Brand Logo
  • Bible
  • Resources
  • Plans
  • Contact Us
  • Install App
  • Bible
  • Search
  • Exegesis
  • Parallel Verses
Account
SystemLightDark简体中文香港繁體台灣繁體English
Donate
46:9 TNCV
Parallel Verses
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - จงจดจำสิ่งต่างๆ แต่เดิมเมื่อนานมาแล้ว เราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระอื่นใด เราเป็นพระเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน
  • 新标点和合本 - 你们要追念上古的事。 因为我是 神,并无别神; 我是 神,再没有能比我的。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别的; 我是上帝,没有能与我相比的。
  • 和合本2010(神版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是 神,并无别的; 我是 神,没有能与我相比的。
  • 当代译本 - 你们要记住古时发生的事, 因为我是独一无二的上帝, 我是上帝,没有谁能与我相比。
  • 圣经新译本 - 你们当记念上古以前的事, 因为我是 神,再没有别的神; 我是 神,没有神像我。
  • 中文标准译本 - 你们当记念亘古以来的往事, 因为我是神,别无其二; 我是神,没有谁像我。
  • 现代标点和合本 - 你们要追念上古的事, 因为我是神,并无别神。 我是神,再没有能比我的。
  • 和合本(拼音版) - 你们要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别神; 我是上帝,再没有能比我的。
  • New International Version - Remember the former things, those of long ago; I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me.
  • New International Reader's Version - “Remember what happened in the past. Think about what took place long ago. I am God. There is no other God. I am God. There is no one like me.
  • English Standard Version - remember the former things of old; for I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me,
  • New Living Translation - Remember the things I have done in the past. For I alone am God! I am God, and there is none like me.
  • Christian Standard Bible - Remember what happened long ago, for I am God, and there is no other; I am God, and no one is like me.
  • New American Standard Bible - Remember the former things long past, For I am God, and there is no other; I am God, and there is no one like Me,
  • New King James Version - Remember the former things of old, For I am God, and there is no other; I am God, and there is none like Me,
  • Amplified Bible - Remember [carefully] the former things [which I did] from ages past; For I am God, and there is no one else; I am God, and there is no one like Me,
  • American Standard Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me;
  • King James Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me,
  • New English Translation - Remember what I accomplished in antiquity! Truly I am God, I have no peer; I am God, and there is none like me,
  • World English Bible - Remember the former things of old: for I am God, and there is no other. I am God, and there is none like me.
  • 新標點和合本 - 你們要追念上古的事。 因為我是神,並無別神; 我是神,再沒有能比我的。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是上帝,並無別的; 我是上帝,沒有能與我相比的。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是 神,並無別的; 我是 神,沒有能與我相比的。
  • 當代譯本 - 你們要記住古時發生的事, 因為我是獨一無二的上帝, 我是上帝,沒有誰能與我相比。
  • 聖經新譯本 - 你們當記念上古以前的事, 因為我是 神,再沒有別的神; 我是 神,沒有神像我。
  • 呂振中譯本 - 你們要追念古時以來的往事; 因為只有我是上帝,再沒有 別的神 ; 我是 上帝,沒有誰像我一樣:
  • 中文標準譯本 - 你們當記念亙古以來的往事, 因為我是神,別無其二; 我是神,沒有誰像我。
  • 現代標點和合本 - 你們要追念上古的事, 因為我是神,並無別神。 我是神,再沒有能比我的。
  • 文理和合譯本 - 古昔之事、爾其追溯、我乃上帝、我外無他、我乃上帝、無能比擬、
  • 文理委辦譯本 - 古昔之事、爾可追溯、我乃上帝、無能比儗、我外無他、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 當追念古昔之事、我乃天主、我之外無他、我乃天主、無可比擬、
  • Nueva Versión Internacional - Recuerden las cosas pasadas, aquellas de antaño; yo soy Dios, y no hay ningún otro, yo soy Dios, y no hay nadie igual a mí.
  • 현대인의 성경 - 너희는 오래 전에 있었던 옛일을 기억하라. 나는 하나님이다. 나 외에는 다른 신이 없고 나와 같은 자도 없다.
  • Новый Русский Перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • Восточный перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • La Bible du Semeur 2015 - Rappelez-vous ╵les événements du passé, ╵survenus il y a bien longtemps, car c’est moi qui suis Dieu, il n’y en a pas d’autre. Oui, moi seul, je suis Dieu, et il n’existe rien ╵qui me soit comparable.
  • リビングバイブル - わたしがはっきり何度も、 将来何が起こるか告げてきたことを 忘れてはならない。 わたしだけが神であり、 わたしのような者はいない。
  • Nova Versão Internacional - Lembrem-se das coisas passadas, das coisas muito antigas! Eu sou Deus, e não há nenhum outro; eu sou Deus, e não há nenhum como eu.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Hãy nhớ lại những điều Ta đã làm trong quá khứ. Vì Ta là Đức Chúa Trời! Ta là Đức Chúa Trời, và không ai giống như Ta.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - จง​จำ​เหตุการณ์​ต่างๆ ที่​ผ่าน​มา เพราะ​เรา​เป็น​พระ​เจ้า และ​ไม่​มี​ผู้​อื่น​อีก เรา​เป็น​พระ​เจ้า และ​ไม่​มี​ผู้​ใด​ที่​เป็น​เหมือน​เรา
Cross Reference
  • อิสยาห์ 45:14 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ผลผลิตของอียิปต์ สินค้าของคูช และของคนเสบาร่างสูง จะเป็นของเจ้า คนเหล่านี้จะมาติดสอยห้อยตามเจ้า ทั้งๆ ที่ยังติดโซ่ตรวน พวกเขาจะมาหมอบกราบตรงหน้าเจ้า และอ้อนวอนเจ้าว่า ‘แน่ทีเดียว พระเจ้าทรงอยู่กับท่าน ไม่มีใครอื่น ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก’ ”
  • อิสยาห์ 45:5 - เราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีใครอื่น นอกจากเราแล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใด เราจะทำให้เจ้าเข้มแข็งขึ้น แม้ว่าเจ้าจะไม่รู้จักเรา
  • อิสยาห์ 45:6 - เพื่อจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จดที่ดวงอาทิตย์ตก มนุษย์จะรู้ว่าไม่มีใครอื่นนอกจากเรา เราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีใครอื่น
  • เนหะมีย์ 9:7 - “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพระยาห์เวห์ ผู้ทรงเลือกสรรอับรามและนำเขาออกมาจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดียและประทานนามแก่เขาว่าอับราฮัม
  • เนหะมีย์ 9:8 - พระองค์ทรงเห็นว่าเขามีใจซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และทรงทำพันธสัญญากับเขาว่าจะประทานดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวเยบุส และชาวเกอร์กาชีแก่วงศ์วานของเขา พระองค์ทรงทำตามพระสัญญาเพราะพระองค์ทรงชอบธรรม
  • เนหะมีย์ 9:9 - “พระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ยากของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายในอียิปต์ ทรงฟังคำร้องทูลของพวกเขาที่ทะเลแดง
  • เนหะมีย์ 9:10 - พระองค์ทรงแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ เพื่อต่อสู้กับฟาโรห์ เหล่าข้าราชบริพาร และชาวอียิปต์ทั้งปวง เพราะทรงทราบว่าชาวอียิปต์ปฏิบัติต่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายอย่างเย่อหยิ่ง พระองค์ทรงทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้
  • เนหะมีย์ 9:11 - พระองค์ทรงแยกทะเลออกเพื่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้เดินข้ามบนดินแห้ง แต่พระองค์ทรงกวาดศัตรูที่รุกไล่มาลงในห้วงน้ำลึก เหมือนก้อนหินตกสู่กระแสน้ำเชี่ยว
  • เนหะมีย์ 9:12 - พระองค์ทรงนำพวกเขาด้วยเสาเมฆในเวลากลางวันและเสาเพลิงในเวลากลางคืนเพื่อให้ความสว่างตามทางที่จะไป
  • เนหะมีย์ 9:13 - “พระองค์เสด็จลงมาเหนือภูเขาซีนายและตรัสกับเขาเหล่านั้นจากฟ้าสวรรค์ และประทานกฎระเบียบกับบทบัญญัติที่เที่ยงตรงและถูกต้องและประทานกฎหมายกับพระบัญชาอันดีงาม
  • เนหะมีย์ 9:14 - พระองค์ทรงสอนพวกเขาให้รู้จักสะบาโตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และประทานพระบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:15 - ยามพวกเขาหิว พระองค์ประทานอาหารจากฟ้าสวรรค์ ยามพวกเขากระหายก็ประทานน้ำจากศิลา พระองค์ทรงบัญชาให้พวกเขาเข้าไปยึดครองดินแดนซึ่งพระองค์ได้ทรงยกพระหัตถ์ปฏิญาณมอบให้แก่พวกเขาแล้ว
  • เนหะมีย์ 9:16 - “แต่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเย่อหยิ่งและดื้อดึง ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:17 - ไม่ยอมรับฟัง และไม่ได้จดจำการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงทำในหมู่พวกเขา แต่กลับใจแข็งและคิดคดทรยศ และตั้งผู้นำคนหนึ่งเพื่อพากันกลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้อภัย ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรัก ฉะนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทรงทอดทิ้งพวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:18 - แม้แต่ขณะที่พวกเขาได้หล่อเทวรูปลูกวัวขึ้นสำหรับตนและประกาศว่า ‘นี่คือพระเจ้าผู้พาเราออกมาจากอียิปต์’ หรือขณะที่พวกเขาหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง
  • เนหะมีย์ 9:19 - “เนื่องด้วยพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ พระองค์ไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเขาไว้ในถิ่นกันดาร เสาเมฆยังคงนำพวกเขาไปตามทางในเวลากลางวันและเสาเพลิงยังส่องทางตลอดค่ำคืน
  • เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณล้ำเลิศมาสั่งสอนพวกเขา พระองค์ไม่ได้ให้มานาของพระองค์ขาดจากปากของพวกเขาและพระองค์ประทานน้ำดับความกระหายให้พวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:21 - ตลอดสี่สิบปีพระองค์ทรงเลี้ยงดูพวกเขาในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ขัดสนสิ่งใด เสื้อผ้าของเขาไม่ได้เก่าคร่ำคร่าและเท้าก็ไม่ได้บวมช้ำ
  • เนหะมีย์ 9:22 - “พระองค์ทรงมอบอาณาจักรและชนชาติต่างๆ แก่พวกเขา ทรงแบ่งสรรปันส่วนให้แม้แต่ชายแดนที่ไกลโพ้น พวกเขายึดครองดินแดนของกษัตริย์สิโหนแห่งเฮชโบน และดินแดนของกษัตริย์โอกแห่งบาชาน
