Parallel Verses
- พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย - อย่าลบหลู่คำเผยพระวจนะ
- 新标点和合本 - 不要藐视先知的讲论。
- 和合本2010(上帝版-简体) - 不要藐视先知的讲论。
- 和合本2010(神版-简体) - 不要藐视先知的讲论。
- 当代译本 - 不要轻视先知的信息。
- 圣经新译本 - 不要藐视先知的话语。
- 中文标准译本 - 不要轻视做先知传道 ,
- 现代标点和合本 - 不要藐视先知的讲论。
- 和合本(拼音版) - 不要藐视先知的讲论。
- New International Version - Do not treat prophecies with contempt
- New International Reader's Version - Don’t treat prophecies as if they weren’t important.
- English Standard Version - Do not despise prophecies,
- New Living Translation - Do not scoff at prophecies,
- Christian Standard Bible - Don’t despise prophecies,
- New American Standard Bible - do not utterly reject prophecies,
- New King James Version - Do not despise prophecies.
- Amplified Bible - Do not scorn or reject gifts of prophecy or prophecies [spoken revelations—words of instruction or exhortation or warning].
- American Standard Version - despise not prophesyings;
- King James Version - Despise not prophesyings.
- New English Translation - Do not treat prophecies with contempt.
- World English Bible - Don’t despise prophecies.
- 新標點和合本 - 不要藐視先知的講論。
- 和合本2010(上帝版-繁體) - 不要藐視先知的講論。
- 和合本2010(神版-繁體) - 不要藐視先知的講論。
- 當代譯本 - 不要輕視先知的信息。
- 聖經新譯本 - 不要藐視先知的話語。
- 呂振中譯本 - 別藐視神言之傳講了。
- 中文標準譯本 - 不要輕視做先知傳道 ,
- 現代標點和合本 - 不要藐視先知的講論。
- 文理和合譯本 - 毋藐預言、
- 文理委辦譯本 - 設教者勿藐視之、
- 施約瑟淺文理新舊約聖經 - 先知講道、勿藐視之、
- 吳經熊文理聖詠與新經全集 - 毋輕慢預言、
- Nueva Versión Internacional - no desprecien las profecías,
- 현대인의 성경 - 예언을 멸시하지 마십시오.
- Новый Русский Перевод - пророчеством не пренебрегайте,
- Восточный перевод - пророчеством не пренебрегайте,
- Восточный перевод, версия с «Аллахом» - пророчеством не пренебрегайте,
- Восточный перевод, версия для Таджикистана - пророчеством не пренебрегайте,
- La Bible du Semeur 2015 - ne méprisez pas les prophéties ;
- リビングバイブル - 預言する者を軽蔑してはいけません。
- Nestle Aland 28 - προφητείας μὴ ἐξουθενεῖτε,
- unfoldingWord® Greek New Testament - προφητείας μὴ ἐξουθενεῖτε.
- Nova Versão Internacional - Não tratem com desprezo as profecias,
- Hoffnung für alle - Wenn jemand unter euch in Gottes Auftrag prophetisch redet, dann geht damit nicht geringschätzig um.
- Kinh Thánh Hiện Đại - Đừng coi thường các lời tiên tri.
- พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ - อย่าดูหมิ่นการเผยคำกล่าวของพระเจ้า
Cross Reference
- วิวรณ์ 11:3 - เราจะมอบฤทธิ์อำนาจให้แก่พยานทั้งสองของเรา พวกเขาจะนุ่งห่มผ้ากระสอบและเผยพระวจนะเป็นเวลา 1,260 วัน
- วิวรณ์ 11:4 - พยานทั้งสองคือต้นมะกอกสองต้นและคันประทีปสองคันซึ่งอยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าของโลก”
- วิวรณ์ 11:5 - ไฟจะพุ่งออกจากปากพยานทั้งสอง เผาผลาญผู้คิดจะมาทำร้าย ผู้ใดคิดจะทำอันตรายพยานทั้งสองจะต้องตายเช่นนี้
- วิวรณ์ 11:6 - ทั้งสองมีฤทธิ์อำนาจที่จะปิด ท้องฟ้าไม่ให้ฝนตกขณะกำลังเผยพระวจนะและมีฤทธิ์ทำให้น้ำกลายเป็นเลือด ตลอดจนบันดาลภัยพิบัติทุกชนิดมากระหน่ำโลกกี่ครั้งก็ได้ตามที่ประสงค์
- วิวรณ์ 11:7 - และเมื่อทั้งสองเป็นพยานเสร็จแล้ว สัตว์ร้ายจากนรกขุมลึกจะขึ้นมาทำร้ายพวกเขา มันจะเอาชนะเขาและฆ่าเขา
- วิวรณ์ 11:8 - ซากศพของพยานทั้งสองจะถูกทิ้งอยู่กลางถนนแห่งมหานครซึ่งได้รับสมญานามว่า โสโดมและอียิปต์ ที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาถูกตรึงบนไม้กางเขน
- วิวรณ์ 11:9 - ตลอดสามวันครึ่งผู้คนจากทุกหมู่ชน ทุกตระกูล ทุกภาษา และทุกชนชาติจะมาจ้องมองซากศพของเขา และไม่ยอมให้ฝังศพนั้น
- วิวรณ์ 11:10 - ชาวโลกทั้งหลายจะมองศพของเขาด้วยความยินดีและจะเฉลิมฉลองให้ของขวัญแก่กัน เพราะผู้เผยพระวจนะทั้งสองได้ทรมานบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในโลก
- วิวรณ์ 11:11 - แต่หลังจากสามวันครึ่งแล้วพระเจ้าทรงระบายลมหายใจแห่งชีวิตเข้าในร่างนั้น เขาทั้งสองจึงลุกขึ้นยืน คนที่พบเห็นก็หวาดกลัวยิ่งนัก
- 1ซามูเอล 19:20 - ซาอูลจึงทรงส่งคนไปจับกุมตัวเขา แต่เมื่อคนของซาอูลเห็นกลุ่มผู้เผยพระวจนะกล่าวพยากรณ์อยู่ โดยมีซามูเอลยืนเป็นหัวหน้ากลุ่ม พระวิญญาณของพระเจ้าก็เสด็จมาเหนือคนของซาอูล พวกเขาจึงร่วมกล่าวคำพยากรณ์ด้วย
- 1ซามูเอล 19:21 - เมื่อซาอูลทรงทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระองค์ก็ทรงส่งคนมาอีก พวกเขาก็ร่วมพยากรณ์อีก ซาอูลทรงส่งคนมาเป็นครั้งที่สามและพวกเขาก็พยากรณ์อีกเช่นกัน
- 1ซามูเอล 19:22 - ในที่สุดซาอูลจึงเสด็จมาที่รามาห์ด้วยพระองค์เอง ขณะมาถึงบ่อน้ำใหญ่ที่เสคู พระองค์ตรัสถามว่า “ซามูเอลกับดาวิดอยู่ที่ไหน?” มีผู้ทูลว่า “อยู่ที่นาโยทในรามาห์”
- 1ซามูเอล 19:23 - ซาอูลจึงเสด็จไปนาโยทในรามาห์ แต่พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาเหนือซาอูล ซาอูลเดินไปพร้อมทั้งพยากรณ์ไปด้วยจนมาถึงนาโยท
- 1ซามูเอล 19:24 - พระองค์ทรงฉีกฉลองพระองค์ออก และกล่าวคำพยากรณ์ต่อหน้าซามูเอล และประทับนอนอยู่อย่างนั้นตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืน นี่เป็นเหตุที่ผู้คนพูดกันว่า “ซาอูลทรงอยู่ในกลุ่มผู้เผยพระวจนะด้วยหรือ?”
- 1ซามูเอล 10:10 - เมื่อซาอูลกับคนรับใช้มาถึงกิเบอาห์ ก็พบขบวนผู้เผยพระวจนะ พระวิญญาณของพระเจ้าลงมาเหนือซาอูลด้วยฤทธานุภาพ และเขาก็ร่วมทำนาย
- 1ซามูเอล 10:11 - เมื่อคนทั้งปวงที่เคยรู้จักซาอูลมาก่อน เห็นเขาทำนายร่วมกับบรรดาผู้เผยพระวจนะก็ถามกันว่า “เกิดอะไรขึ้นกับบุตรชายของคีช? ซาอูลเป็นผู้เผยพระวจนะกับเขาด้วยหรือ?”
- 1ซามูเอล 10:12 - ชายคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่นถามกลับว่า “แล้วคนเหล่านี้เป็นลูกของใคร?” เหตุการณ์นี้จึงเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า “ซาอูลเป็นผู้เผยพระวจนะกับเขาด้วยหรือ?”
