Aa
บั้นปลายของกษัตริย์อาสา
(1พกษ.15:17-24)
1กษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลมาสู้รบกับยูดาห์ในปีที่สามสิบหกแห่งรัชกาลอาสา และบาอาชาทรงสร้างป้อมปราการที่เมืองรามาห์เพื่อปิดทางเข้าออกสู่เขตแดนของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์
2อาสาจึงทรงนำเงินและทองคำจากคลังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าและจากท้องพระคลังของพระราชวังของพระองค์เอง ส่งไปถวายกษัตริย์เบนฮาดัดแห่งอารัมซึ่งปกครองอยู่ที่เมืองดามัสกัส และตรัสว่า
3“ขอให้เราเป็นพันธมิตรกันเหมือนดังราชบิดาของเราทั้งสอง ข้าพเจ้าส่งเงินและทองนี้มากำนัลแด่ท่าน ขอให้ท่านตัดสัมพันธไมตรีกับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอล เพื่อเขาจะได้ถอยทัพไปจากข้าพเจ้า”
4เบนฮาดัดทรงเห็นชอบกับกษัตริย์อาสา และส่งแม่ทัพและกองกำลังไปโจมตีเมืองต่างๆ ของอิสราเอล พวกเขาพิชิตเมืองอิโยน ดาน อาเบลมาอิม16:4 เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่าอาเบลเบธมาอาคาห์ และเมืองคลังเสบียงทุกเมืองในนัฟทาลี
5เมื่อบาอาชาทราบเรื่องนี้ก็หยุดสร้างเมืองรามาห์และทิ้งงาน
6กษัตริย์อาสาจึงทรงนำชายชาวยูดาห์ทั้งหมดไปยังเมืองรามาห์ ให้ขนหินและไม้ซึ่งบาอาชาทรงใช้อยู่นั้นไปสร้างเมืองเกบาและเมืองมิสปาห์
7ครั้งนั้นผู้ทำนายฮานานีมาเข้าเฝ้ากษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์และทูลว่า “เนื่องจากท่านพึ่งกษัตริย์แห่งอารัมแทนที่จะพึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน กองทัพของกษัตริย์อารัมจึงหลุดมือท่านไปเสียแล้ว
8ครั้งนั้นชาวคูช16:8 คือ ประชากรจากเขตแม่น้ำไนล์ตอนบนกับชาวลิเบียมีกองทัพมหาศาล รถม้าศึกและพลม้า16:8 หรือพลรถรบมากมายไม่ใช่หรือ? แต่เมื่อท่านพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน
9เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทอดพระเนตรทั่วโลก เพื่อทำให้ผู้ที่ภักดีต่อพระองค์อย่างสุดใจเข็มแข็งขึ้น ท่านช่างโง่เขลาเสียจริงที่ทำเช่นนั้น นับแต่นี้ไปท่านจะต้องมีสงครามเรื่อยๆ”
10อาสาทรงพระพิโรธอย่างยิ่งที่ผู้ทำนายกล่าวเช่นนั้น ถึงกับให้นำตัวไปขังคุก ครั้งนั้นอาสากดขี่ข่มเหงราษฎรบางคนอย่างทารุณด้วย
11เหตุการณ์ต่างๆ ในรัชกาลอาสาตั้งแต่ต้นจนจบมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลและยูดาห์
12ในปีที่สามสิบเก้าแห่งรัชกาลอาสา พระองค์ประชวรหนักด้วยโรคที่พระบาท ถึงแม้โรคนั้นจะร้ายแรง แต่พระองค์ไม่ได้แสวงหาความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์พึ่งแต่แพทย์เท่านั้น
13แล้วในปีที่สี่สิบเอ็ดแห่งรัชกาลอาสา พระองค์ก็สิ้นพระชนม์และล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ
14ทรงถูกฝังไว้ในอุโมงค์ที่ทรงสกัดขึ้นเพื่อพระองค์เองในเมืองดาวิด เขาวางพระศพบนพระแท่นที่สุมด้วยเครื่องเทศและเครื่องหอมนานาชนิด และพวกเขาก่อไฟกองใหญ่ถวายพระเกียรติ