  • เนหะมีย์ 9:23 - พระองค์ทรงโปรดให้พวกเขามีลูกหลานมากมายเหมือนดวงดาวในท้องฟ้า และนำพวกเขามายังดินแดนซึ่งพระองค์ตรัสสั่งบรรพบุรุษของพวกเขาให้เข้าครอบครอง
  • เนหะมีย์ 9:24 - ลูกหลานของพวกเขาเข้ายึดครองดินแดนนั้น พระองค์ทรงปราบชาวคานาอันซึ่งอยู่ในดินแดนนั้นลงต่อหน้าพวกเขา ทรงมอบชาวคานาอัน รวมทั้งกษัตริย์และประชาชนในดินแดนนั้นแก่พวกเขา แล้วแต่พวกเขาจะจัดการตามใจชอบ
  • เนหะมีย์ 9:25 - พวกเขายึดหัวเมืองป้อมปราการและดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ ครอบครองบ้านเรือนที่มีแต่ของดีๆ ทั้งนั้น มีบ่อน้ำที่ขุดแล้ว สวนองุ่น สวนมะกอก และผลหมากรากไม้อุดมสมบูรณ์ พวกเขาจึงอิ่มหนำและอิ่มเอมกับความประเสริฐเลิศล้ำของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:26 - “แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังและกบฏต่อพระองค์ ทอดทิ้งบทบัญญัติ สังหารบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ซึ่งเตือนให้พวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ พวกเขาหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
  • เนหะมีย์ 9:27 - ฉะนั้นพระองค์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของศัตรูผู้ที่กดขี่ข่มเหงพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาถูกกดขี่ข่มเหง พวกเขาก็ร้องทูลพระองค์ พระองค์ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และโปรดประทานผู้ช่วยกู้มาช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของเหล่าศัตรูด้วยความเอ็นดูสงสาร
  • เนหะมีย์ 9:28 - “แต่พอพวกเขาได้พักสงบ พวกเขาก็ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระองค์อีก พระองค์จึงทรงทิ้งพวกเขาไว้ในมือของศัตรู ให้ศัตรูปกครองพวกเขา และเมื่อพวกเขาร้องทูลพระองค์อีก พระองค์ก็ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และทรงกอบกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเอ็นดูสงสาร
  • เนหะมีย์ 9:29 - “พระองค์ทรงเตือนให้พวกเขาหันกลับมายังบทบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาหยิ่งผยองและไม่เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อข้อปฏิบัติของพระองค์ซึ่งถ้าผู้ใดปฏิบัติตามจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาหันหลังให้พระองค์อย่างดื้อรั้นอวดดีและไม่ยอมฟัง
  • เนหะมีย์ 9:30 - พระองค์ทรงอดกลั้นพระทัยต่อพวกเขามาตลอดหลายปี พระองค์ทรงเตือนสติพวกเขาโดยพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แต่พวกเขาก็ไม่แยแส พระองค์จึงทรงมอบพวกเขาไว้ในเงื้อมมือของชนชาติเพื่อนบ้าน
  • เนหะมีย์ 9:31 - แต่ด้วยพระกรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง พระองค์ไม่ได้ทรงทำลายพวกเขาจนย่อยยับหรือทอดทิ้งพวกเขาไป เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและพระเมตตา
  • เนหะมีย์ 9:32 - “ฉะนั้นบัดนี้ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงขาม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักของพระองค์ ขออย่าให้ความทุกข์ยากลำบากทั้งปวงนี้เป็นสิ่งเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระองค์ ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายกับบรรดากษัตริย์และเหล่าผู้นำกับบรรดาปุโรหิต และผู้เผยพระวจนะทั้งหลายของเรากับบรรพบุรุษของเราและปวงประชากรของพระองค์ตั้งแต่สมัยเหล่ากษัตริย์แห่งอัสซีเรียจนถึงวันนี้
  • เนหะมีย์ 9:33 - ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายนั้น พระองค์ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ขณะที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิด
  • เนหะมีย์ 9:34 - บรรดากษัตริย์ ผู้นำ ปุโรหิต และบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจพระบัญชาและพระดำรัสเตือนของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:35 - แม้ขณะที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขา ได้ชื่นชมความดีเลิศที่ทรงมีต่อพวกเขาในดินแดนอันกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ที่ทรงประทาน พวกเขาไม่ได้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์หรือหันจากทางชั่วของพวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:36 - “แต่ดูเถิด วันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นทาสในดินแดนซึ่งทรงประทานแก่เหล่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อพวกเขาจะได้อิ่มเอมกับพืชผลและสิ่งดีงามทั้งปวงของดินแดนนั้น
  • เนหะมีย์ 9:37 - เนื่องจากบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผลผลิตอันมั่งคั่งจึงตกเป็นของบรรดากษัตริย์ซึ่งพระองค์ทรงให้ปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย เขาเหล่านั้นใช้อำนาจเหนือร่างกายและเหนือฝูงสัตว์ของข้าพระองค์ทั้งหลายตามใจชอบ ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์ยากแสนสาหัส
  • อิสยาห์ 46:5 - “เจ้าจะเปรียบเราและถือว่าเราเท่าเทียมกับผู้ใด? เจ้าจะหาผู้ใดมาเทียบเราได้?
  • อิสยาห์ 45:18 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงปั้นแต่งและสร้างโลก ทรงสถาปนามันไว้ พระองค์ไม่ได้ทรงสร้างให้เป็นที่เวิ้งว้างว่างเปล่า แต่ทรงสร้างโลกให้เป็นที่อยู่อาศัย พระองค์ตรัสว่า “เราคือพระยาห์เวห์ และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
  • เยเรมีย์ 23:7 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ฉะนั้นเมื่อเวลานั้นมาถึง ประชากรจะไม่พูดอีกต่อไปว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงนำชนอิสราเอลออกมาจากอียิปต์นั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’
  • เยเรมีย์ 23:8 - แต่จะพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงนำวงศ์วานอิสราเอลออกมาจากดินแดนทางเหนือและจากทุกประเทศที่พระองค์ทรงเนรเทศเขาไปนั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’ และพวกเขาจะอาศัยอยู่ในดินแดนของตนเอง”
  • สดุดี 105:1 - จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า และร้องทูลออกพระนามของพระองค์ ให้ประชาชาติทั้งหลายได้รู้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำ
  • สดุดี 105:2 - จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องสรรเสริญถวายพระองค์ บอกถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์
  • สดุดี 105:3 - จงเทิดทูนพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ให้จิตใจของผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าชื่นชมยินดี
  • สดุดี 105:4 - จงหมายพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระกำลังของพระองค์ จงแสวงหาพระพักตร์พระองค์เสมอ
  • สดุดี 105:5 - จงระลึกถึงปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ถึงการอัศจรรย์และคำพิพากษาที่พระองค์ทรงประกาศ
  • สดุดี 105:6 - วงศ์วานอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ย ลูกหลานของยาโคบที่ทรงเลือกสรรเอ๋ย
  • สดุดี 105:7 - พระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา คำพิพากษาของพระองค์อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก
  • สดุดี 105:8 - พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาล ทรงระลึกถึงพระดำรัสที่ทรงบัญชาไว้ตลอดพันชั่วอายุคน
  • สดุดี 105:9 - พันธสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับอับราฮัม คำปฏิญาณที่พระองค์ทรงสัญญากับอิสอัค
  • สดุดี 105:10 - พระองค์ทรงยืนยันต่อยาโคบเป็นกฎเกณฑ์ ต่ออิสราเอลเป็นพันธสัญญานิรันดร์
  • สดุดี 105:11 - “เราจะยกดินแดนคานาอันให้เจ้า ให้เป็นมรดกของเจ้าทั้งหลาย”
  • สดุดี 105:12 - เมื่ออิสราเอลยังมีจำนวนน้อยนัก น้อยเหลือเกิน และเป็นเพียงคนแปลกหน้าในดินแดนนั้น
  • สดุดี 105:13 - พวกเขาระเหเร่ร่อนจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง จากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง
  • สดุดี 105:14 - พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดข่มเหงรังแกเขา เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย
  • สดุดี 105:15 - “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมตั้งไว้ อย่าทำอันตรายใดๆ แก่เหล่าผู้เผยพระวจนะของเรา”
  • สดุดี 105:16 - พระองค์ทรงบัญชาให้เกิดการกันดารอาหารในดินแดนนั้น และทำลายเสบียงอาหารทั้งสิ้นของเขา
  • สดุดี 105:17 - และพระองค์ทรงส่งชายคนหนึ่งไปล่วงหน้าพวกเขา โยเซฟถูกขายไปเป็นทาส
  • สดุดี 105:18 - เท้าของเขาฟกช้ำเพราะถูกตีตรวน คอของเขาถูกค้ำอยู่ในคาเหล็ก
  • สดุดี 105:19 - ตราบจนสิ่งที่เขาบอกไว้เป็นจริงขึ้นมา ตราบจนพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าพิสูจน์ว่าเขาพูดจริง
  • สดุดี 105:20 - ฟาโรห์ได้ส่งคนมาปล่อยตัวเขา ประมุขของประชาชนปล่อยเขาเป็นอิสระ
  • สดุดี 105:21 - ฟาโรห์ได้ตั้งเขาให้เป็นนายเหนือราชสำนัก เป็นผู้ดูแลทุกสิ่งที่พระองค์ทรงครอบครอง
  • สดุดี 105:22 - เพื่อชี้แนะเจ้านายทั้งหลายตามใจชอบ และสั่งสอนปัญญาให้กับที่ปรึกษาของกษัตริย์
  • สดุดี 105:23 - แล้วอิสราเอลเข้ามาอยู่ในอียิปต์ ยาโคบมาเป็นคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม
  • สดุดี 105:24 - พระองค์ทรงทำให้ประชากรของพระองค์มีลูกหลานมากมาย พระองค์ทรงทำให้พวกเขามีจำนวนมากเกินไปสำหรับศัตรู
  • สดุดี 105:25 - ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงเปลี่ยนจิตใจของพวกเขาให้เกลียดประชากรของพระองค์ ให้คบคิดกันต่อสู้กับผู้รับใช้ของพระองค์
  • สดุดี 105:26 - พระองค์ทรงส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์มา พร้อมกับอาโรนผู้ซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรร
  • สดุดี 105:27 - ทั้งสองแสดงหมายสำคัญของพระองค์ท่ามกลางพวกเขา แสดงปาฏิหาริย์ของพระองค์ในดินแดนของฮาม
  • สดุดี 105:28 - พระองค์ทรงส่งความมืดมากระทำให้มืดมิดทั่วแดน ไม่ใช่เพราะพวกเขาดึงดันขัดขืนพระดำรัสของพระองค์หรือ?