- 1ซามูเอล 10:13 - เมื่อซาอูลกล่าวคำทำนายเสร็จแล้วก็ขึ้นไปยังสถานสูง
- 1เธสะโลนิกา 4:8 - ฉะนั้นคนที่ละเลยคำสอนนี้ไม่ได้ปฏิเสธมนุษย์ แต่ปฏิเสธพระเจ้าผู้ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์แก่ท่านทั้งหลาย
- 1โครินธ์ 13:2 - หากข้าพเจ้ามีของประทานในการเผยพระวจนะ สามารถหยั่งถึงข้อล้ำลึกทั้งปวงและความรู้ทั้งสิ้น และถ้าข้าพเจ้ามีความเชื่อที่เคลื่อนภูเขาได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไร
- 1โครินธ์ 13:9 - เพราะเรารู้เพียงบางส่วนและเราเผยพระวจนะเพียงบางส่วน
- 1ซามูเอล 10:5 - “หลังจากนั้นท่านจะไปถึงเมืองกิเบอาห์ของพระเจ้าซึ่งมีกองทหารรักษาการณ์ของพวกฟีลิสเตีย เมื่อท่านไปถึงจะพบขบวนผู้เผยพระวจนะลงมาจากสถานสูง เล่นพิณ รำมะนา เป่าขลุ่ย และดีดกระจับปี่ กล่าวคำทำนายมาตลอดทาง
- 1ซามูเอล 10:6 - พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะลงมาสวมทับท่านด้วยฤทธานุภาพ ท่านจะร่วมทำนายกับคนเหล่านั้น และท่านจะเปลี่ยนเป็นคนละคน
- 1โครินธ์ 12:10 - คนหนึ่งได้รับฤทธิ์เดชอันอัศจรรย์ อีกคนเผยพระวจนะได้ คนหนึ่งสังเกตแยกแยะวิญญาณต่างๆ ได้ ส่วนอีกคนสามารถพูดภาษาแปลกๆ และอีกคนแปลภาษาแปลกๆได้
- กิจการของอัครทูต 19:6 - เมื่อเปาโลวางมือบนพวกเขาพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จมายังคนเหล่านี้ พวกเขาก็พูดภาษาแปลกๆ และพยากรณ์
- 1โครินธ์ 14:29 - ส่วนผู้เผยพระวจนะควรพูดสักสองหรือสามคน และให้คนอื่นๆ ไตร่ตรองสิ่งที่เขาพูดให้ดี
- 1โครินธ์ 14:30 - หากมีการทรงสำแดงแก่บางคนที่นั่งอยู่ ให้ผู้พูดคนแรกนิ่งก่อน
- 1โครินธ์ 14:31 - เพราะว่าพวกท่านทั้งหมดจะได้เผยพระวจนะทีละคน เพื่อให้ทุกคนได้รับคำสอนและคำให้กำลังใจ
- 1โครินธ์ 14:32 - จิตวิญญาณของผู้เผยพระวจนะย่อมอยู่ในบังคับของผู้เผยพระวจนะ
- เอเฟซัส 4:11 - พระองค์เองทรงให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์
- เอเฟซัส 4:12 - เพื่อเตรียมประชากรของพระเจ้าสำหรับงานรับใช้ เพื่อว่าพระกายของพระคริสต์จะได้รับการเสริมสร้างขึ้น
- 1โครินธ์ 14:37 - ถ้าใครคิดว่าตนเป็นผู้เผยพระวจนะหรือมีของประทานฝ่ายจิตวิญญาณก็ให้เขายอมรับว่าข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนมาถึงท่านนี้เป็นพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
- 1โครินธ์ 14:38 - ถ้าเขาละเลยเรื่องนี้ ตัวเขาเองจะถูกละเลย
- 1โครินธ์ 14:39 - เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า จงกระตือรือร้นในการเผยพระวจนะ และอย่าห้ามการพูดภาษาแปลกๆ เลย
- 1โครินธ์ 12:28 - และในคริสตจักร พระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งอัครทูตเป็นอันดับแรก อันดับที่สองคือผู้เผยพระวจนะ อันดับที่สามคือผู้สอน จากนั้นคือผู้ทำการอัศจรรย์ ผู้มีของประทานในการรักษาโรค ผู้สามารถช่วยเหลือผู้อื่น ผู้มีของประทานในการบริหารงาน และผู้พูดภาษาแปลกๆ
- 1โครินธ์ 14:1 - จงดำเนินในวิถีแห่งความรักและใฝ่หาของประทานฝ่ายจิตวิญญาณอย่างกระตือรือร้น โดยเฉพาะการเผยพระวจนะ
- กันดารวิถี 11:25 - แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาในเมฆตรัสกับโมเสส และทรงนำพระวิญญาณที่อยู่เหนือโมเสสประทานให้อยู่เหนือผู้อาวุโสทั้งเจ็ดสิบคน เมื่อพระวิญญาณประทับอยู่เหนือพวกเขา เขาก็เผยพระวจนะอยู่ชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่เผยพระวจนะอีก
- กันดารวิถี 11:26 - แต่มีผู้อาวุโสสองคนในกลุ่มเจ็ดสิบคนคือ เอลดาดและเมดาดยังอยู่ในค่ายพัก ไม่ได้ออกไปที่พลับพลา พระวิญญาณก็เสด็จมาเหนือพวกเขาด้วย และพวกเขาก็เผยพระวจนะอยู่ในค่าย
- กันดารวิถี 11:27 - ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้โมเสสทราบว่า “เอลดาดและเมดาดกำลังเผยพระวจนะอยู่ในค่าย”
- กันดารวิถี 11:28 - โยชูวาบุตรนูนซึ่งคอยรับใช้โมเสสมาตั้งแต่หนุ่มๆ ท้วงว่า “โมเสส เจ้านายของข้าพเจ้า โปรดห้ามเขาเถิด!”
