำให้เรารู้สำนึกบาป
- โรม 3:21 - แต่บัดนี้ ความชอบธรรมที่ได้รับจากพระเจ้าได้เป็นที่ปรากฏแล้ว ซึ่งไม่อยู่ภายใต้กฎบัญญัติ ทั้งหมวดกฎบัญญัติและหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าก็ได้เป็นพยานในเรื่องนี้
- โรม 3:22 - พระเจ้านับทุกคนที่มีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ว่า ได้รับความชอบธรรมจากพระเจ้า เพราะคนทั้งหลายไม่ต่างกันเลย
- เยเรมีย์ 33:16 - ในวันนั้น ยูดาห์จะปลอดภัย และเยรูซาเล็มจะอยู่อย่างมั่นคง ผู้คนจะเรียกชื่อเมืองนี้ว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าเป็นความชอบธรรมของพวกเรา’”
- โรม 7:5 - ด้วยว่าแต่ก่อนเราดำเนินชีวิตตามฝ่ายเนื้อหนัง กฎบัญญัติปลุกตัณหาชั่วที่อยู่ในตัวของเราให้ตื่นขึ้น เราจึงเกิดผลซึ่งนำไปสู่ความตาย
- โรม 7:6 - แต่บัดนี้เราพ้นจากกฎบัญญัติ เราได้ตายจากกฎบัญญัติที่เคยพันธนาการเราไว้ เพื่อเราจะได้รับใช้ในวิถีทางใหม่แห่งพระวิญญาณ ไม่ใช่ทางเก่าแห่งกฎบัญญัติที่เขียนบันทึกไว้
- โรม 7:7 - แล้วเราจะว่าอย่างไร กฎบัญญัติเป็นบาปหรือ ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น แต่ตรงกันข้าม ถ้าปราศจากกฎบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็จะไม่มีวันรู้จักบาป ด้วยว่าถ้ากฎบัญญัติไม่ได้เขียนไว้ว่า “อย่าโลภ” ข้าพเจ้าก็จะไม่รู้ว่าความโลภคืออะไร
- โรม 7:8 - แต่บาปหาโอกาสใช้พระบัญญัติเป็นเครื่องกระตุ้นความโลภสารพัดในตัวข้าพเจ้า ด้วยว่าถ้าไม่มีกฎบัญญัติ บาปก็คงสภาพราวกับไม่มีชีวิต
- โรม 7:9 - เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเคยดำรงชีวิตอยู่ขณะที่ไม่มีกฎบัญญัติ แต่เมื่อมีพระบัญญัติขึ้น บาปก็กลับมีชีวิตขึ้น และข้าพเจ้าก็ตาย
- โรม 7:10 - ข้าพเจ้าพบว่าพระบัญญัตินั้นควรจะนำชีวิตมาให้ แต่กลับนำความตายมาสู่ข้าพเจ้า
- โรม 7:11 - ด้วยว่าบาปหาโอกาสหลอกลวงข้าพเจ้าโดยใช้พระบัญญัติ และบาปใช้พระบัญญัตินั้นเพื่อจะฆ่าข้าพเจ้า
- โรม 7:12 - ฉะนั้นกฎบัญญัตินั้นบริสุทธิ์ และพระบัญญัติก็บริสุทธิ์ ชอบธรรม และดีงาม
- โรม 7:13 - แล้วสิ่งที่ดีงามนั้นนำความตายมาสู่ข้าพเจ้าหรือ ไม่มีทางจะเป็นเช่นนั้น แต่เป็นเพราะบาป ซึ่งก่อให้เกิดความตายในตัวข้าพเจ้าด้วยการใช้สิ่งที่ดีงาม เพื่อทำให้เห็นว่าบาปนั้นเป็นบาปจริงอย่างไร และด้วยพระบัญญัติซึ่งทำให้เห็นว่าบาปชั่วร้ายยิ่งนัก