  • สดุดี 105:29 - พระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำของพวกเขาให้กลายเป็นเลือด ทำให้ปลาตายหมด
  • สดุดี 105:30 - ดินแดนของพวกเขาเต็มไปด้วยกบ ซึ่งเข้าไปถึงห้องนอนของบรรดาเจ้านาย
  • สดุดี 105:31 - พระองค์ตรัส ฝูงเหลือบและริ้น ก็มาทั่วดินแดนของพวกเขา
  • สดุดี 105:32 - พระองค์ทรงเปลี่ยนฝนให้กลายเป็นลูกเห็บ และฟ้าคำรนทั่วดินแดนนั้น
  • สดุดี 105:33 - พระองค์ทรงล้มเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของพวกเขาลงราบคาบ และโค่นต้นไม้ในดินแดนของพวกเขาระเนระนาด
  • สดุดี 105:34 - พระองค์ตรัส ฝูงตั๊กแตนก็มา มืดฟ้ามัวดิน
  • สดุดี 105:35 - มันกัดกินทุกอย่างที่เขียวชอุ่มในแผ่นดิน กัดกินผลิตผลทั้งหมดจากพื้นดิน
  • สดุดี 105:36 - จากนั้นพระองค์ทรงประหารลูกหัวปีในดินแดนของเขา ซึ่งเป็นผลแรกจากวัยหนุ่มของเขา
  • สดุดี 105:37 - พระองค์ทรงนำอิสราเอลออกมาพร้อมกับเงินและทอง ไม่มีใครสักคนในตระกูลต่างๆ ที่อิดออดลังเล
  • สดุดี 105:38 - อียิปต์เปรมปรีดิ์เมื่อพวกเขาออกไป เพราะคร้ามกลัวอิสราเอลยิ่งนัก
  • สดุดี 105:39 - พระองค์ทรงแผ่เมฆเป็นร่มกำบังให้ และประทานไฟให้แสงสว่างในยามค่ำคืน
  • สดุดี 105:40 - พวกเขาร้องขอเนื้อ พระองค์ก็ทรงส่งนกคุ่มมา พระองค์ทรงเลี้ยงพวกเขาให้อิ่มเอมด้วยอาหารจากสวรรค์
  • สดุดี 105:41 - พระองค์ทรงเปิดศิลา น้ำก็พุ่งออกมา มันไหลดั่งแม่น้ำในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 105:42 - เพราะพระองค์ทรงระลึกถึงพระสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ประทานแก่อับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
  • สดุดี 105:43 - พระองค์จึงทรงนำประชากรของพระองค์ออกมาด้วยความชื่นบาน นำผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรออกมาด้วยเสียงโห่ร้องยินดี
  • สดุดี 105:44 - พระองค์ประทานดินแดนของชนชาติต่างๆ แก่เขา พวกเขาได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ในสิ่งที่คนอื่นลงแรงไว้
  • สดุดี 105:45 - ทั้งนี้เพื่อพวกเขาจะได้รักษาข้อบังคับ และทำตามบทบัญญัติของพระองค์ จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด
  • อิสยาห์ 45:21 - จงแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้น เสนอมาสิ ให้พวกเขาปรึกษาหารือกัน ใครเล่าแจ้งเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้านานแล้ว? ใครเล่าลั่นวาจาไว้ตั้งแต่อดีตกาลนานนม? ไม่ใช่เราผู้เป็นพระยาห์เวห์หรอกหรือ? นอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใด พระเจ้าผู้ชอบธรรมและผู้ช่วยให้รอด ไม่มีใครอื่นนอกจากเรา
  • อิสยาห์ 45:22 - “มวลมนุษย์ทั่วโลก จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้รอด เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
  • สดุดี 78:1 - ประชากรของข้าพเจ้าเอ๋ย จงฟังคำสอนของข้าพเจ้าเถิด จงรับฟังวาจาจากปากของข้าพเจ้า
  • สดุดี 78:2 - ข้าพเจ้าจะเอื้อนเอ่ยคำอุปมา ข้าพเจ้าจะเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้ตั้งแต่โบราณกาล
  • สดุดี 78:3 - สิ่งที่เราได้ยินและได้ทราบ สิ่งที่บรรพบุรุษของเราบอกต่อๆ กันมา
  • สดุดี 78:4 - เราจะไม่ปิดบังไว้จากลูกหลานของพวกเขา จะบอกแก่คนรุ่นต่อมา ถึงบรรดาพระราชกิจอันสมควรแก่การสรรเสริญขององค์พระผู้เป็นเจ้า ถึงฤทธานุภาพของพระองค์และการอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงกระทำ
  • สดุดี 78:5 - พระองค์ทรงวางกฎเกณฑ์สำหรับยาโคบ และตั้งบทบัญญัติในอิสราเอล ซึ่งทรงบัญชาบรรพบุรุษของเรา ให้สอนลูกหลานของพวกเขา
  • สดุดี 78:6 - เพื่อชนรุ่นหลังจะได้รู้ แม้แต่ลูกหลานที่จะเกิดมา และถึงคราวที่พวกเขาจะต้องบอกลูกหลานของตนต่อไป
  • สดุดี 78:7 - เพื่อพวกเขาจะได้วางใจในพระเจ้า และไม่ลืมสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ และจะปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์
  • สดุดี 78:8 - พวกเขาจะได้ไม่ต้องเป็นเหมือนบรรพบุรุษ ซึ่งดื้อดึงและชอบกบฏ จิตใจไม่จงรักภักดีต่อพระเจ้า จิตวิญญาณไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
  • สดุดี 78:9 - แม้ชนเผ่าเอฟราอิมมีธนูเป็นอาวุธครบครัน ก็ยังหันหลังวิ่งหนีไปในยามสงคราม
  • สดุดี 78:10 - เพราะเขาไม่รักษาพันธสัญญาของพระเจ้า ไม่ยอมดำเนินชีวิตตามบทบัญญัติของพระองค์
  • สดุดี 78:11 - เขาลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ ลืมการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ได้ทรงสำแดงแก่เขา
  • สดุดี 78:12 - พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตาบรรพบุรุษของเขา ในดินแดนอียิปต์ ในเขตแดนโศอัน
  • สดุดี 78:13 - พระองค์ทรงแยกทะเลและนำพวกเขาเดินข้ามไป พระองค์ทรงทำให้น้ำตั้งขึ้นเป็นกำแพง
  • สดุดี 78:14 - พระองค์ทรงนำเขาด้วยเมฆในยามกลางวัน และด้วยแสงจากไฟในยามกลางคืน
  • สดุดี 78:15 - พระองค์ทรงแยกศิลาออกในถิ่นกันดาร ประทานน้ำพุ่งขึ้นมามากมายเหมือนทะเลให้เขาดื่ม
  • สดุดี 78:16 - พระองค์ทรงทำให้ธารน้ำไหลออกมาจากศิลา และให้น้ำไหลรินดั่งแม่น้ำ
  • สดุดี 78:17 - ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อพระองค์ กบฏต่อองค์ผู้สูงสุดในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 78:18 - พวกเขาจงใจลองดีกับพระเจ้า โดยเรียกร้องอาหารที่อยากกิน
  • สดุดี 78:19 - เขาต่อว่าพระเจ้าว่า “พระเจ้าทรงจัดสำรับ ในถิ่นกันดารได้หรือ?
  • สดุดี 78:20 - เมื่อทรงตีหิน น้ำก็พุ่งออกมา ลำธารไหลล้น แต่พระองค์จะประทานอาหารให้พวกเราได้ด้วยหรือ? พระองค์จะประทานเนื้อให้คนของพระองค์ได้ด้วยหรือ?”
  • สดุดี 78:21 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยิน พระองค์ก็กริ้วยิ่งนัก เพลิงของพระองค์เผาผลาญยาโคบ พระพิโรธพลุ่งขึ้นต่อสู้อิสราเอล
  • สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อในพระเจ้า หรือไว้วางใจว่าพระองค์จะทรงช่วยกู้ได้
  • สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงบัญชาฟ้าเบื้องบน และทรงเปิดประตูสวรรค์
  • สดุดี 78:24 - พระองค์ทรงให้มานาโปรยปรายลงมาเป็นอาหารของพวกเขา พระองค์ประทานธัญญาหารจากฟ้าสวรรค์แก่พวกเขา
  • สดุดี 78:25 - มนุษย์ได้กินอาหารของทูตสวรรค์ พระองค์ประทานอาหารแก่พวกเขาจนอิ่มหนำ
  • สดุดี 78:26 - พระองค์ทรงให้ลมตะวันออกมาจากฟ้าสวรรค์ และทรงนำลมใต้มาโดยพระเดชานุภาพ
  • สดุดี 78:27 - พระองค์ทรงให้เนื้อตกลงมามากมายดั่งฝุ่น คือฝูงนกคลาคล่ำดั่งเม็ดทรายที่ชายทะเล
  • สดุดี 78:28 - พระองค์ทรงกระทำให้นกเหล่านั้นลงมาที่ค่ายพักแรม รอบๆ เต็นท์ของพวกเขา
  • สดุดี 78:29 - พวกเขาได้รับประทานจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ประทานให้จนสมอยาก
  • สดุดี 78:30 - แต่ก่อนที่พวกเขาจะอิ่ม ขณะที่เนื้อยังคาปากอยู่
  • สดุดี 78:31 - พระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อพวกเขา พระองค์ทรงประหารคนกำยำล่ำสันที่สุดของพวกเขา และทรงสังหารคนหนุ่มของอิสราเอล
  • สดุดี 78:32 - ทั้งๆ ที่เห็นทั้งหมดนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อไป ทั้งๆที่เห็นการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
  • สดุดี 78:33 - ดังนั้นพระองค์จึงทรงทำให้วันคืนของเขาจบลงอย่างสูญเปล่า และทำให้ปีเดือนของเขาจบลงด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
  • สดุดี 78:34 - เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าประหารพวกเขา พวกเขาจะแสวงหาพระองค์ พวกเขาจะกระตือรือร้นหวนกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง
  • สดุดี 78:35 - พวกเขาระลึกได้ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ระลึกได้ว่าพระเจ้าผู้สูงสุดทรงเป็นพระผู้ไถ่ของพวกเขา
  • สดุดี 78:36 - แต่แล้วพวกเขาจะยกยอพระองค์ด้วยลมปาก มุสาต่อพระองค์ด้วยลิ้นของพวกเขา
  • สดุดี 78:37 - จิตใจของพวกเขาไม่ได้จงรักภักดีต่อพระองค์ พวกเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์
  • สดุดี 78:38 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงเมตตากรุณา พระองค์ทรงอภัยความชั่วช้าของพวกเขา และไม่ได้ทำลายล้างพวกเขาเสียหมด หลายต่อหลายครั้งพระองค์ทรงยับยั้งความกริ้ว ไม่ให้พระพิโรธพลุ่งขึ้นเต็มที่
  • สดุดี 78:39 - พระองค์ทรงระลึกว่าพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ เป็นแค่ลมวูบหนึ่ง ซึ่งผ่านไปแล้วไม่หวนกลับมา
  • สดุดี 78:40 - พวกเขากบฏต่อพระองค์ในถิ่นกันดาร และกระทำให้พระองค์เศร้าพระทัยในดินแดนร้างเปล่าบ่อยเหลือเกิน!
  • สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า พวกยั่วยุองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
  • สดุดี 78:42 - พวกเขาไม่ได้นึกถึงพระเดชานุภาพ ในวันที่พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากผู้ข่มเหงรังแก
  • สดุดี 78:43 - ในวันที่พระองค์ทรงสำแดงหมายสำคัญต่างๆ ในอียิปต์ ทรงสำแดงปาฏิหาริย์ต่างๆ ในดินแดนโศอัน
  • สดุดี 78:44 - พระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเลือด จนไม่มีใครอาจดื่มน้ำจากธารน้ำได้
  • สดุดี 78:45 - พระองค์ทรงส่งฝูงเหลือบมาเล่นงานพวกเขา และทรงส่งฝูงกบมาทำลายล้างพวกเขา
  • สดุดี 78:46 - พระองค์ทรงยกพืชผลของพวกเขาให้แก่ตั๊กแตน ทรงยกผลิตผลของพวกเขาให้แก่ฝูงตั๊กแตน
  • สดุดี 78:47 - พระองค์ทรงให้ลูกเห็บทำลายเถาองุ่นของพวกเขา และทรงให้น้ำค้างแข็งทำลายต้นมะเดื่อของพวกเขา
  • สดุดี 78:48 - พระองค์ทรงให้ลูกเห็บจัดการกับฝูงวัวของพวกเขา ทรงให้ฟ้าผ่าจัดการกับฝูงปศุสัตว์ของพวกเขา
  • สดุดี 78:49 - พระองค์ทรงระบายความกริ้วอันเกรี้ยวกราด ทรงระบายพระพิโรธ ความขุ่นเคืองพระทัย และการเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขา ทรงส่งเหล่าทูตสวรรค์ผู้ล้างผลาญมาลงโทษพวกเขา
  • สดุดี 78:50 - พระองค์ทรงเตรียมทางสำหรับพระพิโรธของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงไว้ชีวิตพวกเขา แต่ทรงหยิบยื่นพวกเขาให้แก่โรคระบาด
  • สดุดี 78:51 - พระองค์ทรงประหารลูกหัวปีทั้งสิ้นในอียิปต์ คือผลแรกแห่งวัยฉกรรจ์ในเต็นท์ของฮาม
  • สดุดี 78:52 - แต่พระองค์ทรงนำประชากรของพระองค์ออกมาอย่างฝูงแกะ พระองค์ทรงนำพวกเขาดั่งนำแกะผ่านถิ่นกันดาร
  • สดุดี 78:53 - พระองค์ทรงนำพวกเขามาอย่างปลอดภัย พวกเขาจึงไม่หวาดหวั่น แต่น้ำทะเลซัดท่วมศัตรูของพวกเขา
  • สดุดี 78:54 - ดังนั้นพระองค์ทรงนำพวกเขามาถึงเขตดินแดนบริสุทธิ์ของพระองค์ มายังดินแดนเทือกเขาซึ่งได้มาโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์
  • สดุดี 78:55 - พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และแบ่งสรรปันส่วนดินแดนให้พวกเขาเป็นมรดก พระองค์ทรงให้เผ่าต่างๆ ของอิสราเอลตั้งถิ่นฐานในบ้านของคนเหล่านั้น
  • สดุดี 78:56 - แต่พวกเขาก็ยังลองดีกับพระเจ้า และกบฏต่อองค์ผู้สูงสุด พวกเขาไม่ยอมปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์
  • สดุดี 78:57 - เช่นเดียวกับบรรพบุรุษ พวกเขาไม่มีความจงรักภักดีและไม่มีความซื่อสัตย์ เหมือนคันธนูบิดที่ไว้ใจไม่ได้
  • สดุดี 78:58 - พวกเขายั่วยุพระพิโรธด้วยสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย พวกเขากระตุ้นความหึงหวงของพระองค์ด้วยรูปเคารพต่างๆ
  • สดุดี 78:59 - เมื่อพระเจ้าทรงได้ยิน พระองค์ก็ทรงพระพิโรธยิ่งนัก พระองค์ไม่ทรงยอมรับอิสราเอลเลย
  • สดุดี 78:60 - พระองค์ทรงละทิ้งพลับพลาแห่งชิโลห์ ที่ซึ่งพระองค์ประทับท่ามกลางมนุษย์
  • สดุดี 78:61 - และทรงยินยอมให้หีบพันธสัญญาของพระองค์ถูกยึดไป ทรงหยิบยื่นสง่าราศีของพระองค์ให้ตกอยู่ในมือของศัตรู
  • สดุดี 78:62 - พระองค์ทรงกระทำให้ประชากรของพระองค์ตกเป็นเหยื่อของคมดาบ พระองค์ทรงพระพิโรธต่อผู้ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ยิ่งนัก
  • สดุดี 78:63 - ไฟเผาผลาญหนุ่มฉกรรจ์ ส่วนหญิงสาวไม่มีเพลงสมรส
  • สดุดี 78:64 - เหล่าปุโรหิตถูกประหารด้วยดาบ และภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่สามารถร้องไห้ไว้ทุกข์
  • สดุดี 78:65 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลุกขึ้นดั่งตื่นจากบรรทม เหมือนนักรบสร่างจากฤทธิ์เหล้าองุ่น
  • สดุดี 78:66 - พระองค์ทรงรุกไล่ศัตรูของพระองค์ให้ล่าถอยไป พระองค์ทรงส่งพวกเขาไปสู่ความอัปยศนิรันดร์
  • สดุดี 78:67 - แล้วพระองค์ทรงปฏิเสธเต็นท์ของโยเซฟ พระองค์ไม่ได้ทรงเลือกชนเผ่าเอฟราอิม
  • สดุดี 78:68 - แต่พระองค์ทรงเลือกเผ่ายูดาห์ และภูเขาศิโยนที่พระองค์ทรงรัก
  • สดุดี 78:69 - พระองค์ทรงสร้างสถานนมัสการของพระองค์ให้สูงตระหง่านและยืนยง ดั่งพื้นปฐพีที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้เป็นนิตย์
  • สดุดี 78:70 - พระองค์ทรงเลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และทรงนำเขาออกมาจากคอกแกะ
  • สดุดี 78:71 - ทรงนำเขาออกจากการเลี้ยงดูฝูงแกะ มาเป็นผู้เลี้ยงดูยาโคบประชากรของพระองค์ เลี้ยงดูอิสราเอลผู้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์
  • สดุดี 78:72 - และดาวิดได้เลี้ยงดูพวกเขาด้วยใจซื่อสัตย์สุจริต นำพวกเขาไปด้วยมืออันเชี่ยวชาญ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 32:7 - จงระลึกถึงวันคืนเก่าก่อน คิดถึงชั่วอายุตั้งแต่อดีตนานมา ถามบิดาของท่านดูเถิด เขาจะบอกท่านได้ ถามบรรดาผู้อาวุโสเถิด พวกเขาจะอธิบายให้ฟัง
  • อิสยาห์ 65:17 - “ดูเถิด เราจะสร้างฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ จะไม่มีใครจดจำหรือนึกถึงสิ่งเก่าอีกต่อไป
  • ดาเนียล 9:6 - ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งกล่าวในพระนามของพระองค์แก่บรรดากษัตริย์ เจ้านาย บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนประชากรของแผ่นดิน
  • ดาเนียล 9:7 - “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงชอบธรรม แต่ทุกวันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องอับอายขายหน้า ไม่ว่าชาวยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และปวงชนอิสราเอลทั้งใกล้และไกลในประเทศต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไป เพราะเราไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:8 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนบรรดากษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษต้องอัปยศอดสูเพราะได้ทำบาปต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:9 - องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและทรงให้อภัย แม้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายกบฏต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:10 - ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระองค์ประทานผ่านทางผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์
  • ดาเนียล 9:11 - อิสราเอลทั้งปวงได้ล่วงละเมิดบทบัญญัติของพระองค์ และหลงเตลิดไป ไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ “ฉะนั้นคำสาปแช่งและโทษทัณฑ์ทั้งปวงซึ่งบันทึกไว้ในบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงตกแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:12 - พระองค์ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้วว่าจะนำภัยพิบัติยิ่งใหญ่มายังข้าพระองค์ทั้งหลายและผู้ครอบครอง ทั่วใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเสมอเหมือนที่เกิดกับเยรูซาเล็ม
  • ดาเนียล 9:13 - ภัยพิบัติทั้งปวงนี้เกิดกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ตามที่บันทึกไว้แล้วในบทบัญญัติของโมเสส ถึงกระนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้แสวงหาความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายโดยหันกลับจากบาป และไม่ได้ใส่ใจในความจริงของพระองค์เลย
  • ดาเนียล 9:14 - องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงรีรอที่จะนำภัยพิบัตินี้มายังข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงชอบธรรมในทุกสิ่งที่ทรงกระทำ ถึงเพียงนี้แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายยังไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์
  • ดาเนียล 9:15 - “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงนำประชากรของพระองค์ออกจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงอานุภาพและผู้สถาปนานามของพระองค์ซึ่งยืนยงตราบเท่าทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาปไปแล้ว
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26 - “ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระเจ้าแห่งเยชูรุน ผู้ประทับอยู่บนฟ้าสวรรค์เพื่อช่วยท่าน ผู้ประทับเหนือเมฆด้วยพระบารมีของพระองค์
  • อิสยาห์ 42:9 - ดูเถิด สิ่งที่เราลั่นวาจาไว้ตั้งแต่แรกได้เกิดขึ้นแล้ว และเราประกาศสิ่งใหม่ๆ ตั้งแต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้น เราก็ประกาศแก่พวกเจ้าทั้งหลายแล้ว”
  • สดุดี 111:4 - พระองค์ทรงกระทำให้การอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่จดจำไม่รู้ลืม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและทรงเอ็นดูสงสาร
Parallel VersesCross Reference
  • พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - จงจดจำสิ่งต่างๆ แต่เดิมเมื่อนานมาแล้ว เราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระอื่นใด เราเป็นพระเจ้า ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน
  • 新标点和合本 - 你们要追念上古的事。 因为我是 神,并无别神; 我是 神,再没有能比我的。
  • 和合本2010(上帝版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别的; 我是上帝,没有能与我相比的。
  • 和合本2010(神版-简体) - 要追念上古的事, 因为我是 神,并无别的; 我是 神,没有能与我相比的。
  • 当代译本 - 你们要记住古时发生的事, 因为我是独一无二的上帝, 我是上帝,没有谁能与我相比。
  • 圣经新译本 - 你们当记念上古以前的事, 因为我是 神,再没有别的神; 我是 神,没有神像我。
  • 中文标准译本 - 你们当记念亘古以来的往事, 因为我是神,别无其二; 我是神,没有谁像我。
  • 现代标点和合本 - 你们要追念上古的事, 因为我是神,并无别神。 我是神,再没有能比我的。
  • 和合本(拼音版) - 你们要追念上古的事, 因为我是上帝,并无别神; 我是上帝,再没有能比我的。
  • New International Version - Remember the former things, those of long ago; I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me.
  • New International Reader's Version - “Remember what happened in the past. Think about what took place long ago. I am God. There is no other God. I am God. There is no one like me.