- กันดารวิถี 11:29 - แต่โมเสสตอบว่า “ท่านเดือดร้อนแทนเราหรือ? เราอยากให้ประชากรทุกคนขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้เผยพระวจนะและให้องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระวิญญาณเหนือพวกเขา!”
- 1โครินธ์ 11:4 - ชายทุกคนที่อธิษฐานหรือเผยพระวจนะโดยมีผ้าคลุมศีรษะอยู่ก็สร้างความอัปยศแก่ศีรษะของเขา
- 1โครินธ์ 14:22 - ฉะนั้นการพูดภาษาแปลกๆ จึงเป็นหมายสำคัญไม่ใช่สำหรับผู้เชื่อ แต่สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อ แต่การเผยพระวจนะนั้นสำหรับผู้เชื่อ ไม่ใช่ผู้ที่ไม่เชื่อ
- 1โครินธ์ 14:23 - ด้วยเหตุนี้หากทั้งคริสตจักรมาประชุมกันและทุกคนพูดภาษาแปลกๆ แล้วคนที่ไม่เข้าใจ หรือผู้ที่ไม่เชื่อเข้ามา จะไม่หาว่าท่านเสียสติไปหรือ?
- 1โครินธ์ 14:24 - แต่ถ้าหากผู้ที่ไม่เชื่อหรือคนที่ไม่เข้าใจเข้ามาขณะที่ทุกคนกำลังเผยพระวจนะ ทั้งหมดนี้ก็จะทำให้เขาสำนึกว่าเขาเป็นคนบาปและทั้งหมดนี้จะพิพากษาเขา
- 1โครินธ์ 14:25 - และความลับต่างๆ ในใจเขาจะถูกตีแผ่ ดังนั้นเขาจะกราบลงนมัสการพระเจ้าและร้องว่า “พระเจ้าสถิตท่ามกลางพวกท่านจริงๆ!”
- 1โครินธ์ 14:3 - แต่ทุกคนที่เผยพระวจนะนั้นกล่าวแก่คนทั้งหลายเพื่อทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น เพื่อให้กำลังใจและเพื่อปลอบโยน
- 1โครินธ์ 14:4 - ผู้ที่พูดภาษาแปลกๆ เสริมสร้างตัวเอง ส่วนผู้ที่เผยพระวจนะเสริมสร้างคริสตจักร
- 1โครินธ์ 14:5 - ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทุกคนพูดภาษาแปลกๆ ได้ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นข้าพเจ้าอยากให้ท่านเผยพระวจนะได้ ผู้ที่เผยพระวจนะนั้นยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่พูดภาษาแปลกๆ เว้นแต่เขาแปลภาษานั้นๆ ได้เพื่อคริสตจักรจะได้รับเสริมสร้าง
- 1โครินธ์ 14:6 - พี่น้องทั้งหลาย หากข้าพเจ้ามาหาท่านพร้อมกับพูดภาษาแปลกๆ ข้าพเจ้าจะอำนวยประโยชน์อันใดแก่ท่าน? นอกจากว่าข้าพเจ้าจะนำการทรงสำแดง หรือความรู้ หรือการเผยพระวจนะ หรือถ้อยคำสั่งสอนมาให้