- โรม 9:30 - แล้วเราจะว่าอย่างไร แม้ว่าพวกคนนอกไม่ได้มุ่งหาความชอบธรรม แต่ก็ยังได้รับความชอบธรรมโดยความเชื่อ
- โรม 9:31 - ส่วนพวกอิสราเอลมุ่งหาความชอบธรรมตามกฎบัญญัติ แต่ก็ปฏิบัติตามกฎนั้นไม่สำเร็จ
- โรม 9:32 - เพราะอะไร ก็เพราะพวกเขาไม่ได้มุ่งหาตามความเชื่อ แต่คิดว่าได้มาโดยการปฏิบัติ พวกเขาสะดุดก้อนหินที่ทำให้สะดุดนั้น
- กาลาเทีย 2:16 - เราทราบว่ามนุษย์ไม่ได้พ้นผิดโดยการปฏิบัติตามกฎบัญญัติ แต่พ้นผิดเพราะมีความเชื่อในพระเยซูคริสต์ ดังนั้น พวกเราจึงได้เชื่อในพระเยซูคริสต์ เพื่อว่าเราจะพ้นผิดได้โดยการเชื่อในพระคริสต์ ไม่ใช่โดยการปฏิบัติตามกฎบัญญัติ ด้วยว่าไม่มีใครที่จะพ้นผิดได้จากการปฏิบัติตามกฎบัญญัติ
- อิสยาห์ 53:11 - เมื่อจิตวิญญาณของพระองค์ทนทุกข์แล้ว พระองค์จะเห็นผลที่ได้รับและจะพอใจ ผู้รับใช้ของเราเป็นผู้มีความชอบธรรม พระองค์จะทำให้คนจำนวนมากพ้นผิดโดยความเข้าใจอันลึกซึ้งของพระองค์ และจะแบกรับบาปของพวกเขา
- โรม 4:5 - อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่ได้อาศัยการปฏิบัติตน แต่ได้วางใจพระเจ้าผู้โปรดให้คนชั่วร้ายพ้นผิด จึงนับได้ว่าความเชื่อของเขาเป็นความชอบธรรม
- โรม 4:6 - ดาวิดกล่าวไว้เช่นเดียวกันว่า ผู้เป็นสุขก็คือ คนที่พระเจ้านับว่าเขามีความชอบธรรมโดยไม่ได้อาศัยการปฏิบัติตน
- โรม 1:17 - ด้วยว่าข่าวประเสริฐชี้ให้เห็นว่า พระเจ้าให้มนุษย์มีความชอบธรรมได้อย่างไร นั่นก็คือ โดยการมีความเชื่อตั้งแต่ต้นจนจบ ตามที่มีบันทึกไว้ว่า “ผู้มีความชอบธรรมจะมีชีวิตได้โดยความเชื่อ”
- โรม 4:13 - อับราฮัมและบรรดาผู้สืบเชื้อสายของท่าน ได้รับพระสัญญาว่าจะได้ทั้งโลกเป็นมรดก ก็เพราะมีความชอบธรรมอันเนื่องมาจากความเชื่อ ไม่ใช่มาจากกฎบัญญัติ
- โรม 4:14 - ถ้าหากว่าบรรดาผู้ที่ดำรงชีวิตด้วยกฎบัญญัติเป็นผู้รับมรดกแล้ว ความเชื่อก็ไม่มีความหมาย และพระสัญญาก็ไม่มีค่าเลย
- โรม 4:15 - ด้วยว่ากฎบัญญัตินำการลงโทษ และที่ใดไม่มีกฎ ที่นั่นก็ไม่มีการละเมิดกฎ
- 1 โครินธ์ 1:30 - แต่เราอยู่ในพระเยซูคริสต์ได้ก็เพราะพระองค์ พระเจ้าโปรดให้เรามีปัญญาและความชอบธรรมได้ก็เพราะพระเยซู พระองค์เป็นผู้ชำระเราให้บริสุทธิ์ และไถ่เราไว้ให้พ้นจากบาป
- 2 โครินธ์ 5:21 - พระเจ้าได้ให้พระองค์ผู้ไม่เคยกระทำบาปมาเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปของเรา เพื่อเราจะได้เป็นผู้มีความชอบธรรมของพระเจ้าในพระคริสต์