  • English Standard Version - remember the former things of old; for I am God, and there is no other; I am God, and there is none like me,
  • New Living Translation - Remember the things I have done in the past. For I alone am God! I am God, and there is none like me.
  • Christian Standard Bible - Remember what happened long ago, for I am God, and there is no other; I am God, and no one is like me.
  • New American Standard Bible - Remember the former things long past, For I am God, and there is no other; I am God, and there is no one like Me,
  • New King James Version - Remember the former things of old, For I am God, and there is no other; I am God, and there is none like Me,
  • Amplified Bible - Remember [carefully] the former things [which I did] from ages past; For I am God, and there is no one else; I am God, and there is no one like Me,
  • American Standard Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me;
  • King James Version - Remember the former things of old: for I am God, and there is none else; I am God, and there is none like me,
  • New English Translation - Remember what I accomplished in antiquity! Truly I am God, I have no peer; I am God, and there is none like me,
  • World English Bible - Remember the former things of old: for I am God, and there is no other. I am God, and there is none like me.
  • 新標點和合本 - 你們要追念上古的事。 因為我是神,並無別神; 我是神,再沒有能比我的。
  • 和合本2010(上帝版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是上帝,並無別的; 我是上帝,沒有能與我相比的。
  • 和合本2010(神版-繁體) - 要追念上古的事, 因為我是 神,並無別的; 我是 神,沒有能與我相比的。
  • 當代譯本 - 你們要記住古時發生的事, 因為我是獨一無二的上帝, 我是上帝,沒有誰能與我相比。
  • 聖經新譯本 - 你們當記念上古以前的事, 因為我是 神,再沒有別的神; 我是 神,沒有神像我。
  • 呂振中譯本 - 你們要追念古時以來的往事; 因為只有我是上帝,再沒有 別的神 ; 我是 上帝,沒有誰像我一樣:
  • 中文標準譯本 - 你們當記念亙古以來的往事, 因為我是神,別無其二; 我是神,沒有誰像我。
  • 現代標點和合本 - 你們要追念上古的事, 因為我是神,並無別神。 我是神,再沒有能比我的。
  • 文理和合譯本 - 古昔之事、爾其追溯、我乃上帝、我外無他、我乃上帝、無能比擬、
  • 文理委辦譯本 - 古昔之事、爾可追溯、我乃上帝、無能比儗、我外無他、
  • 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 當追念古昔之事、我乃天主、我之外無他、我乃天主、無可比擬、
  • Nueva Versión Internacional - Recuerden las cosas pasadas, aquellas de antaño; yo soy Dios, y no hay ningún otro, yo soy Dios, y no hay nadie igual a mí.
  • 현대인의 성경 - 너희는 오래 전에 있었던 옛일을 기억하라. 나는 하나님이다. 나 외에는 다른 신이 없고 나와 같은 자도 없다.
  • Новый Русский Перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • Восточный перевод - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • Восточный перевод, версия с «Аллахом» - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • Восточный перевод, версия для Таджикистана - Вспомните прежние дела, бывшие издревле; Я – Бог, и другого нет, Я – Бог, и нет Мне равного.
  • La Bible du Semeur 2015 - Rappelez-vous ╵les événements du passé, ╵survenus il y a bien longtemps, car c’est moi qui suis Dieu, il n’y en a pas d’autre. Oui, moi seul, je suis Dieu, et il n’existe rien ╵qui me soit comparable.
  • リビングバイブル - わたしがはっきり何度も、 将来何が起こるか告げてきたことを 忘れてはならない。 わたしだけが神であり、 わたしのような者はいない。
  • Nova Versão Internacional - Lembrem-se das coisas passadas, das coisas muito antigas! Eu sou Deus, e não há nenhum outro; eu sou Deus, e não há nenhum como eu.
  • Kinh Thánh Hiện Đại - Hãy nhớ lại những điều Ta đã làm trong quá khứ. Vì Ta là Đức Chúa Trời! Ta là Đức Chúa Trời, và không ai giống như Ta.
  • พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - จง​จำ​เหตุการณ์​ต่างๆ ที่​ผ่าน​มา เพราะ​เรา​เป็น​พระ​เจ้า และ​ไม่​มี​ผู้​อื่น​อีก เรา​เป็น​พระ​เจ้า และ​ไม่​มี​ผู้​ใด​ที่​เป็น​เหมือน​เรา
  • อิสยาห์ 45:14 - องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ผลผลิตของอียิปต์ สินค้าของคูช และของคนเสบาร่างสูง จะเป็นของเจ้า คนเหล่านี้จะมาติดสอยห้อยตามเจ้า ทั้งๆ ที่ยังติดโซ่ตรวน พวกเขาจะมาหมอบกราบตรงหน้าเจ้า และอ้อนวอนเจ้าว่า ‘แน่ทีเดียว พระเจ้าทรงอยู่กับท่าน ไม่มีใครอื่น ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก’ ”
  • อิสยาห์ 45:5 - เราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีใครอื่น นอกจากเราแล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใด เราจะทำให้เจ้าเข้มแข็งขึ้น แม้ว่าเจ้าจะไม่รู้จักเรา
  • อิสยาห์ 45:6 - เพื่อจากที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จดที่ดวงอาทิตย์ตก มนุษย์จะรู้ว่าไม่มีใครอื่นนอกจากเรา เราคือพระยาห์เวห์ ไม่มีใครอื่น
  • เนหะมีย์ 9:7 - “พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าพระยาห์เวห์ ผู้ทรงเลือกสรรอับรามและนำเขาออกมาจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดียและประทานนามแก่เขาว่าอับราฮัม
  • เนหะมีย์ 9:8 - พระองค์ทรงเห็นว่าเขามีใจซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และทรงทำพันธสัญญากับเขาว่าจะประทานดินแดนของชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวเปริสซี ชาวเยบุส และชาวเกอร์กาชีแก่วงศ์วานของเขา พระองค์ทรงทำตามพระสัญญาเพราะพระองค์ทรงชอบธรรม
  • เนหะมีย์ 9:9 - “พระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ยากของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายในอียิปต์ ทรงฟังคำร้องทูลของพวกเขาที่ทะเลแดง
  • เนหะมีย์ 9:10 - พระองค์ทรงแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ เพื่อต่อสู้กับฟาโรห์ เหล่าข้าราชบริพาร และชาวอียิปต์ทั้งปวง เพราะทรงทราบว่าชาวอียิปต์ปฏิบัติต่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายอย่างเย่อหยิ่ง พระองค์ทรงทำให้พระนามของพระองค์เลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้
  • เนหะมีย์ 9:11 - พระองค์ทรงแยกทะเลออกเพื่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายจะได้เดินข้ามบนดินแห้ง แต่พระองค์ทรงกวาดศัตรูที่รุกไล่มาลงในห้วงน้ำลึก เหมือนก้อนหินตกสู่กระแสน้ำเชี่ยว
  • เนหะมีย์ 9:12 - พระองค์ทรงนำพวกเขาด้วยเสาเมฆในเวลากลางวันและเสาเพลิงในเวลากลางคืนเพื่อให้ความสว่างตามทางที่จะไป
  • เนหะมีย์ 9:13 - “พระองค์เสด็จลงมาเหนือภูเขาซีนายและตรัสกับเขาเหล่านั้นจากฟ้าสวรรค์ และประทานกฎระเบียบกับบทบัญญัติที่เที่ยงตรงและถูกต้องและประทานกฎหมายกับพระบัญชาอันดีงาม
  • เนหะมีย์ 9:14 - พระองค์ทรงสอนพวกเขาให้รู้จักสะบาโตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ และประทานพระบัญชา กฎหมาย และบทบัญญัติผ่านทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:15 - ยามพวกเขาหิว พระองค์ประทานอาหารจากฟ้าสวรรค์ ยามพวกเขากระหายก็ประทานน้ำจากศิลา พระองค์ทรงบัญชาให้พวกเขาเข้าไปยึดครองดินแดนซึ่งพระองค์ได้ทรงยกพระหัตถ์ปฏิญาณมอบให้แก่พวกเขาแล้ว
  • เนหะมีย์ 9:16 - “แต่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเย่อหยิ่งและดื้อดึง ไม่ยอมเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:17 - ไม่ยอมรับฟัง และไม่ได้จดจำการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ทรงทำในหมู่พวกเขา แต่กลับใจแข็งและคิดคดทรยศ และตั้งผู้นำคนหนึ่งเพื่อพากันกลับไปเป็นทาสในอียิปต์ แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้อภัย ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและความเอ็นดูสงสาร ทรงพระพิโรธช้าและเปี่ยมด้วยความรัก ฉะนั้นพระองค์จึงไม่ได้ทรงทอดทิ้งพวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:18 - แม้แต่ขณะที่พวกเขาได้หล่อเทวรูปลูกวัวขึ้นสำหรับตนและประกาศว่า ‘นี่คือพระเจ้าผู้พาเราออกมาจากอียิปต์’ หรือขณะที่พวกเขาหมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง
  • เนหะมีย์ 9:19 - “เนื่องด้วยพระกรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ พระองค์ไม่ได้ทรงละทิ้งพวกเขาไว้ในถิ่นกันดาร เสาเมฆยังคงนำพวกเขาไปตามทางในเวลากลางวันและเสาเพลิงยังส่องทางตลอดค่ำคืน
  • เนหะมีย์ 9:20 - พระองค์ประทานพระวิญญาณล้ำเลิศมาสั่งสอนพวกเขา พระองค์ไม่ได้ให้มานาของพระองค์ขาดจากปากของพวกเขาและพระองค์ประทานน้ำดับความกระหายให้พวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:21 - ตลอดสี่สิบปีพระองค์ทรงเลี้ยงดูพวกเขาในถิ่นกันดาร พวกเขาไม่ขัดสนสิ่งใด เสื้อผ้าของเขาไม่ได้เก่าคร่ำคร่าและเท้าก็ไม่ได้บวมช้ำ
  • เนหะมีย์ 9:22 - “พระองค์ทรงมอบอาณาจักรและชนชาติต่างๆ แก่พวกเขา ทรงแบ่งสรรปันส่วนให้แม้แต่ชายแดนที่ไกลโพ้น พวกเขายึดครองดินแดนของกษัตริย์สิโหนแห่งเฮชโบน และดินแดนของกษัตริย์โอกแห่งบาชาน
  • เนหะมีย์ 9:23 - พระองค์ทรงโปรดให้พวกเขามีลูกหลานมากมายเหมือนดวงดาวในท้องฟ้า และนำพวกเขามายังดินแดนซึ่งพระองค์ตรัสสั่งบรรพบุรุษของพวกเขาให้เข้าครอบครอง
  • เนหะมีย์ 9:24 - ลูกหลานของพวกเขาเข้ายึดครองดินแดนนั้น พระองค์ทรงปราบชาวคานาอันซึ่งอยู่ในดินแดนนั้นลงต่อหน้าพวกเขา ทรงมอบชาวคานาอัน รวมทั้งกษัตริย์และประชาชนในดินแดนนั้นแก่พวกเขา แล้วแต่พวกเขาจะจัดการตามใจชอบ
  • เนหะมีย์ 9:25 - พวกเขายึดหัวเมืองป้อมปราการและดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ ครอบครองบ้านเรือนที่มีแต่ของดีๆ ทั้งนั้น มีบ่อน้ำที่ขุดแล้ว สวนองุ่น สวนมะกอก และผลหมากรากไม้อุดมสมบูรณ์ พวกเขาจึงอิ่มหนำและอิ่มเอมกับความประเสริฐเลิศล้ำของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:26 - “แต่พวกเขาไม่เชื่อฟังและกบฏต่อพระองค์ ทอดทิ้งบทบัญญัติ สังหารบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ซึ่งเตือนให้พวกเขาหันกลับมาหาพระองค์ พวกเขาหมิ่นประมาทพระองค์อย่างร้ายแรง
  • เนหะมีย์ 9:27 - ฉะนั้นพระองค์ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของศัตรูผู้ที่กดขี่ข่มเหงพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาถูกกดขี่ข่มเหง พวกเขาก็ร้องทูลพระองค์ พระองค์ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และโปรดประทานผู้ช่วยกู้มาช่วยพวกเขาให้พ้นจากมือของเหล่าศัตรูด้วยความเอ็นดูสงสาร
  • เนหะมีย์ 9:28 - “แต่พอพวกเขาได้พักสงบ พวกเขาก็ทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระองค์อีก พระองค์จึงทรงทิ้งพวกเขาไว้ในมือของศัตรู ให้ศัตรูปกครองพวกเขา และเมื่อพวกเขาร้องทูลพระองค์อีก พระองค์ก็ทรงสดับฟังจากฟ้าสวรรค์และทรงกอบกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความเอ็นดูสงสาร
  • เนหะมีย์ 9:29 - “พระองค์ทรงเตือนให้พวกเขาหันกลับมายังบทบัญญัติของพระองค์ แต่พวกเขาหยิ่งผยองและไม่เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ พวกเขาทำบาปต่อข้อปฏิบัติของพระองค์ซึ่งถ้าผู้ใดปฏิบัติตามจะมีชีวิตอยู่ พวกเขาหันหลังให้พระองค์อย่างดื้อรั้นอวดดีและไม่ยอมฟัง
  • เนหะมีย์ 9:30 - พระองค์ทรงอดกลั้นพระทัยต่อพวกเขามาตลอดหลายปี พระองค์ทรงเตือนสติพวกเขาโดยพระวิญญาณของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะของพระองค์ แต่พวกเขาก็ไม่แยแส พระองค์จึงทรงมอบพวกเขาไว้ในเงื้อมมือของชนชาติเพื่อนบ้าน
  • เนหะมีย์ 9:31 - แต่ด้วยพระกรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง พระองค์ไม่ได้ทรงทำลายพวกเขาจนย่อยยับหรือทอดทิ้งพวกเขาไป เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณและพระเมตตา
  • เนหะมีย์ 9:32 - “ฉะนั้นบัดนี้ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงขาม ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาแห่งความรักของพระองค์ ขออย่าให้ความทุกข์ยากลำบากทั้งปวงนี้เป็นสิ่งเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระองค์ ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายกับบรรดากษัตริย์และเหล่าผู้นำกับบรรดาปุโรหิต และผู้เผยพระวจนะทั้งหลายของเรากับบรรพบุรุษของเราและปวงประชากรของพระองค์ตั้งแต่สมัยเหล่ากษัตริย์แห่งอัสซีเรียจนถึงวันนี้
  • เนหะมีย์ 9:33 - ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลายนั้น พระองค์ทรงเที่ยงธรรม พระองค์ทรงทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ขณะที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิด
  • เนหะมีย์ 9:34 - บรรดากษัตริย์ ผู้นำ ปุโรหิต และบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ พวกเขาไม่ใส่ใจพระบัญชาและพระดำรัสเตือนของพระองค์
  • เนหะมีย์ 9:35 - แม้ขณะที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรของพวกเขา ได้ชื่นชมความดีเลิศที่ทรงมีต่อพวกเขาในดินแดนอันกว้างขวางและอุดมสมบูรณ์ที่ทรงประทาน พวกเขาไม่ได้ปรนนิบัติรับใช้พระองค์หรือหันจากทางชั่วของพวกเขา
  • เนหะมีย์ 9:36 - “แต่ดูเถิด วันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายตกเป็นทาสในดินแดนซึ่งทรงประทานแก่เหล่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อพวกเขาจะได้อิ่มเอมกับพืชผลและสิ่งดีงามทั้งปวงของดินแดนนั้น
  • เนหะมีย์ 9:37 - เนื่องจากบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผลผลิตอันมั่งคั่งจึงตกเป็นของบรรดากษัตริย์ซึ่งพระองค์ทรงให้ปกครองข้าพระองค์ทั้งหลาย เขาเหล่านั้นใช้อำนาจเหนือร่างกายและเหนือฝูงสัตว์ของข้าพระองค์ทั้งหลายตามใจชอบ ข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์ยากแสนสาหัส
  • อิสยาห์ 46:5 - “เจ้าจะเปรียบเราและถือว่าเราเท่าเทียมกับผู้ใด? เจ้าจะหาผู้ใดมาเทียบเราได้?
  • อิสยาห์ 45:18 - องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงปั้นแต่งและสร้างโลก ทรงสถาปนามันไว้ พระองค์ไม่ได้ทรงสร้างให้เป็นที่เวิ้งว้างว่างเปล่า แต่ทรงสร้างโลกให้เป็นที่อยู่อาศัย พระองค์ตรัสว่า “เราคือพระยาห์เวห์ และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
  • เยเรมีย์ 23:7 - องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า “ฉะนั้นเมื่อเวลานั้นมาถึง ประชากรจะไม่พูดอีกต่อไปว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงนำชนอิสราเอลออกมาจากอียิปต์นั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’
  • เยเรมีย์ 23:8 - แต่จะพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงนำวงศ์วานอิสราเอลออกมาจากดินแดนทางเหนือและจากทุกประเทศที่พระองค์ทรงเนรเทศเขาไปนั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด’ และพวกเขาจะอาศัยอยู่ในดินแดนของตนเอง”
  • สดุดี 105:1 - จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า และร้องทูลออกพระนามของพระองค์ ให้ประชาชาติทั้งหลายได้รู้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำ
  • สดุดี 105:2 - จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องสรรเสริญถวายพระองค์ บอกถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์
  • สดุดี 105:3 - จงเทิดทูนพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ ให้จิตใจของผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าชื่นชมยินดี
  • สดุดี 105:4 - จงหมายพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระกำลังของพระองค์ จงแสวงหาพระพักตร์พระองค์เสมอ
  • สดุดี 105:5 - จงระลึกถึงปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงกระทำ ถึงการอัศจรรย์และคำพิพากษาที่พระองค์ทรงประกาศ
  • สดุดี 105:6 - วงศ์วานอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ย ลูกหลานของยาโคบที่ทรงเลือกสรรเอ๋ย
  • สดุดี 105:7 - พระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา คำพิพากษาของพระองค์อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก
  • สดุดี 105:8 - พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาล ทรงระลึกถึงพระดำรัสที่ทรงบัญชาไว้ตลอดพันชั่วอายุคน
  • สดุดี 105:9 - พันธสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับอับราฮัม คำปฏิญาณที่พระองค์ทรงสัญญากับอิสอัค
  • สดุดี 105:10 - พระองค์ทรงยืนยันต่อยาโคบเป็นกฎเกณฑ์ ต่ออิสราเอลเป็นพันธสัญญานิรันดร์
  • สดุดี 105:11 - “เราจะยกดินแดนคานาอันให้เจ้า ให้เป็นมรดกของเจ้าทั้งหลาย”
  • สดุดี 105:12 - เมื่ออิสราเอลยังมีจำนวนน้อยนัก น้อยเหลือเกิน และเป็นเพียงคนแปลกหน้าในดินแดนนั้น
  • สดุดี 105:13 - พวกเขาระเหเร่ร่อนจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง จากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง
  • สดุดี 105:14 - พระองค์ไม่ทรงยอมให้ผู้ใดข่มเหงรังแกเขา เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย
  • สดุดี 105:15 - “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมตั้งไว้ อย่าทำอันตรายใดๆ แก่เหล่าผู้เผยพระวจนะของเรา”
  • สดุดี 105:16 - พระองค์ทรงบัญชาให้เกิดการกันดารอาหารในดินแดนนั้น และทำลายเสบียงอาหารทั้งสิ้นของเขา
  • สดุดี 105:17 - และพระองค์ทรงส่งชายคนหนึ่งไปล่วงหน้าพวกเขา โยเซฟถูกขายไปเป็นทาส
  • สดุดี 105:18 - เท้าของเขาฟกช้ำเพราะถูกตีตรวน คอของเขาถูกค้ำอยู่ในคาเหล็ก
  • สดุดี 105:19 - ตราบจนสิ่งที่เขาบอกไว้เป็นจริงขึ้นมา ตราบจนพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าพิสูจน์ว่าเขาพูดจริง
  • สดุดี 105:20 - ฟาโรห์ได้ส่งคนมาปล่อยตัวเขา ประมุขของประชาชนปล่อยเขาเป็นอิสระ
  • สดุดี 105:21 - ฟาโรห์ได้ตั้งเขาให้เป็นนายเหนือราชสำนัก เป็นผู้ดูแลทุกสิ่งที่พระองค์ทรงครอบครอง
  • สดุดี 105:22 - เพื่อชี้แนะเจ้านายทั้งหลายตามใจชอบ และสั่งสอนปัญญาให้กับที่ปรึกษาของกษัตริย์
  • สดุดี 105:23 - แล้วอิสราเอลเข้ามาอยู่ในอียิปต์ ยาโคบมาเป็นคนต่างด้าวในดินแดนของฮาม
  • สดุดี 105:24 - พระองค์ทรงทำให้ประชากรของพระองค์มีลูกหลานมากมาย พระองค์ทรงทำให้พวกเขามีจำนวนมากเกินไปสำหรับศัตรู
  • สดุดี 105:25 - ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงเปลี่ยนจิตใจของพวกเขาให้เกลียดประชากรของพระองค์ ให้คบคิดกันต่อสู้กับผู้รับใช้ของพระองค์
  • สดุดี 105:26 - พระองค์ทรงส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์มา พร้อมกับอาโรนผู้ซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรร
  • สดุดี 105:27 - ทั้งสองแสดงหมายสำคัญของพระองค์ท่ามกลางพวกเขา แสดงปาฏิหาริย์ของพระองค์ในดินแดนของฮาม
  • สดุดี 105:28 - พระองค์ทรงส่งความมืดมากระทำให้มืดมิดทั่วแดน ไม่ใช่เพราะพวกเขาดึงดันขัดขืนพระดำรัสของพระองค์หรือ?
  • สดุดี 105:29 - พระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำของพวกเขาให้กลายเป็นเลือด ทำให้ปลาตายหมด
  • สดุดี 105:30 - ดินแดนของพวกเขาเต็มไปด้วยกบ ซึ่งเข้าไปถึงห้องนอนของบรรดาเจ้านาย
  • สดุดี 105:31 - พระองค์ตรัส ฝูงเหลือบและริ้น ก็มาทั่วดินแดนของพวกเขา
  • สดุดี 105:32 - พระองค์ทรงเปลี่ยนฝนให้กลายเป็นลูกเห็บ และฟ้าคำรนทั่วดินแดนนั้น
  • สดุดี 105:33 - พระองค์ทรงล้มเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของพวกเขาลงราบคาบ และโค่นต้นไม้ในดินแดนของพวกเขาระเนระนาด
  • สดุดี 105:34 - พระองค์ตรัส ฝูงตั๊กแตนก็มา มืดฟ้ามัวดิน
  • สดุดี 105:35 - มันกัดกินทุกอย่างที่เขียวชอุ่มในแผ่นดิน กัดกินผลิตผลทั้งหมดจากพื้นดิน
  • สดุดี 105:36 - จากนั้นพระองค์ทรงประหารลูกหัวปีในดินแดนของเขา ซึ่งเป็นผลแรกจากวัยหนุ่มของเขา
  • สดุดี 105:37 - พระองค์ทรงนำอิสราเอลออกมาพร้อมกับเงินและทอง ไม่มีใครสักคนในตระกูลต่างๆ ที่อิดออดลังเล
  • สดุดี 105:38 - อียิปต์เปรมปรีดิ์เมื่อพวกเขาออกไป เพราะคร้ามกลัวอิสราเอลยิ่งนัก
  • สดุดี 105:39 - พระองค์ทรงแผ่เมฆเป็นร่มกำบังให้ และประทานไฟให้แสงสว่างในยามค่ำคืน
  • สดุดี 105:40 - พวกเขาร้องขอเนื้อ พระองค์ก็ทรงส่งนกคุ่มมา พระองค์ทรงเลี้ยงพวกเขาให้อิ่มเอมด้วยอาหารจากสวรรค์
  • สดุดี 105:41 - พระองค์ทรงเปิดศิลา น้ำก็พุ่งออกมา มันไหลดั่งแม่น้ำในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 105:42 - เพราะพระองค์ทรงระลึกถึงพระสัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ประทานแก่อับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
  • สดุดี 105:43 - พระองค์จึงทรงนำประชากรของพระองค์ออกมาด้วยความชื่นบาน นำผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรออกมาด้วยเสียงโห่ร้องยินดี
  • สดุดี 105:44 - พระองค์ประทานดินแดนของชนชาติต่างๆ แก่เขา พวกเขาได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ในสิ่งที่คนอื่นลงแรงไว้
  • สดุดี 105:45 - ทั้งนี้เพื่อพวกเขาจะได้รักษาข้อบังคับ และทำตามบทบัญญัติของพระองค์ จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด
  • อิสยาห์ 45:21 - จงแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้น เสนอมาสิ ให้พวกเขาปรึกษาหารือกัน ใครเล่าแจ้งเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้านานแล้ว? ใครเล่าลั่นวาจาไว้ตั้งแต่อดีตกาลนานนม? ไม่ใช่เราผู้เป็นพระยาห์เวห์หรอกหรือ? นอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใด พระเจ้าผู้ชอบธรรมและผู้ช่วยให้รอด ไม่มีใครอื่นนอกจากเรา
  • อิสยาห์ 45:22 - “มวลมนุษย์ทั่วโลก จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้รอด เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
  • สดุดี 78:1 - ประชากรของข้าพเจ้าเอ๋ย จงฟังคำสอนของข้าพเจ้าเถิด จงรับฟังวาจาจากปากของข้าพเจ้า
  • สดุดี 78:2 - ข้าพเจ้าจะเอื้อนเอ่ยคำอุปมา ข้าพเจ้าจะเผยสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้ตั้งแต่โบราณกาล
  • สดุดี 78:3 - สิ่งที่เราได้ยินและได้ทราบ สิ่งที่บรรพบุรุษของเราบอกต่อๆ กันมา
  • สดุดี 78:4 - เราจะไม่ปิดบังไว้จากลูกหลานของพวกเขา จะบอกแก่คนรุ่นต่อมา ถึงบรรดาพระราชกิจอันสมควรแก่การสรรเสริญขององค์พระผู้เป็นเจ้า ถึงฤทธานุภาพของพระองค์และการอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงกระทำ
  • สดุดี 78:5 - พระองค์ทรงวางกฎเกณฑ์สำหรับยาโคบ และตั้งบทบัญญัติในอิสราเอล ซึ่งทรงบัญชาบรรพบุรุษของเรา ให้สอนลูกหลานของพวกเขา
  • สดุดี 78:6 - เพื่อชนรุ่นหลังจะได้รู้ แม้แต่ลูกหลานที่จะเกิดมา และถึงคราวที่พวกเขาจะต้องบอกลูกหลานของตนต่อไป
  • สดุดี 78:7 - เพื่อพวกเขาจะได้วางใจในพระเจ้า และไม่ลืมสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ และจะปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์
  • สดุดี 78:8 - พวกเขาจะได้ไม่ต้องเป็นเหมือนบรรพบุรุษ ซึ่งดื้อดึงและชอบกบฏ จิตใจไม่จงรักภักดีต่อพระเจ้า จิตวิญญาณไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
  • สดุดี 78:9 - แม้ชนเผ่าเอฟราอิมมีธนูเป็นอาวุธครบครัน ก็ยังหันหลังวิ่งหนีไปในยามสงคราม
  • สดุดี 78:10 - เพราะเขาไม่รักษาพันธสัญญาของพระเจ้า ไม่ยอมดำเนินชีวิตตามบทบัญญัติของพระองค์
  • สดุดี 78:11 - เขาลืมสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ ลืมการอัศจรรย์ต่างๆ ที่ได้ทรงสำแดงแก่เขา
  • สดุดี 78:12 - พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตาบรรพบุรุษของเขา ในดินแดนอียิปต์ ในเขตแดนโศอัน
  • สดุดี 78:13 - พระองค์ทรงแยกทะเลและนำพวกเขาเดินข้ามไป พระองค์ทรงทำให้น้ำตั้งขึ้นเป็นกำแพง
  • สดุดี 78:14 - พระองค์ทรงนำเขาด้วยเมฆในยามกลางวัน และด้วยแสงจากไฟในยามกลางคืน
  • สดุดี 78:15 - พระองค์ทรงแยกศิลาออกในถิ่นกันดาร ประทานน้ำพุ่งขึ้นมามากมายเหมือนทะเลให้เขาดื่ม
  • สดุดี 78:16 - พระองค์ทรงทำให้ธารน้ำไหลออกมาจากศิลา และให้น้ำไหลรินดั่งแม่น้ำ
  • สดุดี 78:17 - ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อพระองค์ กบฏต่อองค์ผู้สูงสุดในถิ่นกันดาร
  • สดุดี 78:18 - พวกเขาจงใจลองดีกับพระเจ้า โดยเรียกร้องอาหารที่อยากกิน
  • สดุดี 78:19 - เขาต่อว่าพระเจ้าว่า “พระเจ้าทรงจัดสำรับ ในถิ่นกันดารได้หรือ?
  • สดุดี 78:20 - เมื่อทรงตีหิน น้ำก็พุ่งออกมา ลำธารไหลล้น แต่พระองค์จะประทานอาหารให้พวกเราได้ด้วยหรือ? พระองค์จะประทานเนื้อให้คนของพระองค์ได้ด้วยหรือ?”
  • สดุดี 78:21 - เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงได้ยิน พระองค์ก็กริ้วยิ่งนัก เพลิงของพระองค์เผาผลาญยาโคบ พระพิโรธพลุ่งขึ้นต่อสู้อิสราเอล
  • สดุดี 78:22 - เพราะพวกเขาไม่ได้เชื่อในพระเจ้า หรือไว้วางใจว่าพระองค์จะทรงช่วยกู้ได้
  • สดุดี 78:23 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงบัญชาฟ้าเบื้องบน และทรงเปิดประตูสวรรค์
  • สดุดี 78:24 - พระองค์ทรงให้มานาโปรยปรายลงมาเป็นอาหารของพวกเขา พระองค์ประทานธัญญาหารจากฟ้าสวรรค์แก่พวกเขา
  • สดุดี 78:25 - มนุษย์ได้กินอาหารของทูตสวรรค์ พระองค์ประทานอาหารแก่พวกเขาจนอิ่มหนำ
  • สดุดี 78:26 - พระองค์ทรงให้ลมตะวันออกมาจากฟ้าสวรรค์ และทรงนำลมใต้มาโดยพระเดชานุภาพ
  • สดุดี 78:27 - พระองค์ทรงให้เนื้อตกลงมามากมายดั่งฝุ่น คือฝูงนกคลาคล่ำดั่งเม็ดทรายที่ชายทะเล
  • สดุดี 78:28 - พระองค์ทรงกระทำให้นกเหล่านั้นลงมาที่ค่ายพักแรม รอบๆ เต็นท์ของพวกเขา
  • สดุดี 78:29 - พวกเขาได้รับประทานจนอิ่มหนำ เพราะพระองค์ประทานให้จนสมอยาก
  • สดุดี 78:30 - แต่ก่อนที่พวกเขาจะอิ่ม ขณะที่เนื้อยังคาปากอยู่
  • สดุดี 78:31 - พระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อพวกเขา พระองค์ทรงประหารคนกำยำล่ำสันที่สุดของพวกเขา และทรงสังหารคนหนุ่มของอิสราเอล
  • สดุดี 78:32 - ทั้งๆ ที่เห็นทั้งหมดนี้แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อไป ทั้งๆที่เห็นการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ พวกเขาก็ยังไม่เชื่อ
  • สดุดี 78:33 - ดังนั้นพระองค์จึงทรงทำให้วันคืนของเขาจบลงอย่างสูญเปล่า และทำให้ปีเดือนของเขาจบลงด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
  • สดุดี 78:34 - เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าประหารพวกเขา พวกเขาจะแสวงหาพระองค์ พวกเขาจะกระตือรือร้นหวนกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง
  • สดุดี 78:35 - พวกเขาระลึกได้ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระศิลา ระลึกได้ว่าพระเจ้าผู้สูงสุดทรงเป็นพระผู้ไถ่ของพวกเขา
  • สดุดี 78:36 - แต่แล้วพวกเขาจะยกยอพระองค์ด้วยลมปาก มุสาต่อพระองค์ด้วยลิ้นของพวกเขา
  • สดุดี 78:37 - จิตใจของพวกเขาไม่ได้จงรักภักดีต่อพระองค์ พวกเขาไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์
  • สดุดี 78:38 - ถึงกระนั้นพระองค์ยังทรงเมตตากรุณา พระองค์ทรงอภัยความชั่วช้าของพวกเขา และไม่ได้ทำลายล้างพวกเขาเสียหมด หลายต่อหลายครั้งพระองค์ทรงยับยั้งความกริ้ว ไม่ให้พระพิโรธพลุ่งขึ้นเต็มที่
  • สดุดี 78:39 - พระองค์ทรงระลึกว่าพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ เป็นแค่ลมวูบหนึ่ง ซึ่งผ่านไปแล้วไม่หวนกลับมา
  • สดุดี 78:40 - พวกเขากบฏต่อพระองค์ในถิ่นกันดาร และกระทำให้พระองค์เศร้าพระทัยในดินแดนร้างเปล่าบ่อยเหลือเกิน!
  • สดุดี 78:41 - พวกเขาลองดีกับพระเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า พวกยั่วยุองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
  • สดุดี 78:42 - พวกเขาไม่ได้นึกถึงพระเดชานุภาพ ในวันที่พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากผู้ข่มเหงรังแก
  • สดุดี 78:43 - ในวันที่พระองค์ทรงสำแดงหมายสำคัญต่างๆ ในอียิปต์ ทรงสำแดงปาฏิหาริย์ต่างๆ ในดินแดนโศอัน
  • สดุดี 78:44 - พระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเลือด จนไม่มีใครอาจดื่มน้ำจากธารน้ำได้
  • สดุดี 78:45 - พระองค์ทรงส่งฝูงเหลือบมาเล่นงานพวกเขา และทรงส่งฝูงกบมาทำลายล้างพวกเขา
  • สดุดี 78:46 - พระองค์ทรงยกพืชผลของพวกเขาให้แก่ตั๊กแตน ทรงยกผลิตผลของพวกเขาให้แก่ฝูงตั๊กแตน
  • สดุดี 78:47 - พระองค์ทรงให้ลูกเห็บทำลายเถาองุ่นของพวกเขา และทรงให้น้ำค้างแข็งทำลายต้นมะเดื่อของพวกเขา
  • สดุดี 78:48 - พระองค์ทรงให้ลูกเห็บจัดการกับฝูงวัวของพวกเขา ทรงให้ฟ้าผ่าจัดการกับฝูงปศุสัตว์ของพวกเขา
  • สดุดี 78:49 - พระองค์ทรงระบายความกริ้วอันเกรี้ยวกราด ทรงระบายพระพิโรธ ความขุ่นเคืองพระทัย และการเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขา ทรงส่งเหล่าทูตสวรรค์ผู้ล้างผลาญมาลงโทษพวกเขา
  • สดุดี 78:50 - พระองค์ทรงเตรียมทางสำหรับพระพิโรธของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงไว้ชีวิตพวกเขา แต่ทรงหยิบยื่นพวกเขาให้แก่โรคระบาด
  • สดุดี 78:51 - พระองค์ทรงประหารลูกหัวปีทั้งสิ้นในอียิปต์ คือผลแรกแห่งวัยฉกรรจ์ในเต็นท์ของฮาม
  • สดุดี 78:52 - แต่พระองค์ทรงนำประชากรของพระองค์ออกมาอย่างฝูงแกะ พระองค์ทรงนำพวกเขาดั่งนำแกะผ่านถิ่นกันดาร
  • สดุดี 78:53 - พระองค์ทรงนำพวกเขามาอย่างปลอดภัย พวกเขาจึงไม่หวาดหวั่น แต่น้ำทะเลซัดท่วมศัตรูของพวกเขา
  • สดุดี 78:54 - ดังนั้นพระองค์ทรงนำพวกเขามาถึงเขตดินแดนบริสุทธิ์ของพระองค์ มายังดินแดนเทือกเขาซึ่งได้มาโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์
  • สดุดี 78:55 - พระองค์ทรงขับไล่ชนชาติต่างๆ ไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และแบ่งสรรปันส่วนดินแดนให้พวกเขาเป็นมรดก พระองค์ทรงให้เผ่าต่างๆ ของอิสราเอลตั้งถิ่นฐานในบ้านของคนเหล่านั้น
  • สดุดี 78:56 - แต่พวกเขาก็ยังลองดีกับพระเจ้า และกบฏต่อองค์ผู้สูงสุด พวกเขาไม่ยอมปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์
  • สดุดี 78:57 - เช่นเดียวกับบรรพบุรุษ พวกเขาไม่มีความจงรักภักดีและไม่มีความซื่อสัตย์ เหมือนคันธนูบิดที่ไว้ใจไม่ได้
  • สดุดี 78:58 - พวกเขายั่วยุพระพิโรธด้วยสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย พวกเขากระตุ้นความหึงหวงของพระองค์ด้วยรูปเคารพต่างๆ
  • สดุดี 78:59 - เมื่อพระเจ้าทรงได้ยิน พระองค์ก็ทรงพระพิโรธยิ่งนัก พระองค์ไม่ทรงยอมรับอิสราเอลเลย
  • สดุดี 78:60 - พระองค์ทรงละทิ้งพลับพลาแห่งชิโลห์ ที่ซึ่งพระองค์ประทับท่ามกลางมนุษย์
  • สดุดี 78:61 - และทรงยินยอมให้หีบพันธสัญญาของพระองค์ถูกยึดไป ทรงหยิบยื่นสง่าราศีของพระองค์ให้ตกอยู่ในมือของศัตรู
  • สดุดี 78:62 - พระองค์ทรงกระทำให้ประชากรของพระองค์ตกเป็นเหยื่อของคมดาบ พระองค์ทรงพระพิโรธต่อผู้ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ยิ่งนัก
  • สดุดี 78:63 - ไฟเผาผลาญหนุ่มฉกรรจ์ ส่วนหญิงสาวไม่มีเพลงสมรส
  • สดุดี 78:64 - เหล่าปุโรหิตถูกประหารด้วยดาบ และภรรยาม่ายของพวกเขาก็ไม่สามารถร้องไห้ไว้ทุกข์
  • สดุดี 78:65 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงลุกขึ้นดั่งตื่นจากบรรทม เหมือนนักรบสร่างจากฤทธิ์เหล้าองุ่น
  • สดุดี 78:66 - พระองค์ทรงรุกไล่ศัตรูของพระองค์ให้ล่าถอยไป พระองค์ทรงส่งพวกเขาไปสู่ความอัปยศนิรันดร์
  • สดุดี 78:67 - แล้วพระองค์ทรงปฏิเสธเต็นท์ของโยเซฟ พระองค์ไม่ได้ทรงเลือกชนเผ่าเอฟราอิม
  • สดุดี 78:68 - แต่พระองค์ทรงเลือกเผ่ายูดาห์ และภูเขาศิโยนที่พระองค์ทรงรัก
  • สดุดี 78:69 - พระองค์ทรงสร้างสถานนมัสการของพระองค์ให้สูงตระหง่านและยืนยง ดั่งพื้นปฐพีที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้เป็นนิตย์
  • สดุดี 78:70 - พระองค์ทรงเลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ และทรงนำเขาออกมาจากคอกแกะ
  • สดุดี 78:71 - ทรงนำเขาออกจากการเลี้ยงดูฝูงแกะ มาเป็นผู้เลี้ยงดูยาโคบประชากรของพระองค์ เลี้ยงดูอิสราเอลผู้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์
  • สดุดี 78:72 - และดาวิดได้เลี้ยงดูพวกเขาด้วยใจซื่อสัตย์สุจริต นำพวกเขาไปด้วยมืออันเชี่ยวชาญ
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 32:7 - จงระลึกถึงวันคืนเก่าก่อน คิดถึงชั่วอายุตั้งแต่อดีตนานมา ถามบิดาของท่านดูเถิด เขาจะบอกท่านได้ ถามบรรดาผู้อาวุโสเถิด พวกเขาจะอธิบายให้ฟัง
  • อิสยาห์ 65:17 - “ดูเถิด เราจะสร้างฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ จะไม่มีใครจดจำหรือนึกถึงสิ่งเก่าอีกต่อไป
  • ดาเนียล 9:6 - ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังเหล่าผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งกล่าวในพระนามของพระองค์แก่บรรดากษัตริย์ เจ้านาย บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนประชากรของแผ่นดิน
  • ดาเนียล 9:7 - “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงชอบธรรม แต่ทุกวันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายต้องอับอายขายหน้า ไม่ว่าชาวยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และปวงชนอิสราเอลทั้งใกล้และไกลในประเทศต่างๆ ซึ่งพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกระจัดกระจายไป เพราะเราไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:8 - ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทั้งหลายตลอดจนบรรดากษัตริย์ เจ้านาย และบรรพบุรุษต้องอัปยศอดสูเพราะได้ทำบาปต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:9 - องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและทรงให้อภัย แม้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายกบฏต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:10 - ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ได้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย และไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติที่พระองค์ประทานผ่านทางผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์
  • ดาเนียล 9:11 - อิสราเอลทั้งปวงได้ล่วงละเมิดบทบัญญัติของพระองค์ และหลงเตลิดไป ไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์ “ฉะนั้นคำสาปแช่งและโทษทัณฑ์ทั้งปวงซึ่งบันทึกไว้ในบทบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงตกแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำบาปต่อพระองค์
  • ดาเนียล 9:12 - พระองค์ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้วว่าจะนำภัยพิบัติยิ่งใหญ่มายังข้าพระองค์ทั้งหลายและผู้ครอบครอง ทั่วใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเสมอเหมือนที่เกิดกับเยรูซาเล็ม
  • ดาเนียล 9:13 - ภัยพิบัติทั้งปวงนี้เกิดกับข้าพระองค์ทั้งหลาย ตามที่บันทึกไว้แล้วในบทบัญญัติของโมเสส ถึงกระนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายก็ไม่ได้แสวงหาความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายโดยหันกลับจากบาป และไม่ได้ใส่ใจในความจริงของพระองค์เลย
  • ดาเนียล 9:14 - องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงรีรอที่จะนำภัยพิบัตินี้มายังข้าพระองค์ทั้งหลายเพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงชอบธรรมในทุกสิ่งที่ทรงกระทำ ถึงเพียงนี้แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายยังไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์
  • ดาเนียล 9:15 - “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงนำประชากรของพระองค์ออกจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงอานุภาพและผู้สถาปนานามของพระองค์ซึ่งยืนยงตราบเท่าทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทำผิดทำบาปไปแล้ว
  • เฉลยธรรมบัญญัติ 33:26 - “ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระเจ้าแห่งเยชูรุน ผู้ประทับอยู่บนฟ้าสวรรค์เพื่อช่วยท่าน ผู้ประทับเหนือเมฆด้วยพระบารมีของพระองค์
  • อิสยาห์ 42:9 - ดูเถิด สิ่งที่เราลั่นวาจาไว้ตั้งแต่แรกได้เกิดขึ้นแล้ว และเราประกาศสิ่งใหม่ๆ ตั้งแต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้น เราก็ประกาศแก่พวกเจ้าทั้งหลายแล้ว”
  • สดุดี 111:4 - พระองค์ทรงกระทำให้การอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่จดจำไม่รู้ลืม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและทรงเอ็นดูสงสาร
Bible
Resources
Plans
Donate